ข่าวสารพิพิธภัณฑ์

"พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้" รังสรรค์งาน “มาลัยดอกไม้ไทยให้แม่” เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน

"พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้" จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเทศกาล “มาลัยดอกไม้ไทยให้แม่” เทศกาลดอกไม้ประจำปี ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 5-14 ส.ค. นี้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ   สกุล อินทกุล ศิลปินนักจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า งานที่จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ และเพื่อให้เยาวชนไทยและสาธารณชนได้ร่วมอนุรักษ์และสืบสานในงานศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านงานดอกไม้ไทย รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้   รวมทั้งเรื่องราวของพวงมาลัยดอกไม้ไทยในแง่มุมต่างๆ ร่วมกับผู้แทนจากองค์สนับสนุนหลัก ได้แก่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) พร้อมชมตัวอย่างผลงานอุโมงค์มาลัยดอกไม้และการเวิร์กชอปร้อยพวงมาลัยดอกไม้สด   และยังกล่าวต่อว่า งานนี้จะนำเสนองานวัฒนธรรมดอกไม้ไทยผ่านมุมมองและกระบวนการการออกแบบที่แปลกใหม่น่าสนใจ และตื่นตากับ “อุโมงค์มาลัยดอกไม้” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปากคลองตลาด ตำนานตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยประดิษฐ์จากดอกไม้สด ดอกไม้พลาสติกและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น หยวกกล้วย เข็มร้อยมาลัย โอเอซิส กรรไกร เป็นต้น   ร่วมสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านงานมาลัยดอกไม้ ในงาน “มาลัยดอกไม้ไทยให้แม่” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-14 ส.ค. 59 ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์ที่ 8 ส.ค.) ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ซอยองครักษ์ 13 ถนนสามเสน 28 โดยค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่คนละ 150 บาท เด็กและผู้สูงอายุคนละ 75 บาท   นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสาธิตการจัดดอกไม้ในรูปแบบต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (วันละ 2 รอบ เวลา 12.00-13.00 น. และ 14.30-15.30 น.) เวิร์กชอปงานประดิษฐ์มาลัยดอกไม้สดของไทย โดย อ.อภิรุม สวนสิริ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญการร้อยมาลัยดอกไม้สด มีค่าลงทะเบียนครั้งละ 500 บาท ต่อ 1 คน รับจำนวนจำกัด (วันละ 3 รอบ เวลา 10.30-12.00 น. 13.00-14.30 น. และ 15.30-17.00 น.) รวมทั้งเวิร์กชอปงานพับกระดาษเป็นพวงมาลัยโดย อ.วิริน เชาวนะ มีค่าลงทะเบียนครั้งละ 1,200 บาท ต่อ 1 คน รับจำนวนจำกัด (มีเฉพาะวันที่ 6 และ 13 ส.ค. ระหว่าง 13.00-16.00 น.)              สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งในการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่โทร 0 2669-3633-34 เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์) ติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.floralmuseum.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/TheMuseumofFloralCulture   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 28 กรกฎาคม 2559

