อายุ-จารึก พ.ศ. 1912, อายุ-จารึก พ.ศ. 1913, อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 20, ยุคสมัย-จารึกสมัยล้านนา, ยุคสมัย-จารึกสมัยล้านนา-พระเจ้ากือนา, วัตถุ-จารึกบนหิน, วัตถุ-จารึกบนหินดินดาน, ลักษณะ-จารึกบนใบเสมา, ที่อยู่ปัจจุบัน-จารึกวัดพระยืน ลำพูน, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา, เรื่อง-ประวัติศาสตร์ล้านนา, เรื่อง-ประวัติศาสตร์หริภุญไชยนคร, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ-สร้างถาวรวัตถุ, บุคคล-พระสุมนมหาเถร,
โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 18:41:31 )
ชื่อจารึก |
จารึกวัดพระยืน |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
ศิลาจารึกวัดพระยืน, หลักที่ 62 ศิลาจารึกวัดพระยืน จังหวัดลำพูน, ศิลาจารึกวัดพระยืน พ.ศ. 1913, ลพ. 38 |
อักษรที่มีในจารึก |
ไทยสุโขทัย |
ศักราช |
พุทธศักราช 1913 |
ภาษา |
บาลี, ไทย |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 2 ด้าน มี 81 บรรทัด ด้านที่ 1 มี 40 บรรทัด ด้านที่ 2 มี 41 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
หินดินดาน หรือหินชนวนสีเทา? |
ลักษณะวัตถุ |
แผ่นรูปใบเสมา |
ขนาดวัตถุ |
กว้าง 55 ซม. สูง 90 ซม. หนา 10.5 ซม. |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “ลพ. 38” |
ปีที่พบจารึก |
พุทธศักราช 2457 |
สถานที่พบ |
วัดพระยืน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน |
ผู้พบ |
หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ ดิศกุล |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
วัดพระยืน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน |
พิมพ์เผยแพร่ |
1) วารสาร ศิลปากร ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (พฤษภาคม 2500) : 61-69. |
ประวัติ |
ศิลาจารึกหลักนี้ หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ ดิศกุล ทรงส่งสำเนาจารึกมาถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2457 ต่อมา กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้อ่านจารึก แผนกหนังสือตัวเขียนและจารึก กองหอสมุดแห่งชาติ คือ นายฉ่ำ ทองคำวรรณ กับ นายประสาร บุญประคอง เดินทางไปที่จังหวัดลำพูน ทำการอัดสำเนาจารึก เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2500 ศิลาจารึกวัดพระยืน เป็นหลักฐานทางเอกสารอันสำคัญ และเป็นศิลาจารึกหลักเดียวเท่านั้น ที่บ่งบอกการแผ่อิทธิพลของอักษรสุโขทัย เข้าไปสู่อาณาจักรล้านนาไทย ในรัชสมัยของพระเจ้ากือนา โดยพระสุมนเถระ พระภิกษุสุโขทัย เป็นผู้นำขึ้นไป ในชินกาลมาลีปกรณ์ ซึ่งแปลโดย ร.ต.ท. แสง มนวิทูร ได้กล่าวถึงการมาเมืองเชียงใหม่ของพระสุมนเถรว่า ครั้งเมื่อพระเจ้ากือนากษัตริย์แห่งล้านนามีความ ปรารถนาใคร่ได้พระภิกษุ อันอาจมาเพื่อจะกระทำสังฆกรรมทั้งปวง มาไว้ในเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์ (เชียงใหม่) จึงได้ส่งราชทูตไปยังสำนักแห่งพระครูอุทุมพรมหาสามี ในรามัญประเทศ เพื่อขอพระภิกษุองค์หนึ่ง ชื่อพระอานนท์ภิกษุซึ่งเป็นศิษย์ พระเจ้ากือนาทรงมีความยินดียิ่ง และปฏิบัติพระอานนท์เป็นเจ้าด้วยจตุปัจจัย แต่พระอานนท์ยังไม่ได้ปรารถนาเพื่อจะกระทำสังฆกรรมมาก่อน เพราะพระครูยังไม่ได้อนุญาต จึงบอกให้พระเจ้ากือนานิมนต์พระสุมนเถระ ซึ่งเป็นพระอาจารย์แห่งตนจากเมืองสุโขทัย พระเจ้ากือนาจึงส่งราชทูตไปสุโขทัย เพื่อนิมนต์พระสุมนเถระจากพระยาลิไทย ซึ่งพระองค์ก็ให้พระสุมนเถระนั้นไป และได้นำเอาพระบรมธาตุไปสู่เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์ เมื่อพระสุมนเถระออกจากเมืองสุโขทัย และไปจำวัดในที่ใด พระบรมธาตุก็บังเกิดพระรัศมีเป็นอัศจรรย์ พระผู้เป็นเจ้าก็อุปัฏฐากบูชาพระบรมธาตุ ด้วยความเคารพเป็นอย่างดี ฝ่ายพระเจ้ากือนามหากษัตริย์ โปรดให้สร้างพระพุทธรูป 4 องค์ไว้ในพระมหาวิหารใหญ่ ด้านทิศบูรพาแห่งเมืองหริภุญชัย ในศักราช 731 |
เนื้อหาโดยสังเขป |
ข้อความที่จารึก คำขึ้นต้นของจารึกด้านที่ 1 บรรทัดแรก เป็นคำนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยภาษาบาลี ข้อความต่อจากนั้นไปเป็นภาษาไทย กล่าวถึงพระนามกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายบางพระองค์ ได้กล่าวถึงมูลเหตุที่ไปอาราธนาพระสุมนมหาเถร จากนครสุโขทัย มาเผยแพร่พระพุทธศาสนายังล้านนา ในปี พ.ศ. 1912 และได้นิมนต์ท่านมาอยู่ที่วัดพระยืน ในหริภุญไชยนคร คือ จังหวัดลำพูน และได้กล่าวสรรเสริญเกียรติคุณแห่งพระมหาเถร ด้านที่ 2 กล่าวถึงการปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดพระยืน รวมทั้งพระเจดีย์ที่มีพระพุทธรูปสมัยหริภุญไชย ประดิษฐานประทับยืนอยู่ในซุ้มคูหา |
ผู้สร้าง |
พระเจ้ากือนา |
การกำหนดอายุ |
ในด้านที่ 2 บรรทัดที่ 19 “…ปีจอ…” ตรงกับ จ.ศ. 732 (พ.ศ. 1913) |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : วชรพร อังกูรชัชชัย และดอกรัก พยัคศรี, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศมส., 2546, จาก : |
ภาพประกอบ |
1) ภาพสำเนาจารึกจาก : ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 3 (พระนคร : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2508) |