อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 12, ยุคสมัย-จารึกสมัยเจนละ, วัตถุ-จารึกบนหิน, ลักษณะ-จารึกบนแผ่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า, ที่อยู่ปัจจุบัน-จารึกที่หน่วยศิลปากรที่ 6 นครราชสีมา, ศาสนา-จารึกในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู, ศาสนา-จารึกในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไศวนิกาย, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ-สร้างวัดหรือศาสนสถาน, เรื่อง-พิธีกรรมทางศาสนา, เรื่อง-พิธีกรรมทางศาสนา-สร้างพระศิวลึงค์, บุคคล-กษัตริย์และผู้ครองอาณาจักรเจนละ, บุคคล-กษัตริย์และผู้ครองเมืองศังขปุระ, บุคคล-พระศรีมานประวรเสนะ, บุคคล-โกรญจพาหุ,
โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2567 14:10:14 )
ชื่อจารึก |
จารึกดอนเมืองเตย |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
ยศ. 6, K. 1082 |
อักษรที่มีในจารึก |
ปัลลวะ |
ศักราช |
พุทธศตวรรษ 12 |
ภาษา |
สันสกฤต |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 4 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
ศิลา |
ลักษณะวัตถุ |
สี่เหลี่ยมผืนผ้า |
ขนาดวัตถุ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “ยส. 6” |
ปีที่พบจารึก |
พุทธศักราช 2526 |
สถานที่พบ |
เมืองโบราณดอนเมืองเตย บ้านสงเปือย ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร |
ผู้พบ |
เจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 6 จังหวัดนครราชสีมา |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
สำนักสงฆ์ดงเมืองเตยซึ่งอยู่ในบริเวณโบราณสถานดงเมืองเตย บ้านสงเปือย ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร (สำรวจข้อมูลเมื่อ 3 มีนาคม 2563) |
พิมพ์เผยแพร่ |
1) วารสาร ศิลปากร ปีที่ 29 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม 2528) : 70-73. |
ประวัติ |
พ.ศ.2526 หัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ 6 ได้พบแผ่นหินทรายมีอักษรปัลลวะจารึกอยู่ 1 แผ่นมี 4 บรรทัด บรรทัดละ 4 วรรค ณ บริเวณโบราณสถานดอนเมืองเตย บ้านสงเปือย ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร จากนั้น หน่วยศิลปากรที่ 6 ได้ถ่ายภาพจารึกนี้ โดยถ่ายภาพเป็น 4 ช่วง คือ ภาพที่ 1 เป็นภาพของวรรคที่ 1 ของบรรทัดที่ 1-4 ภาพที่ 2 เป็นภาพของวรรคที่ 2 ของบรรทัดที่ 1-4 ภาพที่ 3 เป็นภาพของวรรคที่ 3 ของบรรทัดที่ 1-4 และภาพที่ 4 เป็นภาพของวรรคที่ 4 ของบรรทัดที่ 1-4 จากนั้น หน่วยศิลปากรที่ 6 ได้ส่งภาพถ่ายทั้ง 4 นี้ให้แก่กองหอสมุดแห่งชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่อ่าน-แปลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2526 แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการรายงานข้อมูลไม่ละเอียดรัดกุมของหน่วยศิลปากรที่ 6 จึงทำให้เจ้าหน้าของกองหอสมุดแห่งชาติเข้าใจว่า ภาพทั้ง 4 นี้ เป็นแผ่นศิลาจารึก 4 แผ่น ดังนั้น เมื่อ นายชะเอม แก้วคล้าย ได้อ่านและแปล จึงสรุปออกมาว่า จารึกทั้ง 4 แผ่นนี้ ความไม่สัมพันธ์กัน ทั้งนี้ เพราะเข้าใจว่า ภาพจารึกแต่ละภาพ แทนจารึกแต่ละแผ่น แต่อย่างไรก็ตาม นายชะเอม แก้วคล้าย ได้วิเคราะห์จารึกหลักนี้อีกครั้งและพบว่าอันที่จริงแล้วสำเนาจารึกทั้ง 4 แผ่นนี้ เป็นสำเนาของจารึกแผ่นเดียวกัน แต่แยกทำสำเนาแยกกัน ดังนั้นเมื่อนำสำเนาจารึกทั้ง 4 ชิ้น มาเรียงต่อกันให้ถูกต้องแล้ว ก็สามารถอ่านและแปลความหมายได้ จึงได้นำคำอ่านและแปลใหม่นี้ลงตีพิมพ์ในหนังสือ “เมืองอุบลราชธานี” เมื่อปี พ.ศ. 2532 ส่วนโบราณสถานดงเมืองเตย หรือ ดอนเมืองเตยนั้น มีลักษณะเป็นชุมชนโบราณที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบเป็นรูปวงกลม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ้านสงเปือยไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันไม่มีประชาชนตั้งบ้านเรือนอยู่ แต่มีพระสงฆ์เข้าไปตั้งสำนักสงฆ์ ณ บริเวณที่มีซากฐานโบราณสถานที่ก่อด้วยอิฐ โบราณสถานแห่งนี้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 |
เนื้อหาโดยสังเขป |
กล่าวถึงพระศรีมานประวรเสนะ ผู้เป็นใหญ่ในเมืองศังขปุระ และการสร้างลิงคโลก ซึ่งบุตรีของโกรญจพาหุ คนที่สิบสองที่ได้เป็นผู้มีอำนาจได้สร้างไว้ ข้อความในจารึกแสดงว่าโบราณสถานแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ที่นับถือพระศิวะ และในช่วงเวลานั้น บริเวณดอนเมืองเตย รวมทั้งชุมชนใกล้เคียงก็คงจะเคยเป็นเมืองที่มีชื่อว่า “ศังขปุระ” ซึ่งคงจะมีความสัมพันธ์ในฐานะเมืองในปกครองของอาณาจักรเจนละ ที่แผ่อำนาจเข้ามาในเขตลุ่มแม่น้ำมูล-ชี ในช่วงเวลาดังกล่าว ดังได้พบจารึกของกษัตริย์เจนละที่มีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 12-13 เป็นจำนวนหลายหลักในจังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ และขอนแก่น |
ผู้สร้าง |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
การกำหนดอายุ |
กำหนดอายุตามตัวอักษรปัลลวะ ซึ่งนิยมใช้กันมากในราวพุทธศตวรรษที่ 12 นอกจากนี้ ชะเอม แก้วคล้าย ยังให้ความเห็นว่า ลักษณะของรูปอักษรส่วนมากจะเหมือนกันกับจารึก เย ธมฺมาฯ ของจังหวัดนครปฐม และจารึกวัดสุปัฏนาราม จังหวัดอุบลธานี จึงจัดให้อยู่ในพุทธศตวรรษที่ 12 |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก : |
ภาพประกอบ |
1) ภาพสำเนาจารึกจาก : เมืองอุบลราชธานี (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2532) |