'กรมศิลป์' ยันช่วยซื้อที่ดินให้พิพิธภัณฑ์เอกชนไม่ได้

จากกรณี รศ.วราพร สุรวดี ประธานกรรมการมูลนิธิอินสาท-สอาง วัย 80 ปี ผู้ดูแลสนับสนุนกิจการด้านต่างๆของ ‘พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก’ ย่านบางรัก เปิดรับบริจาคเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินด้านข้างพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากเจ้าของที่ดินดังกล่าวมีแผนสร้างตึกสูง 8 ชั้น ซึ่งจะบดบังทัศนียภาพของพิพิธภัณฑ์ และอาจส่งผลกับโครงสร้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีหลายหลัง อีกทั้งเป็นอาคารอนุรักษ์อีกด้วย จึงตัดสินใจทำจดหมายถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อร้องขอให้ซื้อที่ดินดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล รศ.วราพรจึงติดต่อขอซื้อที่ดินซึ่งมีราคา 40 ล้านบาท   โดยนำเงินส่วนตัวมัดจำแล้ว 30 ล้านบาท มีกำหนดชำระส่วนที่เหลือภายใน 2 กันยายนนี้ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องกังกล่าวจากสื่อแล้ว อย่างไรก็ตาม ในสวนของกรมศิลปากรซึ่งเป็นหน่วยงานราชการนั้น คงไม่สามารถนำเงินงบประมาณไปช่วยซื้อที่ดินให้กับพิพิธภัณฑ์ที่เป็นของเอกชนได้   นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ถ้าเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนแล้ว กรมศิลปากรสามารถเข้าไปช่วยเหลือในทางวิชาการได้ถ้ามีการร้องขอมา อาทิเช่น ให้คำปรึกษาเรื่องการจัดแสดง ให้ยืมโบราณวัตถุไปจัดแสดงหมุนเวียน หรืออาจช่วยออกแบบ วางแผนการปรับปรุงอาคารสถานที่ให้ ซึ่งก็ช่วยให้พิพิธภัณฑ์เอกชนประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ แต่ไม่สามารถนำเงินราชการมาช่วยซื้อที่ดินให้ได้   “ส่วนเรื่องผังเมือง การสร้างตึกสูงบดบังทัศนียภาพนั้น กรมศิลปากรไม่สามารถจัดการใดๆ ได้ จะจัดการได้เฉพาะในกรณีที่อยู่ในพื้นที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น" นายอนันต์ กล่าว   ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 21 กรกฎาคม 2559

รมว.วัฒนธรรมลงพื้นที่ จ.ระยอง เปิดงานถนนสายวัฒนธรรม-พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง

             เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดโครงการถนนสายวัฒนธรรม “ประแส สร้างสุข” บริเวณชุมชนปากน้ำประแส ต.ประแส อ.แกลง จ.ระยอง มี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอแกลง และนายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำประแส ร่วมในพิธี               ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการปิดถนนภายในชุมชน ให้ชาวบ้านนำสินค้าท้องถิ่นออกมาวางจำหน่าย เช่น กะปิ น้ำปลา อาหารคาวหวาน และขนมพื้นบ้านให้นักท่องเที่ยวได้ชิม และเลือกซื้อหา นอกจากนี้ ยังได้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตภูมิปัญญาและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และการนำเสนอวิถีชีวิตชุมชนชาวปากน้ำประแสให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม โดยจะเปิดทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.30น.-22.00 น.ของทุกเดือน               นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการสนับสนุนการเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม ให้เยาวชน และประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และมุ่งเน้นการขับเคลื่อนตามนโยบาย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อสร้างความมั่นคงทางมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมชุมชน สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม มีภูมิคุ้มกัน นำไปสู่การพัฒนาชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน               การจัดกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม “ประแส สร้างสุข” ดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำมิติความหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่นมาขับเคลื่อน และให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดคุณค่าทางสังคม จิตใจ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน โดยมุ่งหวังที่จะให้มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ถนนสายวัฒนธรรมดังกล่าว เป็นเสน่ห์ที่น่าจดจำแก่ผู้มาเยือน               โดยเฉพาะถนนสายวัฒนธรรม “ประแส สร้างสุข” แห่งนี้ มีมิติความหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเป็นชุมชนเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีบ้านเรือนริมทะเลปลูกติดกันกว่า 100 หลังคาเรือน มีวิถีชีวิต และอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น               และในวันที่ 2 กรกฎาคม 2559 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางไปเปิดพิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง เลขที่ 162/6 หมู่ 5 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ของนายสมเกียรติ บุญช่วยเหลือ อดีตข้าราชการครู เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของเก่าโบราณหายากไว้เป็นจำนวนมาก โดยใช้เวลาสะสมมากว่า 40 ปี มี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอแกลง พ.ต.อ.วรวุฒิ ชัยเจริญ ผู้กับการสถานีตำรวจภูธรกร่ำ และนายคเชนทร์ แจ่มใส นายกเทศมนตรีตำบลกร่ำ ร่วมในงาน               ด้าน นายสมเกียรติ บุญช่วยเหลือ หรือครูกัง อดีตข้าราชการครู กล่าวว่า เริ่มสะสมของเก่ามาตั้งแต่ยังรับราชการ ปี พ.ศ.2517 จนกระทั่งมีเพื่อนให้แนวคิดควรเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่า เพื่อให้ประชาชน และเยาวชนรุ่นหลังได้ชม จึงได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนเข้าชมดังกล่าว               นายวีระ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์เอกชน และท้องถิ่นประมาณ 1,000 แห่ง มีทั้งปิดตัวไป และยังเปิดให้เข้าชม ส่วนพิพิธภัณฑ์บ้านครูกังแห่งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุรักษ์ของเก่าไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ดู และศึกษา ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายพร้อมให้การส่งเสริมที่จะดึงคนให้เข้ามาชมอย่างต่อเนื่อง และจะให้การสนับสนุน โอบอุ้มให้ยืนหยัดเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนไทยตลอดไป   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 2 กรกรฎาคม 2559

พิธีเปิดนิทรรศการถาวรสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี

วันที่ 30 พฤษภาคม 2559 พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดพิธีเปิดนิทรรศการถาวรสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถ.หลานหลวง โดยได้รับเกียรติจากนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานตัดริบบินเปิดและเยี่ยมชมนิทรรศการ ในงานมีคณะผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า กรรมการบริหารสถาบัน เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ สื่อมวลชน และประชาชนเข้าร่วม ภายในนิทรรศการถาวรจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระจริยวัตรของรสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี รวมทั้งจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ วัตถุสิ่งของที่มีความเกี่ยวเนื่อง นำเสนอผ่านแบบจำลองสื่อผสมมัลติมีเดียที่ทันสมัยและเข้าใจง่าย   ข้อมูลจาก สถาบันพรปกเกล้า วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

ฝรั่งเศสอ่วม น้ำท่วมหนัก! ปิดพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รบ.ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ชาวฝรั่งเศสอ่วมหลายพื้นที่ในกรุงปารีส ประสบภัยน้ำท่วม แม่น้ำแซนเอ่อล้นฝั่งสูงกว่าระดับปกติถึง 6 เมตร หลังฝนตกหนักติดต่อหลายวัน จนทางการต้องสั่งปิดพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ประสบอุทกภัยรุนแรงแล้ว   เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในเยอรมนี และฝรั่งเศส หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในสองประเทศนี้แล้ว 6ราย ว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 59 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย   ข่าวแจ้งว่า ทางการฝรั่งเศส ยังได้ปิดพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส ในวันที่ 3 มิ.ย. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายงานศิลปะที่เสี่ยงจะเกิดความเสียหายหากเกิดน้ำท่วมพิพิธภัณฑ์ ส่วนเส้นทางรถไฟใต้ดินสายหนึ่งในกรุงปารีส ก็ปิดให้บริการเช่นกัน โดยจากภาพถ่ายทางอากาศได้แสดงให้เห็น สภาพความเสียหายในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูง จนทำให้มีประชาชนหลายพันคนต้องติดอยู่ในบ้าน ออกไปข้างนอกไม่ได้ ขณะที่มีรายงาน เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส พบหญิงชราวัย 86 เสียชีวิตในบ้านซึ่งถูกน้ำท่วม ในเมืองเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส เมื่อวันพุธที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา   ด้านนายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศส ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในเมืองเนมูร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปารีสไปทางใต้ประมาณ 75 กม. ซึ่งประสบอุทกภัยรุนแรง จนทำให้ชาวเมือง 3,000-13,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยชั่วคราว   ทั้งนี้ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อหลายวัน รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกคำเตือนระวังเกิดอุทกภัย ถึงขั้นสีส้ม บริเวณตอนกลางของกรุงปารีส เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำแซนได้เอ่อสูงขึ้นจากระดับปกติถึง 6 เมตร หลังฝนตกหนักติดต่อหลายวัน อีกทั้งสำนักอุตุนิยมวิทยายังคาดว่าจะเกิดฝนตกลงมากขึ้น   ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 3 มิถุนายน 2559

“พิพิธภัณฑ์ระโนด” เปิดแล้ว!

