รายชื่อพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์สันติยานุสาสน์

พิพิธภัณฑ์สันติยานุสาสน์ ตั้งอยู่ภายในวัดข้าวแท่นหลวง ก่อตั้งโดยพระครูสันติยานุสาสน์ (ครูบาอิ่นคำ) ท่านได้สะสมศิลปวัตถุและได้รับการบริจาคเป็นจำนวนมาก ต่อมามีผู้ศรัทธาได้จัดสร้างห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร เป็นอาคาร 2 ชั้น แต่เดิมชั้นล่างจัดเป็นห้องสมุด ชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ภายหลังวัดได้มอบหนังสือทั้งหมดให้โรงเรียนเทศบาล ชั้นล่างจึงใช้จัดแสดงวัตถุด้วย โดยวัตถุจัดแสดงแบ่งเป็นหมวด ได้แก่ ของใช้เกี่ยวกับวัด เช่น หีบธรรม โขงพระ สัตตภัณฑ์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องปั้นดินเผา มูยาดินเผา เครื่องมือทอผ้า รวมถึงยังมีงานศิลปกรรมที่น่าสนใจ เช่น จารึกรูปสัตว์ 12 ราศี ประติมากรรมปูนปั้นรูปเทวดา เป็นต้น

จ. เชียงใหม่

แหล่งความรู้ประจำหมู่บ้าน วัดม่วงโตน

พระครูอำนวย ธมฺมวโร และพระฉลอง อาภัสโร ได้ร่วมกันจัดหาของมาจัดแสดงตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นต้นมา โดยมีความคิดว่า เป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีของมีค่าเก่าแก่โบราณไว้ให้ลูกหลานได้ดูได้ศึกษา แทนที่จะเอาของมีค่าไปใส่เจดีย์และโบกปูนทับซึ่งจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย อาคารจัดแสดงเป็นอาคารศาลาบาตร ด้านทิศตะวันออกของวัด จากมุมประตูทางเข้าด้านเหนือยาวตลอดแนวกำแพงวัด โดยก่ออิฐเป็นผนังเจาะช่องประตูหน้าต่างกั้นเป็นห้องๆ ความยาวทั้งหมด 42 เมตร กั้นเป็นสามส่วน ส่วนแรกเป็นห้องสมุด ส่วนที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ มีวัตถุทางวัฒนธรรมใส่ตู้จัดแสดงไว้ 4 ตู้เช่น สลุงไม้ ผ้าตีนจก เชี่ยนหมาก เศียรพระปูนปั้น ธนบัตร และเหรียญ ตาชั่ง เศษภาชนะดินเผา เครื่องเขิน เป็นต้น ส่วนตรงกลางของห้องตั้งโต๊ะยาว ใช้เป็นที่ประชุมของประชาชน และเป็นที่สอนหนังสือ ฝาผนังด้านเหนือเป็นมุมจัดแสดงเกี่ยวกับวัตถุของใช้ในวัด เช่น สัตตภัณฑ์ เครื่องอุโบสถ (ช่อฟ้า หางหงส์) นอกจากนี้ยังมีมุมดนตรีพื้นเมือง มุมครัวไฟจัดแสดงก้อนเส้าไฟ และภาชนะใช้สอยในครัวไฟ มุมเครื่องทอผ้า และมุมอุปกรณ์ทำนา เป็นต้น

จ. เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดดอยสะเก็ด

พระครูโสโภณ ปริยัติ สุธี ท่านได้รวบรวมสะสมโบราณวัตถุ ที่พบในบริเวณวัดและของเก่าโบราณที่ญาติโยม ศรัทธาบริจาคให้วัดซึ่งมีเป็นจำนวนมาก จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์จากของที่ได้สะสมตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ปัจจุบันห้องพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารที่เป็นตัวฐานพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ "พระเจ้าตนหลวง" เป็นห้องขนาด 40 ตารางเมตร จัดแสดงสิ่งของในตู้ที่ได้รับบริจาคประมาณ 2 ตู้ และชั้นไม้ ทำแบบชั้นวางของจำนวน 25 ชั้น จัดวางของปะปนกันไป มีป้ายชื่อเป็นบางชิ้น วัตถุที่จัดแสดงอาทิ พระพุทธรูปไม้สูงประมาณ 1 เมตร 3 องค์ ฆ้องสำริด พับสาใบลาน เครื่องปั้นดินเผา ตะเกียงโบราณ พานทองเหลือง กลอง หีบ กำปั่นเหล็ก สัตตภัณฑ์ ธรรมมาสน์ ตาชั่ง ขันแก้ว นอกจากนั้นยังมีเครื่องเรือนโบราณ เช่น เตียงพระสงฆ์ ทำลวดลายฉลุไม้ ศิลปะพม่า สิ่งของทั้งหมดได้มาจากบริจาคเป็นส่วนใหญ่ บางชิ้นรับซื้อจากชาวบ้าน

