จารึกเยธมฺมาฯ (พบ. 2)

จารึก

จารึกเยธมฺมาฯ (พบ. 2)

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566 16:19:06 )

ชื่อจารึก

จารึกเยธมฺมาฯ (พบ. 2)

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

จารึกเยธมฺมาฯ, พบ. 2

อักษรที่มีในจารึก

ปัลลวะ

ศักราช

พุทธศตวรรษ 12

ภาษา

บาลี

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 1 บรรทัด

วัตถุจารึก

สำเนากระดาษเพลา

ลักษณะวัตถุ

ยาวรี

ขนาดวัตถุ

ยาว 90 ซม. สูง 6 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “พบ. 2”
2) ในหนังสือ จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 กำหนดเป็น “จารึกเยธมฺมาฯ”

ปีที่พบจารึก

กันยายน พ.ศ. 2531

สถานที่พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ผู้พบ

เจ้าหน้าที่กองพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

ปัจจุบันอยู่ที่

งานทะเบียนและคลังพิพิธภัณฑ์ กองพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

พิมพ์เผยแพร่

1) จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2529), 65-67.
2) จารึกในประเทศไทย เล่ม 1, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2559), 205-207.

ประวัติ

สำเนาศิลาจารึกหลักนี้เป็นของเดิมที่มีอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ ตอนล่างของทะเบียนมีบันทึกว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรัสไว้ว่า “เป็นตัวอักษรแบบเดียวกับหลักศิลานครไชยศรี และหลักศิลาเพชรบูรณ์” ดังนั้นจึงไม่อาจทราบได้ว่า วัตถุจารึกนั้นคืออะไร ปัจจุบันหอสมุดแห่งชาติเก็บรักษาสำเนากระดาษเพลาไว้จำนวน 1 ฉบับ

เนื้อหาโดยสังเขป

คาถา เย ธมฺมาฯ นี้ นับว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เป็นคาถาคัดมาจากพระวินัยปิฎก มหาวรรค มหาขันธกะ ตอนพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะบรรพชา โดยมีเรื่องย่อว่า “สมัยนั้น สัญชัยปริพาชก (ปริพาชก คือ นักบวชที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา) อาศัยอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยบริษัทปริพาชกหมู่ใหญ่ จำนวน 250 คน และสมัยนั้น สารีบุตรและโมคคัลลานะประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักสัญชัยปริพาชก ต่างทำกติกากันว่า ใครได้บรรลุอมตธรรมก่อน จงบอกแก่อีกคนหนึ่ง สารีบุตรปริพาชกได้เห็นพระอัสสชิเข้าไปสู่กรุงราชคฤห์ เพื่อบิณฑบาต มีความเลื่อมใสในความสงบเสงี่ยมเรียบร้อยของท่าน จึงรอจนได้โอกาสก็เข้าไปถามถึงหลักธรรมในศาสนาที่ท่านบวช ท่านกล่าวหลักธรรมเพียงย่อๆ ให้ฟังว่า ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น สารีบุตรได้ฟังก็ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้วนำมาเล่าให้โมคคัลลานะฟัง โมคคัลลานะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงพากันไปลาปริพาชก 250 คน เพื่อจะไปบวชในสำนักพระบรมศาสดา แต่ปริพาชกเหล่านั้นขอไปด้วย จึงพร้อมกันไปลาสัญชัยผู้เป็นอาจารย์ สัญชัยขอให้อยู่กันบริหารหมู่คณะถึง 3 ครั้ง แต่สาริบุตรกับโมคคัลลานะไม่ยอม คงลาไป พร้อมทั้งปริพาชก อีก 250 คน สัญชัยเสียใจ ถึงอาเจียนเป็นโลหิต เมื่อปริพาชกทั้งหลาย ได้ไปเฝ้าทูลขอบวชในพระพุทธศาสนาต่อพระผู้มีพระภาคก็ได้รับพระพุทธานุญาตให้เป็นภิกษุ ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา (พระไตรปิฎกฉบับประชาชน ภาค 4 ความย่อแห่งพระไตรปิฎก เล่ม 4, 2539, หน้า 217)”

ผู้สร้าง

ไม่ปรากฏหลักฐาน

การกำหนดอายุ

กำหนดอายุตามรูปแบบอักษรปัลลวะ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 โดยมีรูปอักษรที่น่าสนใจคือ คำว่า “อา” เหมือนกันกับจารึกถ้ำเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี คือ ปลายเส้นแรกของอักษรจะตวัดเข้าด้านใน ส่วนจารึกกไดอัง ประเทศกัมพูชา พ.ศ. 1172 และจารึกเขารัง จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 1182 ปลายเส้นแรกของอักษรจะตวัดออกด้านนอกอย่างชัดเจน

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, วชรพร อังกูรชัชชัย และดอกรัก พยัคศรี, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2546, จาก
1) ชะเอม แก้วคล้าย, “จารึกเยธมฺมาฯ,” ใน จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 : อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14 (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2529), 65-67.
2) มหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, “พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะบรรพชา,” ใน พระวินัยปิฎก เล่ม 4 มหาวรรค ภาค 1 และ อรรถกถา, พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรุงเทพฯ : มหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2536), 122-128.
5) มหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, “อรรถกถาสารีปุตตโมคคัลลานบรรพชา,” ใน พระวินัยปิฎก เล่ม 4 มหาวรรค ภาค 1 และ อรรถกถา, พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรุงเทพฯ : มหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2536), 130-133.
3) ยอร์ช เซเดส์, “บันทึกเกี่ยวกับจารึกที่พระปฐมเจดีย์,” แปลโดย ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล, จาก Note sur les Inscriptions de Brah Pathamacetiya, ใน ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 2 : จารึกทวารวดี ศรีวิชัย ละโว้, พิมพ์ครั้งที่ 2 [แก้ไขใหม่] (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2526), 3.
4) สุชีพ ปุญญานุภาพ, พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน, พิมพ์ครั้งที่ 16 (กรุงเทพฯ : มหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2529), 217.

ภาพประกอบ

ภาพสำเนาจารึกจาก : จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2529)