รายชื่อพิพิธภัณฑ์

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เป็นโครงการที่กระทรวงกลาโหมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2537 ภายในประกอบด้วยหมู่อาคารต่างๆ อาทิ ลานประกอบพิธี อาคารประกอบพิธี อาคารประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร อาคารภาพปริทัศน์ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง นิทรรศการภายในเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์และวีรกรรมสำคัญในการสู้รบต่างๆ ของไทย วิวัฒนาการเครื่องแบบทหารต่างๆ ของไทย เป็นต้น ส่วนผนังกำแพงโดยรอบอาคารประกอบพิธี จารึกนามผู้กล้าหาญที่เสียชีวิตในการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติในการสู้รบในสมรภูมิรบต่าง ๆ ส่วนภายในอาคารปริทัศน์แสดงภาพวาดสีน้ำมันเขียนด้วยสีอคริลิค ป็นภาพจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ร้อยเรียงประวัติศาสตร์ชาติไทยผ่านเหตุการณ์การสู้รบต่างๆ โดยมีอาจารย์ปรีชา เถาทอง เป็นหัวหน้าคณะออกแบบ

จ. ปทุมธานี

หออัครศิลปิน

สถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะเป็น “อัครศิลปิน” และพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะ "วิศิษฏศิลปิน" และจัดแสดงประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ 3 สาขา นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ของศิลปินแห่งชาติในโครงการส่งเสริมความรู้ต่างๆในแต่ละปี ภายในหออัครศิลปิน จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปะ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมถึงจัดแสดงผลงานจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ และภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ขององค์ "อัครศิลปิน" ไว้เป็นจำนวนมาก และได้นำเสนอบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรูปแบบดนตรี 3 มิติ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ริเริ่มโดยคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529 สืบเนื่องจากการได้รับโบราณวัตถุจากการขุดค้นภาคสนาม ในโครงการขุดค้นวัฒนธรรมบ้านเชียงที่บ้านอ้อมแก้วและบ้านธาตุ จ.อุดรธานี คณะขุดค้นนำโดย รศ.สุมิตร ปิติพัตร และได้รับบริจาคโบราณวัตถุและวัตถุทางวัฒนธรรมจำนวนมากจาก ดร.วินิจ วินิจนัยภาค รองเลขาธิการ สำนักพระราชวัง แต่เดิมพิพิธภัณฑ์จัดแสดง ณ บริเวณชั้น 2 อาคารวิจัย จนเมื่อปี พ.ศ.2544 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ส่งมอบโบราณวัตถุและวัตถุทางวัฒนธรรมทั้งหมดให้ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาเป็นผู้ดูแล คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาจึงได้ดำเนินการรวบรวมและขนย้ายวัตถุทั้งหมด มาจัดแสดง ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พิพิธภัณฑ์ฯ มีพันธกิจในการจัดแสดงวัตถุเพื่อการศึกษาค้นคว้า เอื้อให้เกิดความเข้าใจมนุษย์ในมิติต่าง ๆ ผ่านการชมวัตถุทางวัฒนธรรมและมุ่งไปสู่การความเข้าใจมนุษยชาติและกลุ่มบุคคล ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมและปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีต่อโลก พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินอกจากจะเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนการสอนและการศึกษาในทางมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาพิพิธภัณฑ์แล้วยังทำหน้าที่เป็นสถาบันความรู้ที่เปิดให้เป็นทางเลือกของการเรียนรู้เพื่อการศึกษาต่อเนื่องนับจากวัยเด็กถึงหลังเกษียณอายุและเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชุมชนรอบข้างและสังคมไทย

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ วัดชัยสิทธาวาส

วัดชัยสิทธาวาส เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันตก ในเขตหมู่บ้านกระแชง อำเภอสามโคก ปทุมธานี ในอดีตบ้านกระแชงเป็นตลาดน้ำใหญ่ มีเรือนแพหนาแน่นเต็มคุ้งน้ำ มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งแต่หน้าวัดไก่เตี้ยไปถึงวัดชัยสิทธาวาส มีเรือพายหนาแน่นทั้งเรือเล็กเรือให ขายสินค้านานาชนิด ในอดีตตลาดบ้านกระแชง เป็นตลาดใหญ่ของจังหวัดปทุมธานี ผู้คนสองฝั่งน้ำและบ้านเรือนในลำคลองต่าง ๆ ในเขตอำเภอสามโคกและอำเภอเมือง เมื่อจะจัดงานใหญ่ต้องลงเรือมาจับจ่ายสินค้าที่ต้องการในตลาดบ้านกระแชง ต่อมาภายหลังมีการตัดถนนเส้นทางสามโคก-ปทุม ผู้คนนิยมสัญจรทางบกมากขึ้น ตลาดน้ำบ้านกระแชงค่อยๆ ซบเซา ทั้งนี้วัดชัยสิทธาวาสได้รวบรวมเรือต่าง ๆ ที่เคยใช้ในอดีตมาเก็บไว้ อาจเรียกได้เป็นประจักษ์พยานสำคัญที่แสดงให้เห็นความรุ่งเรืองการค้าขายทางน้ำของบ้านกระแชงในอดีต