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ความรู้ประจำหมู่บ้าน วัดสารคามรังสรรค์

ศูนย์ความรู้ประจำหมู่บ้านวัดสารคามรังสรรค์ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2530 เป็นเรือนไม้เก่าเดิมเป็นกุฏิเจ้าอาวาส ชั้นบนเป็นที่อยู่พระลูกวัด ชั้นล่างประกอบด้วยมุมหนังสือของวัดสารคามรังสรรค์(เมืองวะ) ซึ่งทางวัดได้จัดไว้เพื่อเป็นที่อ่านหนังสือศึกษาค้นคว้าของประชาชนทั่วไป และมุมจัดแสดงวัตถุสิ่งของโบราณได้รับบริจาคจากชาวบ้าน โดยทำชั้นอย่างง่ายจัดวางข้างของวัตถุทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องจักสาน เครื่องมือทอผ้า เครื่องทำนา เครื่องดนตรี เป็นต้น แต่สภาพในปัจจุบันไม่มีคนดูแลทำความสะอาด จัดระเบียบ จึงขาดความเรียบร้อย

จ. เชียงใหม่

เฮือนอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน ร.ร.บ้านลวงเหนือ

แต่เดิมโรงเรียนจัดทำมุมพิพิธภัณฑ์ในห้องสมุดก่อน เนื่องจากบรรณารักษ์ คือ น.ส.วัชรา ใบสุขันธ์ เป็นลูกหลานเชื้อสายไทลื้อ และเคยเป็นผู้ประสานงานนำนักวิชาการที่ค้นคว้าเรื่องไทลื้อออกสำรวจเก็บข้อมูลในหมู่บ้าน จึงรวบรวมวัตถุต่าง ๆ นำมาเก็บรักษาไว้ในมุมหนึ่งของห้องสมุด ภายหลังจึงจัดทำเรือนอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านขึ้นในปี พ.ศ.2540 โดยใช้ไม้ที่เหลือจากการสร้างศาลาอเนกประสงค์ของวัดลวงเหนือ และเงินที่ได้จากการทอดผ้าป่าและขอบริจาคเพิ่มเติม อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นเรือนใต้ถุนสูงลักษณะแบบยุ้งข้าวทางเหนือ หลังคามุงด้วยดินขอ มีห้องตรงกลางล้อมด้วยระเบียงที่เดินได้รอบด้าน ภายในจัดตั้งตู้เก่าและจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมที่เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันสมัยเก่าของชาวบ้านไทลื้อ เช่น เชี่ยนหมาก ทั้งที่เป็นเครื่องเขินและไม้กลึง แอบยาเส้น ของใช้ในครัวไฟเช่น ครกไม้ ซ้าหวด ไหข้าว ชั้นบนของตู้จัดเก็บพระพุทธรูปไม้และพับสาใบลาน รอบๆระเบียงจัดแสดงเครื่องมือเกษตรเช่น คราดไถ เครื่องมือจับปลา เช่น สวิง แห กระชอน กระแซง นอกจากนั้นยังมีของใช้ทั่วไป เช่น หมวก คุตักน้ำ เครื่องมือทอผ้า เช่น กงปั่นด้าย ฟืมทอผ้า เป็นต้น

