จารึก

The Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
  • images
  • images
  • images
  • images

จารึกวัดมหาวัน (ลำพูน)

จารึก

จารึกวัดมหาวัน (ลำพูน)

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 17:06:39 )

ชื่อจารึก

จารึกวัดมหาวัน (ลำพูน)

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

ลพ. 3, Vat Mahāvan, ศิลาจารึกมอญ วัดมหาวัน, 1.4.1.1 วัดมหาวัน พ.ศ. 2032

อักษรที่มีในจารึก

มอญโบราณ

ศักราช

พุทธศตวรรษ 17

ภาษา

มอญโบราณ

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 4 ด้าน มี 85 บรรทัด ด้านที่ 1 มี 22 บรรทัด ด้านที่ 2 มี 22 บรรทัด ด้านที่ 3 มี 21 บรรทัด ด้านที่ 4 มี 20 บรรทัด

วัตถุจารึก

หินทราย

ลักษณะวัตถุ

รูปใบเสมา

ขนาดวัตถุ

กว้าง 78 ซม. สูง 131 ซม. หนา 24 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “ลพ. 3”
2) ในวารสาร Bulletin de l’École Française d’Éxtrême-Orient XXX (1930) กำหนดเป็น “Vat Mahāvan”
3) ในวารสาร โบราณคดี ปีที่ 4 ฉบับที่ 3 (มกราคม 2516) กำหนดเป็น “จารึกวัดมหาวัน”
4) ในหนังสือ วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย (พ.ศ. 2522) กำหนดเป็น “ศิลาจารึกมอญ วัดมหาวัน”
5) ในหนังสือ จารึกในประเทศไทย เล่ม 2 กำหนดเป็น “จารึกวัดมหาวัน”
6) ในหนังสือ วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย (พ.ศ. 2533) กำหนดเป็น “จารึกวัดมหาวัน” (ลพ./3, พช. 24, 356)

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

วัดมหาวันวนาราม ตำบลเหมืองง่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

ผู้พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ที่

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

พิมพ์เผยแพร่

1) วารสาร Bulletin de l’École Française d’Éxtrême-Orient XXX (1930) : 6-105.
2) วารสาร โบราณคดี ปีที่ 4 ฉบับที่ 3 (มกราคม 2516) : 314-322.
3) วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2522), 18-20.
4) จารึกในประเทศไทย เล่ม 2 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2529), 127-129.
5) วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2533), 18-19.
6) จารึกในประเทศไทย เล่ม 2, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2559), 172.

ประวัติ

จารึกหลักนี้ถูกพบที่วัดมหาวัน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ท่านเจ้าคุณพระญาณมงคล รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดมหาวัน กล่าวว่าเดิมจารึกหลักนี้เคยตั้งอยู่หน้าอุโบสถของวัด ต่อมาท่านเจ้าพระคุณพระญาณมงคล อดีตเจ้าอาวาสได้อนุญาตให้ย้าย ไปอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน จารึกหลักนี้มีการตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารของสมาคมฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศ (BEFEO) ปีที่ 30 ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) โดยศาสตราจารย์ โรเบิร์ต ฮัลลิเดย์ (Robert Halliday) และศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ อ๊อตโต บล็ากเด็น (Charles Otto Blagden) ได้ร่วมกันอ่าน-แปลและเขียนบทความชื่อ “Les Inscription MÔn Du Siam” ซึ่ง ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย ตีพิมพ์ใน วารสารโบราณคดี ปีที่ 4 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2516 ต่อมาในปี 2522 กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือ วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน และหนังสือ จารึกในประเทศไทย เล่ม 2 (พ.ศ. 2529) โดยนายเทิม มีเต็ม เป็นผู้อ่านและสรุปความ จากนั้นมีการตีพิมพ์หนังสือ วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ซ้ำอีกครั้งใน พ.ศ. 2533 อนึ่ง บทความของ ศ. ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ซึ่งแปลมาจากบทความของ ศ. โรเบิร์ต ฮัลลิเดย์ และ ศ. ชาร์ลส์ อ๊อตโต บล็ากเด็น นั้นระบุว่า จารึกหลักนี้มี 3 ด้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีทั้งหมด 4 ด้าน คือ ด้านหน้า-หลัง และด้านข้าง (สัน) ทั้ง 2 ข้าง สาเหตุที่ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนเช่นนี้ อาจเกิดจากการที่ผู้ทำสำเนาจารึกได้ทำสำเนาส่งไปให้เพียง 3 ด้าน จึงเกิดความเข้าใจผิดดังกล่าว

