พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านดงคอน วัดโคกดอกไม้


ที่อยู่:
วัดโคกดอกไม้ บ้านดงคอน ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท 17140
โทรศัพท์:
056-481398
วันและเวลาทำการ:
กรุณาติดต่อล่วงหน้า
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม
ปีที่ก่อตั้ง:
2533
จัดการโดย:
ไม่มีข้อมูล

โดย: -

วันที่: 30 พฤษภาคม 2555

ไม่มีข้อมูล

พิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้านเก็บอดีตจากบ้านดงดอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

ชื่อผู้แต่ง: วลัยลักษณ์ ทรงศิริ | ปีที่พิมพ์: ปีที่11 ฉบับที่ 5 มี.ค. 2533

ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

พิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้าน เก็บอดีตจากบ้านดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

ชื่อผู้แต่ง: วลัยลักษณ์ ทรงศิริ | ปีที่พิมพ์: ปีที่ 11 ฉบับที่ 5 (มี.ค. 2533)

ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555


ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านดงคอน วัดโคกดอกไม้

บ้านดงคอนเป็นบ้านเมืองเก่าแก่ที่มีหลักฐานการอยู่อาศัยต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคทวารวดีต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พบหลักฐานทางโบราณคดีมากมาย ทั้งที่เป็นโบราณวัตถุและภาพถ่ายทางอากาศ ที่แสดงให้เห็นคูน้ำคันดินตามแบบฉบับของบ้านเมืองยุคทวารวดี แหล่งขุดค้นทางโบราณคดีที่อยู่ใกล้เคียงเช่นบ้านดอนกระเบื้อง เตาเผาแม่น้ำน้อย มีการ ติดต่อค้าขายระหว่างเมืองเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่บริเวณพื้นดินบ้านดงคอน จะพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะยุคทวารวดี ทำให้พระครูวิจิตรชยานุรักษ์ (หลวงพ่อพร้า) เจ้าอาวาสวัดโคกดอกไม้ ต้องการเก็บรักษาโบราณวัตถุเหล่านี้ให้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้กับชุมชนตนเอง และสร้างพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ขึ้นมา

ชุมชนบ้านดงคอนเป็นเขตติดต่อระหว่างสุพรรณบุรีและชัยนาท ชื่อดงคอนสันนิษฐานมาจากการหาบคอนของออกไปขายของชาวบ้าน เพราะไม่มีเส้นทางถนนออกจากหมู่บ้าน ส่วนวัดโคกดอกไม้วัดประจำชุมชน ก็ได้ชื่อมาจากการทำพลุ ตะไล ไฟพะเนียง จุดในเทศกาลต่างๆ ถ้าประกวดกันวัดนี้มักจะได้รางวัลเสมอ จึงชื่อว่าโคกดอกไม้ แต่ปัจจุบันไม่มีการทำดอกไม้ไฟแล้ว

พื้นที่ย่านนี้ในสมัย พ.ศ. 2500 ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต ได้มีการเข้ามาหักร้างถางป่าและทำถนนเข้ามายังชุมชน ตลอดจนมีผู้คนเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อทำไร่อ้อยมากมาย ระหว่างนั้นเองก็ได้มีการพบโบราณวัตถุต่างๆ จากพื้นดิน จำพวกลูกปัด ตุ๊กตาดินเผา เศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผา หรือเหรียญเงินโบราณมากมาย บางครั้งมีผู้กลัวอาถรรพ์ของเก่าก็จะนำมาถวายให้วัดโคกดอกไม้ แต่ส่วนใหญ่จะขายหรือสูญหายและไม่เห็นค่า จนเมื่อมีนักโบราณคดีเข้ามาสำรวจและเขียนบันทึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2517 ว่าเป็นเมืองโบราณยุคทวารวดี ประวัติศาสตร์ในย่านบ้านดงคอนแห่งนี้จึงเริ่มแจ่มชัดขึ้น 