       เมื่อวันที่ 18 พ.ค. เทศบาลตำบลระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา เปิดพิพิธภัณฑ์ระโนด เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของระโนดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำของ จ.สงขลา และเมืองวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยตั้งอยู่ในเนื้อที่ 14 ไร่ ของโรงเรียนระโนดวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าแก่ของระโนด ที่ได้มีการรื้อถอนไปแล้ว ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 113 ล้านบาท               ภายในพิพิธภัณฑ์ระโนด ประกอบไปด้วย ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มีการจัดแสดงสิ่งของ เครื่องใช้เก่าแก่หายากทั้งที่เกี่ยวข้องต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวระโนดตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงตามแต่ละยุคแต่ละสมัย มีทั้งเครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น แห ซุ่มจับปลา เครื่องสีข้าว คันไถ เลื่อย เสากระโดงเรือ มีด หม้อไห ร้านค้าร้านกาแฟโบราณ ซึ่งมีการจัดแบ่งเป็นห้องต่างๆ และส่วนบูรพาจารย์ที่เกี่ยวข้องต่อประวัติบุคคลสำคัญของ อ.ระโนด               นอกจากนี้ ยังมีอาคารห้องประชุม หอคอย สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส หอศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีความสูง 8ชั้น และลานอเนกประสงค์ที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด               นายเกียรติศักดิ์ ตันธนากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลระโนด กล่าวว่า ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม และสวนบูรพาจารย์ พิพิธภัณฑ์ระโนด จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และเป็นแหล่งที่ผู้คนในระโนดได้ใช้ประโยชน์ในด้านสันทนาการ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอระโนด ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของชาวระโนดจากอดีต จนถึงปัจจุบัน               ที่สำคัญ ระโนด เป็นเมืองชนบทที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่าง 3 จังหวัด คือ ห่างจากเมืองสงขลา จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช เพียง 100 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใดของการสร้างพิพิธภัณฑ์ระโนด คือ ต้องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดเหมือนดั่งที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้พูดไว้เสมอ          ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 18 พฤษภาคม 2558