เนื้อหาโดยสังเขป

(1) ข้อความเริ่มต้นกล่าวถึง ความสัตย์ที่แท้จริง คือ จรมตฺต ในผลงานของท่าน (กษัตริย์) ผู้บำเพ็ญ พระราชกุศลในพระพุทธศาสนา
(2) การสร้างพระเจดีย์ พระพุทธรูปทั้ง 3 กุฏิ คูหา ฉัตร และการถวายข้าพระ
(3) กล่าวถึงราชตระกูลและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการนี้ (ส่วนใหญ่เป็นคำวิสามานยนาม)
(4) การถวายสิ่งของแด่วัดและพระสงฆ์

ผู้สร้าง

ไม่ปรากฏหลักฐาน

การกำหนดอายุ

กำหนดอายุจากรูปอักษรมอญโบราณ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับตัวอักษรที่ปรากฏบนศิลาจารึก”มยเจดีย์” (Mayazedi) ของพระเจ้าจันสิตถา (Kyanzittha) (อักษรโรมัน Ky ในภาษาพม่าแทนเสียง /c/ ซึ่งเท่ากับ จ ในภาษาไทย) กษัตริย์พุกาม (พม่า) ซึ่งจารึกไว้เมื่อ พ.ศ.1628 และ 1630 ดังนั้นจารึกหลักนี้จึงน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 เช่นเดียวกัน อนึ่ง อาณาจักรพุกามมีการรับอิทธิพลด้านตัวอักษรไปจากมอญ เมื่อพระเจ้าอนิรุทธ (อโนรธามังฉ่อ) กษัตริย์พุกาม (พม่า) ทรงยกทัพไปตีเมืองสะเทิม (ถะทนหรือสุธรรมวดี) ซึ่งเป็นราชธานีของหัวเมืองมอญฝ่ายใต้สำเร็จ จึงได้มีการกวาดต้อนผู้คน ช่างฝีมือ ตลอดจนภิกษุสงฆ์ และคัมภีร์ทางพุทธศาสนาที่มีอยู่ในดินแดนดังกล่าวไปสู่พุกาม ทำให้วัฒนธรรมมอญ แพร่หลายในพุกาม รวมไปถึงการใช้ตัวอักษร โดยศาสตราจารย์ เรอชินาล์ด เลอเมย์ (Reginald Le May) กล่าวว่า พม่ารับวัฒนธรรมการเขียนหนังสือไปจากมอญ เมื่อราว พ.ศ. 1606 ซึ่งพระเจ้าจันสิตถานั้นก็คือผู้ที่ครองราชย์ต่อจากพระเจ้าอนิรุทธ (อโนรธามังฉ่อ) นั่นเอง

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก :
1) Okell John, A reference grammar of colloquial Burmese (Oxford : Oxford University Press, 1969), 16.
2) Robert Halliday, “Les Inscriptions Môn Du Siam,” Bulletin de l’École Française d’Éxtrême-Orient XXX (1930) : 6-105.
3) จำปา เยื้องเจริญ, เทิม มีเต็ม และคงเดช ประพัฒน์ทอง, “จารึกวัดมหาวัน,” ใน วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2533), 18-19.
4) จำปา เยื้องเจริญ, เทิม มีเต็ม และคงเดช ประพัฒน์ทอง, “ศิลาจารึกมอญ วัดมหาวัน,” ใน วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2522), 18-20.
5) เทิม มีเต็ม, “จารึกวัดมหาวัน,” ใน จารึกในประเทศไทย เล่ม 2 : อักษรปัลลวะ อักษรมอญ พุทธศตวรรษที่ 12-21 (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2529), 127-129.
6) ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล, “ศิลาจารึกภาษามอญที่เมืองลำพูน หลักที่ 5 และ 6,” โบราณคดี ปีที่ 4 เล่มที่ 3 (มกราคม, 2516) : 314-322.

ภาพประกอบ

ภาพสำเนาจารึกจาก : ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2545 (เลขทะเบียน CD; INS-TH-27, ไฟล์; LPh_0301_c, LPh_0302_c, LPh_0303_c และ LPh_0304_c)