จ. เชียงใหม่

ห้องภูมิปัญญาท้องถิ่น ร.ร.บ้านแม่ตะมาน

ห้องภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงเรียนบ้านแม่ตะมาน เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2541 เป็นห้องเรียนขนาด 50 ตารางเมตร ใช้เรียนดนตรีและจริยธรรม โดยแบ่งพื้นที่จัดเก็บไว้เป็นเครื่องดนตรีไทย เครื่องสาย เช่น จะเข้ ขิม รำมะนา ตะโพน ซอด้วง ซออู้ และมีชุดเครื่องดนตรีพื้นเมืองสะล้อ ซึง ด้วย นอกจากนี้ยังมีตู้กระจกที่จัดแสดงของที่ได้รับบริจาคนักเรียนและผู้ปกครอง อาทิ ธนบัตร เหรียญ ลูกคิดจีน มีดตัดหมาก ตะกรุด เครื่องรางของขลัง ส่วนขันแก้ว โตกหวายจัดแสดงตามมุมห้อง เครื่องมือการเกษตรหลายชิ้นแขวนประดับตกแต่งด้านหน้าห้องเรียนเป็นแนวยาวตลอด

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมชุมชนบ้านแม่โป่ง

สภาตำบลแม่โป่งจัดสร้างอาคารที่ทำการสภาตำบลหลังใหม่ จึงได้มอบอาคารทำการหลังเก่าให้แก่โรงเรียนจัดทำเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมบ้านแม่โป่งขึ้น ในปี พ.ศ.2540 เพื่อเก็บรวบรวมศิลปวัตถุต่างๆ ให้เป็นแหล่งความรู้และเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาชาวบ้านให้แก่นักเรียนและบุคคลทั่วไป รวมทั้งเป็นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนด้วย ลักษณะอาคารเป็น อาคารคอนกรีตชั้นเดียวขนาดเนื้อที่ประมาณ 306 ตารางเมตร จัดแสดงศิลปวัตถุทางวัฒนธรรมเป็นหมวดหมู่ โดยจัดแสดงเป็นซุ้มๆ ให้ชื่อซุ้มเป็นหมวดต่างๆ เช่น หมวดยากลางบ้าน หมวดเครื่องมือหากิน หมวดความเชื่อและประเพณี หมวดเครื่องครัว หมวดดนตรีและการละเล่นพื้นเมือง หมวดอักษรล้านนา หมวดภูมิปัญญาและฝีมือชาวบ้าน หมวดศาสนาและหมวดของใช้ทั่วไป นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้ศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการทำนา โดยได้รับบริจาคพื้นที่ทำนาประมาณ 2-3 ไร่ เพื่อให้นักเรียนที่เรียนวิชาเกษตรและเรียนวิชาการปลูกข้าวได้ทดลองปลูกข้าวจนถึงขั้นเก็บเกี่ยว เมื่อได้ผลผลิตแล้วจะนำมาให้โรงเรียน วิทยากรที่สอนคือ กลุ่มชาวบ้านและเจ้าของที่ดิน ในอนาคตจะทำการจัดทำยุ้งข้าวเพื่อจัดเก็บข้าวที่ได้ต่อไป

จ. เชียงใหม่

เรือนพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณ ร.ร.สันป่ายางวิทยาคม (ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอแม่แตง)

พ.ศ.2534 อาจารย์วิษณุ ไชยแก้วเมศ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสันป่ายางวิทยาคม ได้ซื้อบ้านเก่านำมาปลูกสร้างใหม่ในโรงเรียน พร้อมกับสร้างคอกวัว คอกควาย โรงครกมอง เล้าไก่ และคอกหมู ได้ด้วย เพื่อต้องการให้เป็นส่วนประกอบของครัวเรือนที่ครบถ้วน ก่อสร้างเนื่องในโอกาสร่วมเฉลิมฉลองสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนม์มายุครบ 60 พรรษา แล้วเสร็จในปี 2536 โดยใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรมประจำอำเภอแม่แตงด้วย ลักษณะอาคารเป็นเรือนกาแล หลังคากระเบื้องดินขอ แบบเรือนหลังคาสองหลังร่วมพื้นเดียวกัน มีเสาทั้งหมด 41 ต้น เรือนหลังนี้สร้างด้านหน้าเรือนลดชั้นระเบียงด้านหน้า ตามแบบเรือนกาแลทั่วไป มีชานน้ำอยู่สุดระเบียง ด้านขวาของเรือนฝาบ้านบางส่วนเป็นไม้ บางส่วนเป็นฝาไม้ไผ่ขัดแตะ ฝาส่วนที่เป็นไม้ได้จากการบริจาคไม้อาคารเก่าของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ภายในจัดแสดงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ เช่น ครัวไฟแบบล้านนา จัดไว้ในห้องซ้าย ห้องทางขวาจัดแสดงสิ่งของเล็กๆ ที่วางอยู่ในตู้ อาทิ เหรียญ ธนบัตร มูยาดินเผา เครื่องเขิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องจักสาน หีบผ้า กงปั่นฝ้าย กับดักหนู และแมวขูดมะพร้าว เป็นต้น

