จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ 3

จารึก

จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ 3

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2566 21:21:21 )

ชื่อจารึก

จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ 3

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

ชม. 92 จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ 3, 24 วัดชัยพระเกียรติ์, ชม. 92

อักษรที่มีในจารึก

ธรรมล้านนา

ศักราช

พุทธศักราช 2134

ภาษา

ไทย

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 3 บรรทัด (จารึกด้านหน้าฐานเหลี่ยมของพระพุทธรูป)

วัตถุจารึก

สำริด

ลักษณะวัตถุ

ฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย

ขนาดวัตถุ

สูง 100 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “ชม. 92 จารึกฐานพระพุทธรูปวัดชัยพระเกียรติ 3”
2) ในหนังสือ คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ กำหนดเป็น “24 วัดชัยพระเกียรติ์”

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

วัดชัยพระเกียรติ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ที่

วัดชัยพระเกียรติ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พิมพ์เผยแพร่

คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519), 105-106.

ประวัติ

จารึกนี้อยู่ด้านหน้าของฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย จำนวน 3 บรรทัด รัศมีของพระพุทธรูปองค์นี้ทำด้วยไม้ และไม่ปรากฏนิ้วหัวแม่มือซ้ายขององค์พระ

เนื้อหาโดยสังเขป

จุลศักราช 953 เจ้าหัวหมื่นหลวงดาบเรือนซ้าย และครอบครัวบ้านหน้าวัดไชยผาเกียน ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นเพื่อให้เป็นที่บูชาแก่คนและเทวดา

ผู้สร้าง

เจ้าหัวหมื่นหลวงดาบเรือนซ้าย และครอบครัวบ้านหน้าวัดไชยผาเกียน

การกำหนดอายุ

กำหนดอายุจากศักราชที่ปรากฏในจารึกคือ จุลศักราช 953 ตรงกับ พ.ศ. 2134 ตรงกับสมัย สาวถีนรตรามังชซอศรีมังนรธาช่อ ขุนนางพม่า ครองเมืองเชียงใหม่ (ระหว่าง พ.ศ. 2122-2150) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราชวงศ์ตองอูปกครองอาณาจักรล้านนา

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2548, จาก :
ฮันส์ เพนธ์, “24 วัดชัยพระเกียรติ์,” ใน คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519), 105-106.

ภาพประกอบ

ภาพถ่ายจารึกจาก : คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519)