5 พิพิธภัณฑ์สุดชิค น่าเที่ยวช่วงหยุดยาว

ช่วงสัปดาห์นี้มีวันหยุดพิเศษ 5 วัน คือ วันที่ 5 - 9 พ.ค. 2559 หลายคนที่ยังไม่ทราบว่าจะไปท่องเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำว่า “พิพิธภัณฑ์” ชื่อสถานที่ที่ดูน่าเบื่อ แต่รับรองว่า 5 พิพิธภัณฑ์สุดชิคนี้จะทำให้คุณได้ทั้งความสนุกและความรู้ไปพร้อมๆ กัน             เริ่มจาก “ตูนนี ทอย มิวเซียม (Tooney Toy Museum)” จ.นนทบุรี ที่ต้องเรียกว่าเป็นจักรวาลแห่งของเล่นจึงจะเห็นภาพ เพราะภายในพิพิธภัณฑ์นั้นยกโขยงของสะสมจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 100,000 ชิ้นมารวมเอาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นของเล่นจากมาร์เวล (Marvel) ดีซี (DC) ดิสนีย์ (Disney) เลโก้ (Lego) บันได (Bandai) ฯลฯ ก็มีรวบรวมมาโชว์ไว้ให้ได้ดูกันจนสุดลูกหูลูกตา แถมยังมีคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก ลิมิเต็ด อิดิชัน ให้แฟนๆ ของเล่นได้นำติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย               สำหรับ Tooney Toy Museum ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (ลงทางด่วนศรีสมาน) ใกล้เมืองทองธานี เปิดวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 21.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 02-961-8597             ขยับมาที่เส้นทางพุทธมณฑล - นครปฐม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กันบ้าง กับ “พิพิธภัณฑ์สุขสะสม” สถานที่ที่คุณจะได้ซึมซับเรื่องราวประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ผ่านสุดยอดคลังข้าวของเครื่องใช้โบราณที่รวบรวมไว้จำนวนกว่า 200,000ชิ้น อาทิ เครื่องเล่นกระบอกเสียงในสมัยรัชกาลที่ 5ผ้าเช็ดหน้าสำหรับใช้หาเสียงในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ลอตเตอรี และเรียงเบอร์ฉบับแรกของสยาม ฯลฯ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตจำลองในตลาดย้อนยุค ที่จะปลุกความทรงจำแห่งวันวานให้หวนคืนมาอีกครั้ง               สำหรับ พิพิธภัณฑ์สุขสะสม ตั้งอยู่ที่ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 (ระหว่างซอย 19 กับ 21) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.30 - 18.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 086-899-9208             ส่วนใครที่วางแผนจะหนีร้อนไปเที่ยวทะเลที่พัทยา ก็สามารถแวะมาชม “พิพิธภัณฑ์ ริบลีส์ เชื่อหรือไม่!” หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นสถานที่ที่รวบรวมความมหัศจรรย์ ปนความลี้ลับพิสดารจากทั่วทุกมุมโลกมาให้คุณได้สัมผัสกัน พบกับของแปลกประหลาดกว่า 350 ประเภทที่คุณต้องตื่นตะลึง เช่น หน้ากากหนังมนุษย์ หัวคนย่อส่วนเหลือ 3นิ้ว เรือจำลองไททานิคจากไม้ขีดไฟมากกว่า 1,000,000 ก้าน ชายผู้มีลูกตาดำ 4 ลูกตา และอื่นๆ อีกมากมาย อันเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม               สำหรับ พิพิธภัณฑ์ ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่า พัทยาใต้ ถ.เลียบชายหาด ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 038-710-294-8             หากว่าพัทยายังไกลไม่พอ คิดจะหนีร้อนลงไปถึงทะเลใต้ ก็ต้องไม่พลาด “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” ที่จัดแสดงนิทรรศการสุดตระการตา ผ่าน 13 ห้องอาคาร ภายใต้สถาปัตยกรรมโบราณที่บูรณะมาจากโรงเรียนสอนภาษาจีนที่เก่าแก่ที่สุดของภูเก็ต โดยนำเสนอเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากยังเกาะแห่งนี้ การก่อร่างสร้างตัว ประเพณีวิถีชน อาชีพ และภูมิปัญญา ประวัติของปูชนียบุคคล และโรงเรียนจีนที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของเมืองภูเก็ตจวบจนปัจจุบัน               สำหรับ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ตั้งอยู่ที่ ถ.กระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 076-211-224           หากใครชอบไปเที่ยวทางเหนือ ต้องลองเผื่อเวลาไป “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” จ.พิษณุโลก ที่จัดแสดงขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ และถ่ายทอดภูมิปัญญาไทย ผ่านข้าวของเครื่องใช้นับ 10,000 ชิ้น ที่สะท้อนวิถีพื้นบ้านของชาวเมืองพิษณุโลก และภาคเหนือตอนล่าง โดยมี “จ่าสิบเอก ดร.ทวี บูรณเขตต์” เป็นผู้ที่สะสมรวบรวมมากว่า 30ปี อาทิ เครื่องจักสาน เครื่องมือจับปลา กระต่ายขูดมะพร้าว ตะเกียง สุ่ม ไห ไซ โอ่ง รวมไปถึงงานพุทธศิลป์อันประเมินค่ามิได้ ตลอดจนมีการจำลองบ้านเรือนในอดีตให้ได้ดูกันอีกด้วย               สำหรับ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี ตั้งอยู่ที่ ถ.วิสุทธิกษัตริย์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 055-212-749               อย่างไรก็ตาม ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกมากมายที่เปิดให้เข้าชมในช่วงวันหยุดยาว 5 - 9 พฤษภาคม 2559 นี้ อาทิ พิพิธภัณฑ์เหรียญ พิพิธบางลำพู นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก พระราชวังพญาไท พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพฯ บ้านหมอหวาน แบทแคทมิวเซียมแอนด์ทอยไทยแลนด์ หอศิลป์กรุงไทย อาร์ท อิน พาราไดซ์ กรุงเทพ เป็นต้น               ผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ สามารถใช้บัตรมิวสพาส (Muse Pass) ในการเข้าชมฟรีทั้ง 5 พิพิธภัณฑ์แนะนำ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้อื่นๆ รวมถึง 40 แห่งทั่วประเทศไทย โดยบัตรจำหน่ายในราคาเพียง 199 บาท หาซื้อได้แล้วตั้งแต่ วันนี้ - 30 กันยายน 2559 ณ พิพิธภัณฑ์เครือข่าย 31 แห่ง KTC Touch 23 สาขา รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านทาง KTC World Travel Service สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 ต่อ 525 หรือ www.facebook.com/musepass   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 พฤษภาคม 2559

ไฟไหม้พิพิธภัณฑ์อินเดีย ในนิวเดลี นานกว่า 4 ชม.