หลวงพ่อพระครูวิจิตรชยานุรักษ์ (หลวงพ่อพร้า) ปัจจุบันอายุ 87 ปีแล้ว ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท สร้างเหรียญมงคลให้สาธุชนเช่าไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลมากมายหลายรุ่น พุทธคุณของท่านคือแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง แต่นอกจากท่านจะเป็นเกจิอาจารย์แล้วท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ได้หาทุนสร้างสาธารณะประโยชน์มากมายให้ชุมชน เช่นโรงพยาบาล โรงเรียน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในวัด รวมทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์นั้นเป็นอาคารที่แบ่งเป็นสองส่วน ด้านซ้ายของอาคารคือ ห้องสมุดของการศึกษานอกโรงเรียน ส่วนด้านขวาติดลูกกรงและเหล็กดัดเป็นอย่างดี นั่นคือ ส่วนจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ไม่ค่อยได้เปิดให้ชม เพราะเคยถูกขโมยของไปจำนวนมาก หากมีผู้สนใจชมต้องมาติดต่อและพระจะเปิดให้เข้าชมเอง ของจัดแสดงภายในส่วนมากจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา โอ่งขนาดใหญ่ทั้งโอ่งมังกรเคลือบ และโอ่งสังคโลกสีเขียว เครื่องมือหินบดยาโบราณ และเครื่องถ้วยชามกระเบื้องเก่าแก่ ซึ่งเดิมเคยเป็นหน้าบรรณของโบสถ์เก่า แต่เมื่อมีการซ่อมแซมบูรณะโบสถ์ จึงถอดเครื่องกระเบื้องเหล่านี้ลงมาบางชิ้นก็แตกหักเสียหาย ชิ้นที่สมบูรณ์ถูกลักขโมยไปบ้าง ปัจจุบันเหลือไม่มากแล้ว นอกจากนั้นก็มีหีบพระธรรมเก็บหนังสือใบลานเก่าและตำรายาโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังไม่เคยมีนักวิชาการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยจัด และยังไม่มีป้ายอธิบายหรือการจำแนกประเภทข้าวของ อีกทั้งปัจจุบันมีปัญหาการลักขโมยของในวัดมากขึ้น หลวงพ่อพร้าจึงได้นำของชิ้นสำคัญไปเก็บในที่ปลอดภัย สิ่งของจัดแสดงที่น่าสนใจมีอีกอย่างคือ ไม้นวดงวงตาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนบ้านดงคอนที่สมัยก่อนทำน้ำตาลโตนดกัน 

นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้วอาคารภายในวัดโคกดอกไม้ ก็มีความน่าสนใจ เช่นโบสถ์ที่มีคลองเล็กๆ ล้อมรอบเป็นสี่เหลี่ยม หลวงพ่อทำไว้เพื่อให้ชาวบ้านมาลอยกระทงในวันสงกรานต์ เมื่อถึงเทศกาลคนย่านสรรคบุรีและชัยนาทจะมาทำบุญลอยกระทงที่นี่เป็นจำนวนมาก ถัดมาเป็นวิหารและเจดีย์เก่าที่สร้างอยู่บนเนินดิน เล่ากันว่ามีคนลองดีนำปืนมายิงขึ้นฟ้าให้ข้ามเจดีย์ก็ยิงไม่ออก สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ได้บูรณะใหม่หลายครั้งจนไม่เหลือสภาพเดิมแล้ว ที่น่าสนใจอีกอย่างคือโรงลิเกไม้ ที่อยู่คู่วัดมานาน เป็นโรงมหรสพพื้นบ้านที่เหลือให้เห็นไม่มากในประเทศไทย ยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก แต่ทางวัดมีโครงการจะปรับขยายพื้นที่ อาจถูกรื้อในเร็วๆ นี้

นอกจากโบราณวัตถุและเรื่องราวสมัยทวาราวดีของบ้านดงคอนที่น่าสนใจแล้ว ประวัติศาสตร์ชุมชนยุคใหม่ก็น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากภูมิประเทศของวัดโคกดอกไม้และชุมชนบ้านดงคอนติดกับทางน้ำลำยายคลีที่ไหลเชื่อมต่อไปสู่แม่น้ำน้อย และไปไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นตลาดย่านการค้าเก่าที่โด่งดัง ว่ากันว่าสมัยที่โจรร้ายหรือที่เรียกว่าเสือชุกชุม เช่น เสือฝ้าย ที่ออกปล้นย่าน จ.สุพรรณบุรี จะมากบดานอยู่ที่บ้านดงคอนนี้ เนื่องจากเคยมาปล้นแล้วไม่สำเร็จเพราะวัดโคกดอกไม้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่ว่าจะเสือร้ายรายไหนมาปล้นก็ไม่สำเร็จ ผู้มีวิชาอาคมก็ต้องมาพ่ายความขลังของที่นี่ จึงได้ใช้ที่แห่งนี้มากบดานเสียเลย แต่ในที่สุดก็ถูกขุนพันธ์ผู้มากด้วยคาถา ปราบเหล่าเสือจนสิ้นฤทธิ์ที่จังหวัดอื่น เป็นเรื่องเล่าที่น่าตื่นเต้นกับเหตุการณ์บ้านเมืองอีกยุคหนึ่ง

หลักฐานความเฟื่องฟูของตลาดบ้านดงคอนก็คือ รอบๆ วัดยังคงมีบรรยากาศบ้านเรือนไม้เก่าหลังใหญ่ และห้องแถวตลาดแบบดั้งเดิมให้เห็นอยู่ไม่มากนัก หากใครสนใจอยากเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และกราบหลวงพ่อพร้า ต้องติดต่อล่วงหน้ามาที่วัดโคกดอกไม้ ก่อนเพื่อความสะดวกในการเข้าชม

สำรวจเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2553
ชื่อผู้แต่ง:
-