จารึกบนตราดินเผาเมืองจันเสน 6 (เลขทะเบียน 2993/38)

จารึก

จารึกบนตราดินเผาเมืองจันเสน 6 (เลขทะเบียน 2993/38)

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566 22:25:45 )

ชื่อจารึก

จารึกบนตราดินเผาเมืองจันเสน 6 (เลขทะเบียน 2993/38)

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

จส. 2993/38

อักษรที่มีในจารึก

ยังไม่เป็นที่ยุติ

ศักราช

ไม่ปรากฏศักราช

ภาษา

ยังไม่เป็นที่ยุติ

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 1 บรรทัด

วัตถุจารึก

ดินเผา

ลักษณะวัตถุ

ตรา (sealings) สีน้ำตาล รูปร่างค่อนข้างกลม แบน

ขนาดวัตถุ

เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.1 ซม. หนา 2.6 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

พิพิธภัณฑ์จันเสน กำหนดเป็น “จส. 2993/38”

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

เมืองจันเสน ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

ผู้พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ที่

พิพิธภัณฑ์จันเสน ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

พิมพ์เผยแพร่

สังคมและวัฒนธรรมจันเสน เมืองแรกเริ่มในลุ่มลพบุรี-ป่าสัก (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์, 2539), 190-197.

ประวัติ

ตราดินเผาชิ้นนี้ถูกพบในบริเวณเนินดินที่เรียกว่า “โคกจันเสน” ภายในเมืองโบราณจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ชาวบ้านได้พบตราดินเผาจำนวนหนึ่งขณะทำการเกษตรกรรม จึงนำมาถวายแก่วัดจันเสนซึ่งมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมา ในส่วนของตัวอักษรจารึกอยู่ทางด้านข้างของตราดินเผาซึ่งมีภาพนูนต่ำรูปคนขี่ม้า 2 คน กำลังเล่นคลี มีการอ่าน-แปล และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2539 ในบทความชื่อ “จารึกดินเผาประทับตรา อักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต ประมาณพุทธศตวรรษที่ 14” โดย ชะเอม แก้วคล้าย ในหนังสือ สังคมและวัฒนธรรมจันเสน เมืองแรกเริ่มในลุ่มลพบุรี-ป่าสัก ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อนำรายได้บำรุงพิพิธภัณฑ์จันเสน ต่อมา ใน พ.ศ. 2547 มีอ่านจารึกดังกล่าวอีกครั้ง โดย Prof. Dr. Ravindra Vasishtha จาก มหาวิทยาลัย Delhi ผศ. ดร. จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม และ อ. ชัยณรงค์ กลิ่นน้อย จากภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ข้อมูลเกี่ยวกับจารึกรวมทั้งคำอ่าน-คำแปลในครั้งล่าสุดนี้ปรากฏใน วิทยานิพนธ์เรื่อง “การศึกษาความหมายและรูปแบบของตราประทับสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี” ของ อนันต์ กลิ่นโพธิ์กลับ ซึ่งเป็นการศึกษาความหมายและลักษณะทางประติมานวิทยาเพื่อให้ทราบหน้าที่ และประโยชน์ใช้สอย เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของ ตราประทับที่พบในเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี กับเมืองโบราณอื่นๆ ตราประทับที่พบมีทั้งที่ปรากฏตัวอักษรและเป็นรูปภาพต่างๆ โดยแบ่งเป็นตราประทับ (seals) และตรา (sealings) อย่างไรก็ตามการอ่าน-แปลและกำหนดอายุในแต่ละครั้งมีความคิดเห็นที่แตกต่าง กันไป กล่าวคือ ชะเอม แก้วคล้าย แสดงความคิดเห็นว่า อักษรในจารึกเป็นอักษรปัลลวะที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 14 (ในปัจจุบันมีการเรียกอักษรในช่วงเวลาดังกล่าวว่า “อักษรหลังปัลลวะ”) ในขณะที่ ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม วิเคราะห์ว่าเป็นอักษรปัลลวะ ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 นอกจากนี้ ชะเอม แก้วคล้ายได้ระบุว่าจารึกดังกล่าวเป็นภาษาสันสกฤต ส่วน อ. ชัยณรงค์ กลิ่นน้อย สันนิษฐานว่าอาจเป็นภาษามอญ

เนื้อหาโดยสังเขป

เนื้อหาจากการอ่าน-แปลของ ชะเอม แก้วคล้าย หมายถึง “พระนามของพระนารายณ์และพระศิวะ” ส่วนของ ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม และ อาจารย์ ชัยณรงค์ กลิ่นน้อย ยังไม่สามารถวินิจฉัยถึงคำแปลของจารึกนี้ได้

ผู้สร้าง

ไม่ปรากฏหลักฐาน

การกำหนดอายุ

การกำหนดอายุของจารึกนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ เนื่องจากยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันดังที่กล่าวมาข้างต้น

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, นวพรรณ ภัทรมูล และพันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547 และ 2549 จาก :
พิเศษ เจียจันทร์พงษ์, “ตราดินเผาจากโคกจันเสน,” ใน สังคมและวัฒนธรรมจันเสน เมืองแรกเริ่มในลุ่มลพบุรี-ป่าสัก = Chansen : a social and cultural history (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์, 2539), 168-187.

ภาพประกอบ

ภาพถ่ายจารึกจาก : สังคมและวัฒนธรรมจันเสน เมืองแรกเริ่มในลุ่มลพบุรี-ป่าสัก (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์, 2539)