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ศึกษาวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ร.ร.หนองหล่มวิทยาคาร

ศูนย์ศึกษาวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงเรียนหนองหล่มวิทยาคาร จัดตั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2538 โดยได้รับเงินบริจาคสนับสนุนและข้าวของจัดแสดงจากประชาชนในท้องถิ่น อาคารพิพิธภัณฑ์เดิมเป็นห้องประชุมของโรงเรียนขนาด 30 ตารางเมตร มุมสุดด้านทิศตะวันออกของห้องยกพื้นเวที ด้านข้างเวทีจัดทำแท่นขนาดเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางเมตร สำหรับเล่นดนตรี ส่วนการจัดแสดงวัตถุได้จัดทำแท่นและชั้นติดฝาผนังห้อง จัดวางวัตถุไว้โดยแยกเป็นหมวด ๆ เช่น หมวดเครื่องมือหากิน หมวดของใช้ทั่วไป หมวดดนตรีพื้นเมือง หมวดเตาไฟ (เครื่องใช้ในครัวและถ้วยชามเก่า) หมวดครัวยาก๋างบ้าน และหมวดศาสนา เป็นต้น หน้าประตูทางเข้าได้จัดแขวนเกราะไม้ (กะหลก) สำหรับให้เคาะได้ด้วย อย่างไรก็ดีครูผู้รับผิดชอบได้ย้ายไปสอนที่อื่นจึงทำให้ศูนย์แห่งนี้ขาดผู้ดูแลและสานต่องาน

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ศึกษาชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านแม่ขะจาน

ศูนย์ศึกษาชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่งโรงเรียนบ้านแม่ขะจาน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยใช้อาคารเรียนหลังเก่าปรับปรุงเป็นอาคารจัดแสดง โดยเป็นห้องโถงขนาด 96 ตารางเมตร จัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมที่ได้รับบริจาคในตู้ 3 ตู้ และชั้นจัดแสดงวัตถุอีก 5 ชั้น ของที่จัดแสดงมีเครื่องประดับอุโบสถ เช่น ช่อฟ้า ใบระกา ของใช้ของวัดเช่น สัตตภัณฑ์ หีบธรรม ส่วนเครื่องใช้ในบ้านได้แก่ เครื่องปั้นดินเผา ถ้วย ชาม น้ำต้น หม้อ ไห คนโฑ เครื่องจักสาน ได้แก่กระบุง กระด้ง เครื่องมือจับปลา เครื่องใช้ในครัวไฟจัดแสดงเส้าไฟและหิ้งข่าด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรี เครื่องมือดักหนูนา เครื่องปั้นอิฐ เครื่องชั่งฝิ่น ไหนึ่ง เมี่ยง เป็นต้น

จ. เชียงใหม่

ศูนย์ศึกษาวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ร.ร.บ้านเด่น

ศูนย์ศึกษาวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงเรียนบ้านเด่น จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 โดยอาจารย์โชติ หน่อไทวงศ์ อดีตอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน ลักษณะอาคารจัดแสดงเป็นศาลากั้นผนังด้วยซีเมนต์บล็อกและไม้อย่างละครึ่ง เดิมเป็นโรงอาหารของโรงเรียน มีเนื้อที่ในการจัดแสดงประมาณ 70 ตารางเมตร จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องจักสานจำพวก กระบุง ตะกร้า ฝาชี โตกหวาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีน้ำต้น คนโท ถ้วยชาม เครื่องมือทอผ้า เครื่องมือจับสัตว์ ตะเกียงจ้าวพายุ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นเก่า เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หีบเหล็ก แต่เดิมของทุกชิ้นเคยมีป้ายเขียนอธิบาย ปัจจุบันสูญหายไปเกือบหมด เนื่องจากขาดผู้ดูแลทำให้ศูนย์แห่งนี้ปิดดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว

จ. เชียงใหม่