ธุรกิจพิพิธภัณฑ์ในกัมพูชาของเกาหลีเหนือ
โพสต์เมื่อ 28 มีนาคม 2559
ไม่นานนี้มีข่าวเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาที่น่าสนใจ และน่าแปลกใจ คือเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2558 ที่เมืองเสียมเรียบ มีการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่ชื่อว่า “the Angkor Panorama Museum” นำเสนอประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเขมรระหว่างศตวรรษที่ 9 -15 ผ่านรูปจำลองและภาพวาดขนาดใหญ่ แต่ที่กลายเป็นประเด็นเพราะเงินลงทุน แนวคิด การออกแบบ และศิลปินสร้างสรรค์ทั้งหมดไม่ได้มาจากคนกัมพูชาแต่มาจากเกาหลีเหนือ จากสตูดิโอที่ชื่อว่า “มันซูแด” (Mansudae)
เอาเข้าจริงคนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงเกาหลีเหนือมักนึกถึง #สังคมนิยม #คิมอิลซุง #คิมจองอิล #อาวุธนิวเคลียร์ แต่เรามักไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับศิลปะ งานออกแบบ พิพิธภัณฑ์มากนัก เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์เล่ารายละเอียดที่มาที่ไปของเรื่องนี้ และผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจดี นำมาเล่าสู่กันฟัง หากใครสนใจอ่านต้นฉบับคลิกตามนี้เลยค่ะ “An Art Powerhouse From North Korea” อย่าลืมว่าที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักให้ความสนใจเพราะว่ามันเป็นเรื่อง “เกาหลีเหนือ”
สตูดิโอมันซูแดไม่ได้ทำงานเฉพาะแต่ในเกาหลีเหนือ แต่รับงานทั่วโลกค่ะ เมื่อไม่กี่ปีนี้ศิลปินของมันซูแดรับงานสร้างอนุสาวรีย์และประติมากรรมในหลายประเทศทั้งในแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเยอรมนี
การจัดแสดงภายใน พิพิธภัณฑ์ Angkor Panorama Museum
(ภาพจาก http://www.angkorpanoramamuseum.com)
โปรเจ็คพิพิธภัณฑ์ Angkor Panorama Museum ถือเป็นงานชิ้นโบว์แดงในต่างประเทศของสตูดิโอเลยทีเดียว ใช้ผู้รังสรรค์งานศิลปะกว่า 63 ชีวิต ที่บินตรงจากเกาหลีเหนือมานั่งวาดภาพบนฉาก cyclorama กว่า 4 เดือน โดยมีสถาบันอัปสรา (Apsara) ภายใต้รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
สตูดิโอมันซูแดก่อตั้งในปี ค.ศ. 1959 ตั้งอยู่ในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสตูดิโอที่ผลิตงานศิลปะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานราว 4,000 คน มีตัวแทนติดต่อการค้าทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ผลิตงานศิลปะหลากหลายที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ในทศวรรษที่ 1990 มันซูแดเริ่มรับงานนอกประเทศ เช่น อนุสาวรีย์แอฟริกันเรเนอซองส์(African Renaissance) ที่เมืองดาร์การ์ ประเทศเซเนกัล น้ำพุเทพนิยาย(Fairy Tale Fountain) ที่เมืองแฟรงเฟิร์ต เยอรมนี รวมถึงหอศิลป์ที่มหานครปักกิ่ง เป็นต้น
ความมโหฬารของอนุสาวรีย์แอฟริกันเรเนอซองส์ ประเทศเซเนกัล
(ภาพจาก Sbreitinger, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=30798938)
น้ำพุเทพนิยาย(Fairy Tale Fountain) เมืองแฟรงเฟิร์ต เยอรมนี ฝีมือสตูดิโอมันซูแด
(ภาพจาก Epizentrum, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=24994483)
ส่วนที่มาของดีลที่กัมพูชาเกิดจากการติดต่อผ่านสภาการพัฒนาของกัมพูชาซึ่งเป็นคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล ด้วยข้อเสนอในการสร้างพิพิธภัณฑ์ในจังหวัดเสียมเรียบ แต่อย่างไรก็ดีกัมพูชาและเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นตั้งแต่สมัยเจ้านโรดมสีหนุ เมื่อทศวรรษที่ 1970 พระองค์ท่านลี้ภัยการเมืองและคิมอิลซุงได้เสนอที่ลี้ภัย เสด็จประทับที่เกาหลีเหนือในครั้งนั้นนานหลายปี และกลับไปเยือนทุกปี จนถึงกับเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ที่มีดารานำเป็นนักแสดงเกาหลีเหนือ แถมยังมีวลีจากพระองค์ที่ตรัสถึงคิมอิลซุงว่า “เป็นยิ่งกว่าเพื่อน มากกว่าพี่ชาย”
ทุกวันนี้ผู้ประกอบการเกาหลีเหนือต่างมาลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารหลายแห่งในกัมพูชา นักวิเคราะห์บางคนบอกว่านี่คือแหล่งที่มาของรายได้ที่ส่งกลับไปจุนเจือสถานะทางการเงินของรัฐบาลเผด็จการที่เปียงยาง อย่างไรก็ดีสำหรับมันซูแด พิพิธภัณฑ์ Angkor Panorama Museum แตกต่างจากโปรเจ็คอื่นๆ ที่ผ่านมาตรงที่เป็นธุรกิจแรกของมันซูแดที่ใช้เงินลงทุนมหาศาล นักวิชาการต่างประเทศบางคนตั้งข้อสังเกตว่า ดีลนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังทางการเมืองอะไรหรือเปล่า เพราะดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ใช่เป็นธุรกิจที่จะทำกำไรได้มากมาย
โปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองส่วนใหญ่เป็นผลงานจากสตูดิโอมันซูแด
(ภาพจาก http://www.koreanposters.com)
การบริหารจัดการของพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรกรายได้ทั้งหมดเป็นของมันซูแด หลังจากนั้น 10 ปี (หรือน้อยกว่านั้น หากบริษัทคืนทุนก่อน) ทั้งสองฝ่ายจะแบ่งรายได้กัน และระยะที่สามพิพิธภัณฑ์จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบันอัปสรา
ฝ่ายอัปสรารายงานว่า พิพิธภัณฑ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวที่จะสร้างแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมนครวัด ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเยี่ยมชมนครวัดถึง 2.5 ล้านคน เพิ่มจากจากปี ค.ศ. 2000 ที่มีเพียง 4 แสนคน คาดว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจะแวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์นี้ด้วย โดยเก็บค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์คนละ 15 เหรียญสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าชม พิพิธภัณฑ์ ณ ขณะนี้มีราว 20 คนต่อวัน!
หากไม่นับนครวัด ปราสาท และโบราณสถานจำนวนมากที่เป็นไซต์มิวเซียมขนาดใหญ่แล้ว กัมพูชายังมีพิพิธภัณฑ์ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นพิพิธภัณฑ์ของรัฐภายใต้การดูแลของสถาบันอัปสราและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่อย่างพนมเปญและเสียมเรียบ ที่โดดเด่นคงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่หดหู่น่าเศร้า และด้านมืดของมนุษย์ในสงครามกลางเมืองของกัมพูชา โดยเฉพาะในยุคที่เขมรแดงปกครอง อาทิ พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งโตลสเลง พิพิธภัณฑ์กับระเบิด พิพิธภัณฑ์สงครามกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอมรดกวัฒนธรรมของกัมพูชา อาทิ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกัมพูชา พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินครวัด พิพิธภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองอาเซียน