รายชื่อพิพิธภัณฑ์

ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา

ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนาเป็นหน่วยงานภายใต้งานศิลปวัฒนธรรมและชุมชน คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำหน้าที่ในการวิจัย จัดเก็บ และเผยแพร่ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมล้านนา และศิลปวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่อง มีที่ทำการ ณ อาคารคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (มหาอินทร์) ซึ่งเป็นอาคารเก่าอายุประมาณ 120 ปี ซึ่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับบริจาคจากคุณเรียงพันธุ์ ทิพยมณฑล และอาจารย์จุลทัศน์ กิติบุตร อาคารคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ มหาอินทร์ เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างลักษณะพื้นถิ่นและอิทธิพลตะวันตกอย่างลงตัว เป็นอาคารสองชั้น หลังคาทรงมะนิลา มีระเบียงโดยรอบ เป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมอิทธิพลตะวันตกที่สร้างในเมืองเชียงใหม่ยุคแรก ภายในจัดแสดงความรู้ด้านสถาปัตยกรรมล้านนาในยุคสมัยต่างๆ

จ. เชียงใหม่

ศูนย์มรดกเมืองเทศบาลเชียงใหม่

เดิมชื่อ "หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่" โดยโครงการจัดตั้งหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ เริ่มขึ้นเมื่อราว พ.ศ.2534 ในครั้งนั้นมีการกำหนดพื้นที่เพื่อการจัดสร้างหอศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งระดมนักวิชาการท้องถิ่นทำการศึกษาในประเด็นต่างๆ ในพ.ศ. 2540 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดสรรงบประมาณเพื่อการจัดตั้ง และเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการ JBIC เพื่อการบูรณะอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่หลังเดิมที่สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2467 เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2545 กระทั่งปัจจุบันได้มีการปรับปรุงการจัดแสดงและเปลี่ยนชื่อเป็น "ศูนย์มรดกเมืองเชียงใหม่"

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์เสรีไทยอนุสรณ์

พิพิธภัณฑ์เสรีไทยอนุสรณ์ ก่อตั้งโดยกรุงเทพมหานคร โดยการออกแบบอาคารเสรีไทยอนุสรณ์จำลองมาจากทำเนียบท่าช้าง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเคยเป็นกองบัญชาการเสรีไทย ภายในนำเสนอเรื่องที่เกี่ยวกับการวางแผน การดำเนินการทางการทูต ปฏิบัติการใต้ดิน และยังนำเสนอเรื่องที่เกี่ยวกับขบวนการเสรีไทยผ่านวัตถุในสมัยนั้นซึ่งรวบรวมไว้ภายในห้องจัดแสดงสิ่งของ ได้แก่ ใบปลิวต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ดาบซามูไรของนายทหารญี่ปุ่น วิทยุของคุณจำกัด พลางกูร ผู้แทนขบวนการเสรีไทยผู้เดินทางไปเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรที่ประเทศจีนและไปเสียชีวิตที่นั่น ร่มที่ใช้กระโดดจากเครื่องบิน ภาพลายเส้นการกระโดดร่ม โดยหม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ และโปสการ์ดที่ทหารสัมพันธมิตรเขียนมาขอบคุณคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือระหว่างสงคราม จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือวีรกรรมของเสรีไทย และบทสัมภาษณ์ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ คู่ชีวิตของปรีดี พนมยงค์

จ. กรุงเทพมหานคร

พิพิธภัณฑ์โชคชัย

พิพิธภัณฑ์โชคชัยจัดแสดงของสะสมส่วนตัวของคุณโชคชัย บุลกุล ผู้ก่อตั้งฟาร์มโชคชัย วัตถุจัดแสดงมีหลากหลายประเภทตามความสนใจของท่านเจ้าของ มีอาคารจัดแสดงหลักสูง 5 ชั้น แต่ละชั้นจะจัดหมวดหมู่ข้าวของ จึงเป็นการแบ่งการจัดแสดงไปในตัว ชั้นบนสุดจำลองบรรยากาศป่าดงพญาเย็นเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ในสมัยที่ยังมีสัตว์ป่าและไข้ป่าชุกชุม เป็นการปูพื้นให้เห็นการบุกเบิกทำฟาร์มโชคชัย ชั้นสามบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตในแต่ละช่วงวัย ครอบครัว การเรียน การทำงาน การบุกเบิกฟาร์ม เหตุการณ์ที่สำคัญในชีวิตของคุณโชคชัย บุลกุล ส่วนชั้นอื่นๆ แสดงของสะสมต่างๆ อาทิ โมเดลรถ เขาสัตว์ อาวุธปืน กล้องถ่ายภาพ ฯลฯ นอกจากอาคารจัดแสดงหลักแล้ว บริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีอาคารทรงไทยที่ชั้นล่างจัดแสดงของสะสมที่เป็นเครื่องถ้วยเบญจรงค์ ส่วนชั้นบนจำลองการใช้ชีวิตแบบไทยให้นักท่องเที่ยวได้ชม และด้วยความชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่วัยเยาว์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงมีสวนสัตว์ขนาดย่อมให้ได้ชมด้วย โดยแสดงสัตว์เผือกที่เชื่อว่าเป็นสิริมงคล อาทิ เสือ สิงโต จระเข้ ลิง ปลามังกร งู

จ. ปทุมธานี

พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม

พิพิธภัณฑสถานคลองท่อม ก่อตั้งขึ้นโดย พระครูอาทรสังวรกิจ (พระสวาส กนฺตสงฺวโร) (นามสกุลเดิม เอี่ยวน้อย) อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองท่อม เจ้าคณะอำเภอคลองท่อมและอำเภอเกาะลันตา ได้รวบรวมลูกปัดโบราณแบบต่างๆ รวมทั้งโบราณวัตถุอื่นๆ ที่พบในควนลูกปัดหลังวัดคลองท่อม มาเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2525 ต่อมาชาวบ้านได้นำโบราณวัตถุต่างๆ ที่มีไว้ในครอบครองมาบริจาคเพิ่มเติม รวมทั้งบริจาคเงิน วัสดุ และอุปกรณ์ในการจัดทำพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งองค์กรและหน่วยงานต่างๆ เช่น เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองท่อมใต้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ นักวิชาการ และกรมศิลปากร ได้ร่วมให้ความช่วยเหลือและร่วมสนับสนุนในการจัดแสดงโบราณวัตถุและการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง ลูกปัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของคลองท่อม คือ ลูกปัดแก้วโมเสกรูปใบหน้าคน ซึ่งมีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์จึงนิยมเรียก “ลูกปัดสุริยเทพ” และลูกปัดชนิดต่างๆ เช่น ลูกปัดมงคล ลูกปัดแก้วโมเสก ลูกปัดนกแสงตะวัน

จ. กระบี่

พิพิธภัณฑ์ชุมชนดอยเวียง-ดอยวง

พื้นที่ดอยเวียงและดอยวง มีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งโบราณคดีในยุคหินใหม่ คือมีอายุอยู่ในช่วงประมาณ 5,000 – 3,000 ปี ที่มาของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์โดยชาวบ้านเหล่าพัฒนา คือราวปี พ.ศ. 2553 ชาวบ้านที่ทำไร่ไถนามักจะพบเศษภาชนะดินเผา จึงมีการพูดคุยและสันนิษฐานกันในหมู่บ้านว่า บริเวณบ้านเหล่าพัฒนาในบริเวณดอยเวียงและดอยวง อาจจะเป็นแหล่งโบราณคดีคล้ายๆ กับแหล่งโบราณคดีเตาเผาเวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ที่ขุดพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณ    กลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่สนใจศึกษาด้านโบราณคดี  จึงเริ่มค้นหาแหล่งเตาเผาโบราณในพื้นที่ป่าพื้นที่ดอยภายในหมู่บ้าน และได้พบเศษภาชนะดินเผา และได้ติดต่ออาจารย์สายันต์ ไพรชาญจิตร์ นักโบราณคดี มาสำรวจขุดค้นบริเวณดอยเวียงและดอยวง ด้วยที่ชาวบ้านเห็นความสำคัญของแหล่งโบราณคดีดอยเวียงดอยวง จึงร่วมกันก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ของชุมชนขึ้น เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุที่ชาวบ้านพบและเก็บได้ขณะทำการเกษตรกรรม รวมถึงวัตถุที่ชาวบ้านพบบนดอยเวียงและดอยวงเมื่อครั้งไปสำรวจ และข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ชาวบ้านบริจาค โดยอาคารของพิพิธภัณฑ์ได้ขอใช้พื้นที่ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลป่าแดด ในส่วนที่เป็นหอประชุมหมู่บ้านเดิม มาจัดทำเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบทั้งที่ดอยเวียงและดอยวง อาทิ เศษกำไลหิน  ขวานหินแบบมีบ่าและไม่มีบ่า    ก้อนดินที่มีเศษภาชนะดินเผาฝังติดอยู่ ภาชนะดินเผาจำพวก หม้อ ไห  เป็นต้น   ส่วนโบราณวัตถุชิ้นสำคัญคือกงจักรหิน ซึ่งไม่ได้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์เพราะเกรงว่าจะสูญหาย จะนำมาให้ชมได้หากติดต่อล่วงหน้า 

จ. เชียงราย