พระเพลิงโหมไหม้พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติของอินเดีย ใจกลางกรุงนิวเดลี ระดมรถดับเพลิงกว่า 30 คันมาฉีดน้ำดับไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง จนท.ดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ เบื้องต้นยังไม่ทราบต้นเหตุเพลิงไหม้ และกำลังประเมินความเสียหาย   สื่อต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุไฟไหม้รุนแรง ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอินเดีย ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวง เมื่อเช้าวันอังคารที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นับเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ของประเทศ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของอินเดีย เปิดเผยว่า พระเพลิงได้เกิดขึ้นบริเวณชั้นบนของอาคารพิพิธภัณฑ์ สูง 6 ชั้น และต้องเรียกระดมรถดับเพลิงนับ 35 คันมาช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้   บีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุเพลิงไหม้พิพิธภัณฑ์เก่าแก่มานานนับ 38 ปีแห่งนี้ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ จำนวน 6 นาย ด้าน นายประกาศ ชวาดีการ์ รมว.สิ่งแวดล้อมของอินเดียกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสียหายของพิพิธภัณฑ์จากเหตุเพลิงไหม้ และกำลังสอบสวนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ว่าเกิดขึ้นจากอะไร   สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของอินเดียแห่งนี้ เป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับต้นไม้ สัตว์ และแร่ในอินเดีย รวมทั้งฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่หายาก รวมทั้งยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมไข่นกพันธุ์ต่างๆ และสัตว์ที่ถูกสตัฟฟ์ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการออกแบบและการจัดการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแห่งนี้ว่าแย่มาก อีกทั้งยังมีแผนจะย้ายพิพิธภัณฑ์ไปตั้งในสถานที่ใหม่อีกด้วย   ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 26 เมษายน 2559

พบบ้านมิกกี้เมาส์เจ้าของทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมฟรี

พบบ้านมิกกี้เมาส์ตั้งอยู่กลางเมืองลำพูน มีมากกว่า 4,000 ตัว พร้อมข้าวของเครื่องใช้  เจ้าของสะสมนาน 11 ปี จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมฟรี  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบบ้านมิกกี้เมาส์ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 101/10 ถนนสันเหมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เนื้อที่จำนวน 2 งาน โดยมีนายจักรพงษ์ หรือเสี่ยแมว คำบุญเรือง เจ้าของร้านกาแฟ คอฟฟี่ เมลโล Coffee mellow ที่เปิดร้านอยู่ด้านหน้า ติดกับบ้านมิกกี้เมาส์   นายจักรพงษ์  หรือเสี่ยแมว กล่าวว่า เจ้าของบ้านมิกกี้เมาส์ คือนายนเรนทร์ ปัญญาภู หรือ พี่โอ๊ด ทำงานนักจดหมายเหตุอิสระของจังหวัดลำพูน ซึ่งถือว่าเป็นนักสะสมของเก่าเก็บต่างๆไว้จำนวนมาก และมิกกี้เมาส์ก็เช่นกันได้บันทึกการสะสมมิกกี้เมาส์ไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2528 เป็นต้นมา   นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาตนได้ได้มาเปิดร้านกาแฟ  นายนเรนทร์เห็นว่านอกจากลูกค้ามาที่ร้านเพื่อมาอุดหนุนชา กาแฟ แล้ว น่าจะเปิดให้ชมของสะสมที่นายนเรนทร์มีอยู่ด้วยเลยจึงได้สร้างบ้านมิกกี้เมาส์ขึ้นติดๆ กับร้านกาแฟ ได้ออกแบบให้เป็นสัญญาลักษณ์มิกกี้เมาส์ตั้งแต่ประตูทางเข้า พื้นทางเดินก็เทปูนเป็นหัวมิกกี้เมาส์ ต้นไม้ก็ตกแต่งด้วยมิกกี้เมาส์ จากนั้นเข้าไปนั่งเล่นในบ้านมิกกี้เมาส์ก็มีโต๊ะเก้าอี้มิกกี้เมาส์ หนังสือมิกกี้เมาส์และที่มากที่สุดจะเป็นตุ๊กตามิกกี้เมาส์ในท่าทางต่างๆ มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่กว่าคนเราก็มี จะอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ จะมีนอกบ้านบ้างแต่จำนวนน้อย   "วันนี้ลูกค้าได้ตั้งชื่อให้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์มิกกี้เมาส์ เพราะมีมิกกี้เมาส์มารวมอยู่ในบ้านหลังนี้จำนวนมากกว่า 4,000 ชิ้น ถือว่ามากที่สุดในจังหวัดหรือภาคเหนือก็ว่าได้ โดยเปิดให้เข้าชมฟรี "   นายจักรพงษ์  กล่าวอีกว่าทุกวันนี้พิพิธภัณฑ์มิกกี้เมาส์ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมและชื่นชอบจำนวนมาก ล่าสุดได้รับการติดต่อจากผู้จัดการดาราชายชื่อดังคนหนึ่ง จะมาขอซื้อมิกกี้เมาส์ทั้งหมดจำนวน 4,000 ชิ้น ไปให้แฟนสาวจำนวนเงินที่ตั้งไว้ที่จะมาขอซื้อคือ จำนวน 2,000,000 บาท (สองล้านบาท) แต่นายนเรนทร์ไม่ขาย เพราะเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจ   สำหรับบ้านมิกกี้เมาส์  จะเปิดตามปกติทุกวันตั้งแต่เช้าถึงค่ำ หากร้านกาแฟเปิดบ้านมิกกี้เมาส์ก็เปิดให้ชมได้ตลอดไม่มีวันหยุด ซึ่งผู้ที่นิยมเข้าชมมากที่สุดคือลูกๆของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ และเปิดมานานครบ 1 ปีเต็มแล้วและยังจะมีมิกกี้เมาส์เพิ่มมากขึ้น ต้องทำตู้โชว์และชั้นว่างตุ๊กตามิกกี้เมาส์มากขึ้น เพราะนับวันก็จะมีเพื่อนๆนายนเรนทร์ นำมามอบให้มากขึ้น จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้วขณะนี้ ผู้สนใจเข้าเที่ยวชมสอบถามเส้นทางได้ที่เบอร์  081-6034567 ได้ทุกวัน    ทั้งนี้ มิกกี้เมาส์ถือว่าเป็นตัวการ์ตูนชื่อดังของวอลท์นิสนีย์ และได้ถูกยกย่องให้เป็น"ราชาของดาราการ์ตูนทั้งมวล" อีกด้วย   ข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ วันที่ 17 เมษายน 2559