จ. ปทุมธานี

หอวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ วัดจันทน์กะพ้อ

วัดจันทน์กะพ้อ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยชาวมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอำเภอสามโคก ปทุมธานี แต่เดิมตั้งชื่อเป็นภาษามอญว่า “วัดโกว๊ะ” แปลว่า “ต้นจันทน์กะพ้อ” เพราะบริเวณดังกล่าวมีต้นจันทน์กะพ้อขึ้นอยู่มาก ซึ่งชาวมอญถือว่าเป็นไม้มงคลเหมือนต้นราชพฤกษ์ พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังพระประธานเขียนในราวปีพ.ศ. 2536 อาทิเช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องลายคราม เครื่องใช้โลหะ เครื่องแก้ว เครื่องไม้ รวมทั้งหนังสือโบราณ ใบลาน สมุดข่อย ทั้งภาษาบาลี ภาษามอญ และภาษาไทย

จ. ปทุมธานี

ศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรมท้องถิ่น ปทุมธานี

ศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรมท้องถิ่น ก่อตั้งโดยอาจารย์ทองคำ  พันนัทธี ปราชญ์ชาวบ้านของเมืองปทุมธานี ในปี 2545 โดยใช้ที่พักของอาจารย์เป็นที่ทำการของศูนย์ฯ ด้วยตั้งใจจะให้เป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี  ภายในมุมหนึ่งของบ้านจัดแสดงข้าวของต่าง ๆ ที่อาจารย์เก็บรวบรวมไว้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้นดินเผา และข้าวของอื่น ๆ ที่จัดแสดงยังมีหนังสือเก่าเกี่ยวกับจังหวัดปทุมธานี หม้อข้าวแช่ ตะเกียง พิมพ์ดีด เครื่องทองเหลือง ไม้พายตีลายหม้อ แผนที่จำลองเส้นทางและสถานที่ต่าง ๆ   ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามนิราศของสุนทรภู่ เป็นต้น

จ. ปทุมธานี

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อขยายและกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างกว้างขวางและทั่วถึง แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้บริการการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในรูปแบบหลากหลาย มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ตามความสนใจ สนุก ง่าย สัมผัสได้ และท้าทาย เช่น กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ ค่ายวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมเสริมทักษะ วิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ การบริการวิชาการ การประกวดแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ และท้องฟ้าจำลอง และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จฯพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์

วัดสิงห์เป็นวัดโบราณ ในบันทึกพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดคู่เมืองสามโคก พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์อยู่ในกุฏิโบราณ วัตถุจัดแสดงส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุที่ได้มาจากกรุโบราณของวัด อาทิ พระพุทธรูปโบราณ  แท่นพระบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงถวายแด่พญากราย พระภิกษุเชื้อสายเจ้ารามัญผู้เป็นเจ้าอาวาสขณะนั้น ภาพถ่ายรอยพระพุทธบาทไม้ซึ่งพระพุทธบาทไม้ของจริงนั้นวัดสิงห์ได้นำไปเก็บรักษาไว้อย่างดี จะนำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้สักการะเฉพาะวันงานประจำปีของวัดสิงห์เท่านั้น ส่วนที่เป็นของพื้นบ้านที่สำคัญ อาทิ ตุ่มสามโคกที่เป็นของแท้ดั้งเดิม ลักษณะเป็นตุ่มดินเผาเนื้อดินสีแดงสีหมากสุก อิฐมอญแปดรู  นอกจากนี้วัดสิงห์ยังมีเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่าแก่ ทรงคุณค่าทางโบราณคดี และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปลงรักปิดทองปางมารวิชัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธไสยาสน์(หลวงพ่อเพชร) ที่ชาวบ้านนับถือบูชา

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑ์กองอาสารักษาดินแดน

กองอาสารักษาดินแดน เป็นองค์กรขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็น ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน หลักการสำคัญในการจัดตั้งคือ เพื่อมีกำลังสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งยามปกติและสงคราม โดยรับสมัครราษฎรที่สมัครใจอาสาเข้ามาเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (สมาชิก อส.) พิพิธภัณฑ์กองอาสารักษาดินแดน ตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จัดแสดงประวัติความเป็นมาและภารกิจสำคัญต่างๆ ของหน่วยงาน

จ. ปทุมธานี