อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 20, ยุคสมัย-จารึกสมัยอยุธยา, วัตถุ-จารึกบนหิน, วัตถุ-จารึกบนหินทราย, วัตถุ-จารึกบนหินทรายสีแดง, ลักษณะ-จารึกบนแผ่นรูปสี่เหลี่ยม, ลักษณะ-จารึกบนแผ่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า, ที่อยู่ปัจจุบัน-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก ปทุมธานี, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ-สร้างพระวิหาร, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ-ถวายที่ดิน, เรื่อง-พิธีกรรมทางศาสนา-บรรจุพระธาตุ, เรื่อง-ความเชื่อทางศาสนา-พระศรีอาริยเมตไตรย, บุคคล-เจ้าเมืองทอง, บุคคล-เจ้าเถรเทพเมาลี,
โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567 13:05:40 )
ชื่อจารึก |
จารึกวัดตะพาน |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
สฎ. 5, ศิลาจารึกอักษรและภาษาไทยได้มาจากวัดตะพาน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี, หลักที่ 304 จารึกวัดแวง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี |
อักษรที่มีในจารึก |
ไทยอยุธยา |
ศักราช |
พุทธศักราช 1935-1970 |
ภาษา |
ไทย |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 2 ด้าน มี 42 บรรทัด ด้านที่ 1 มี 22 บรรทัด ด้านที่ 2 มี 20 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
หินทรายสีแดง |
ลักษณะวัตถุ |
แผ่นรูปสี่เหลี่ยม |
ขนาดวัตถุ |
กว้าง 45 ซม. สูง 95 ซม. หนา 22 ซม. |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “สฎ. 5” |
ปีที่พบจารึก |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
สถานที่พบ |
วัดตะพาน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี |
ผู้พบ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (สำรวจข้อมูล พฤษภาคม 2565) |
พิมพ์เผยแพร่ |
1) วารสารศิลปากร ปีที่ 12 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2511) : 94-99. |
ประวัติ |
จารึกนี้ถูกพบที่ วัดตะพาน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการพิมพ์เผยแพร่คำอ่านใน วารสารศิลปากร ปีที่ 12 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2503) ชื่อบทความ “คำอ่านศิลาจารึกอักษรและภาษาไทยได้มาจากวัดตะพาน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี” โดยมี ประสาร บุญประคอง เป็นผู้อ่านและอธิบาย ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ให้คำปรึกษาและตรวจแก้ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่หอพระสมุดวชิราวุธ กรุงเทพมหานคร จารึกหลักนี้เป็นจารึกภาษาไทยหลักแรกที่พบในภาคใต้ จึงมีข้อสันนิษฐานว่า ตัวอักษรสุโขทัยแพร่ไปสู่อยุธยา ล้านนา ลาว และพม่าพร้อมกับพุทธศาสนานิกายรามัญวงศ์ในสมัยพระยาลิไท (ดู “ตำนานมูลศาสนา”) ในสมัยโบราณ วัดเป็นโรงเรียนที่สอนการอ่าน-เขียนของพระสงฆ์ ตัวอักษรสุโขทัยจึงแพร่หลายไปในแคว้นต่างๆ ส่วนทางภาคใต้นั้น มีการนับถือศาสนาพุทธที่มั่นคงอยู่แล้ว ดังหลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 จึงไม่จำเป็นต้องรับศาสนาพุทธไปจากสุโขทัยในสมัยพระยาลิไทอีก ทางภาคใต้มีการใช้อักษรขอมเรื่อยมาจนในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีพระราชดำริที่จะรวมอำนาจมาสู่ศูนย์กลาง เลิกตั้งเจ้าประเทศราช แต่ส่งขุนนางจากกรุงศรีอยุธยาไปปกครองแทน ตัวอักษรจากสุโขทัยจึงน่าจะแพร่หลายไปสู่ภาคใต้ในช่วงเวลานี้เอง แต่หากการวิเคราะห์อายุสมัยของตัวอักษรไม่ผิดพลาด นโยบายดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) อนึ่ง ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม จากภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวอักษรในจารึกนี้ว่า เป็นอักษรที่แสดงถึงอิทธิพลของอักษรธรรมล้านนาและอักษรธรรมอีสาน โดยจะเห็นได้จากการที่ปรากฏการใช้รูปพยัญชนะ “อย” แต่รูปแบบอักษรมีลักษณะคล้ายคลึงกับอักษรฝักขามที่ปรากฏในจารึกทางภาคเหนือ |
เนื้อหาโดยสังเขป |
เจ้าเมืองทองและครอบครัวร่วมกันสร้างพระวิหาร โดยอาราธนาเจ้าเถรเทพเมาลีและพระสงฆ์ มาชุมนุมพระศรีรัตนมหาธาตุ มีการเชิญพระพุทธรูปสู่คูหาแก้วและถวายที่ดินแก่วัด ตอนท้ายอธิษฐานขอให้ได้พบพระศรีอาริย์ และฝากวัดแห่งนี้ไว้กับผู้ครองเมืองคนต่อไป |
ผู้สร้าง |
เจ้าเมืองทองและครอบครัว |
การกำหนดอายุ |
ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กำหนดอายุโดยพิจารณาจากการพบรูปสระ อะ และ นิคหิต รูปที่เริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 1935 และมีคำว่า พระญา ที่ประวิสรรชนีย์ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 1935 เช่นกัน ส่วนรูปพยัญชนะ ถ และ ป ที่พบในจารึกนี้ เป็นรูปที่ใช้มาจนถึง พ.ศ. 1970 จึงสันนิษฐานว่าจารึกนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1935-1970 |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก : |
ภาพประกอบ |
ภาพสำเนาจารึกจาก : ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 7 (กรุงเทพฯ : สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, 2534) |