“บึงศรีฐาน” จุดตั้งพิพิธภัณฑ์เรียนรู้สิ่งมีชีวิตเด่นในอีสาน

หลังเดือน มี.ค.เป็นต้นไป ชาวอีสานจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ สำหรับเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติที่พบได้ในท้องถิ่น ซึ่งบูรณาการองค์ความรู้และงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นสถาบันการศึกษาอันเก่าแก่ของอีสาน ร่วมกับประสบการณ์การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ไปเยือน “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ “บึงศรีฐาน” ภายในพื้นที่ของ มข. และอยู่ระหว่างตกแต่งพร้อมจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ โดยพร้อมให้ประชาชนเข้าชมได้ในช่วงปลายเดือน มี.ค.59 นี้      นายสาคร ชนะไพทูรย์ รักษาการผู้อำนวยการ อพวช.กล่าวว่าพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งที่ 2 ของประเทศ ซึ่งเน้นการจัดแสดงสิ่งที่พบในภาคอีสาน ส่วนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งแรกตั้งอยู่ภายในองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จ.ปทุมธานี        ทั้งนี้ อพวช. และ มข.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือทางวิชาการเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ของ อพวช.มาร่วมพัฒนาพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งใหม่ของ มข. โดยนายสาครกล่าวว่า เป็นโอกาสที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะได้เป็นเครือข่ายในการกระจายความรู้และนิทรรศการขององค์การพิพิธภัณฑ์        ด้าน ผศ.ดร.เพ็ญประภา เพชระบูรณิน ผู้จัดการสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มข.กล่าวถึงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาว่า สืบเนื่องมาจากการดำเนินงานสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ตั้งแต่ปี 2540 และ มข.ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการระดับชาติ โครงการ อพ.สธ.ครั้งที่ 8        การประชุมวิชาการดังกล่าวจะจัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “ทรัพยากรไทย: หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน” ระหว่างวันที่ 23-29 มี.ค.59 ซึ่ง ผศ.ดร.เพ็ญประภา ระบุว่าการจัดประชุมนั้นต้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ โดยมีเนื้อหาเน้นข้อมูลทรัพยากรสำคัญๆ ที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงนำมาสู่การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์        ในส่วนการจัดแสดงนิทรรศการนั้น นายสาครระบุว่า พิพิธภัณฑ์มีพื้นที่เหลือให้ อพวช.ร่วมจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน 3 ห้อง โดยจะประเดิมนิทรรศการด้านอนุกรมวิธานสัตว์ การจัดแสงสัตว์สตาฟประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในรูปแบบขบวนพาเหรด รวมถึงช้างสตาฟ และนิทรรศการการถ่ายภาพทางธรรมชาติ โดย ดร.เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา        “ส่วนนิทรรศการถาวรนั้นจะเน้นสิ่งมีชีวิตในภาคอีสาน และมีประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง คือ สิ่งมีชีวิตใน “รู รัง โพรง” นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับกำเนิดโลก กำเนิดสิ่งมีชีวิต พร้อมทั้งไดโนเสาร์ทั้ง 3 พันธุ์ที่ค้นพบในภาคอีสาน ได้แก่ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน, สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส และสยามโมซอรัส สุธีรธร” นายสาครระบุ        ด้าน ผศ.ดร.เพ็ญประภากล่าวว่า สิ่งที่จะเป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาที่ มข.คือ ไดโนเสาร์ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน ซึ่งค้นพบที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวิจัย มข.ที่จะร่วมจัดแสดงองค์ความรู้ให้แก่พิพิธภัณฑ์ คือกลุ่มวิจัยไรน้ำนางฟ้า ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่พบได้ตามแหล่งน้ำชั่วคราวของภาคอีสาน กลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพ และกลุ่มวิจัยด้านลายพิมพ์ดีเอ็นเอทางพฤกษศาสตร์        พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งใหม่จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมระหว่าง 23-29 มี.ค.59 หลังจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนและเยาวชนได้เข้าชมเพื่อทดสอบระบบก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทาง โดย ผศ.ดร.เพ็ญประภาระบุว่า มีช่วงเวลาเปิดให้บริการฟรี 6 เดือน ก่อนพิจารณาค่าเข้าชมที่เหมาะสมต่อไป   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 17 มีนาคม 2559

นิทรรศการพิเศษเรื่อง "หมาก ชา แลภาชนะ"

พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขอเชิญร่วมพิธีเปิดนิทรรศการพิเศษเรื่อง “หมาก ชา แลภาชนะ: วัฒนธรรมและวิถีผ่อนคลายแห่งเอเชีย” (Betel Chewing, Tea and Ceramics: Asia Cultures and Relaxations) ในวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องนิทรรศการพิเศษ   โดยได้รับเกียรติจาก คุณฟูมิโกะ บุย อดีตทูตวัฒนธรรมญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และเลขาธิการสมาคมพิธีชาอุระเซนเคะตันโกไกประจำประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดพร้อมทั้งสาธิตพิธีชงชาแบบญี่ปุ่น   และดร.ดิษฐวัฒน์ แก้วกาญจนดิษฐ์ ประธานสมาคมผู้รักชาและวัฒนธรรมจีน บรรยายเรื่อง “ประวัติศาสตร์ชาในแผ่นดินสยาม”   ในโอกาสนี้ใคร่ขอเชิญทุกท่านร่วมจิบชา กินขนม ชมภาชนะ ในวันดังกล่าว   หมายเหตุ พิธีชงชารับจำนวนจำกัด ยืนยันเข้าร่วม: โทร. 0-2902-0299 ต่อ 2890 หรืออีเมล museum@bu.ac.th   ข้อมูลจาก Facebook- Southeast Asian Ceramics Museum วันที่ 17 มีนาคม 2559