จารึกวัดสระแก้ว

จารึก

จารึกวัดสระแก้ว

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 20:20:52 )

ชื่อจารึก

จารึกวัดสระแก้ว

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

อบ. 7, K. 1096

อักษรที่มีในจารึก

หลังปัลลวะ

ศักราช

พุทธศตวรรษ 13-14

ภาษา

สันสกฤต

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 3 บรรทัด

วัตถุจารึก

ศิลา ประเภทหินทราย

ลักษณะวัตถุ

รูปใบเสมา

ขนาดวัตถุ

กว้าง 45 ซม. สูง 63 ซม. หนา 16.5 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “อบ. 7”
2) ในหนังสือ จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 กำหนดเป็น “จารึกวัดสระแก้ว”

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

วัดสระแก้ว ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ที่

วัดสระแก้ว ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี (ข้อมูลวันที่ 12 มีนาคม 2563)

พิมพ์เผยแพร่

1) จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2529), 284-286.
2) จารึกในประเทศไทย เล่ม 1, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2559), 298-300.

ประวัติ

เมื่อ พ.ศ. 2518 คณะสำรวจเอกสารโบราณของกองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้เดินทางไปสำรวจเอกสารโบราณในภาคอีสาน ขณะสำรวจศิลาจารึกอยู่ที่ วัดสุปัฏนาราม อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุบลราชธานีอยู่นั้น ท่านพระครูวิมลอุปลารักษ์ ได้แจ้งให้ทราบว่า ณ วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี มีผู้ขุดพบศิลาจารึก คณะสำรวจเอกสารโบราณ จึงเดินทางไปสำรวจพบ และได้ทำสำเนาจารึกดังกล่าวไว้ และตั้งชื่อว่า “ศิลาจารึกวัดสระแก้ว (อบ. 7)”
อนึ่ง จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดสระแก้ว พบซากฐานอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 10X10 ม. ตัวอาคารหันหน้าลงสู่แม่น้ำมูล ห่างจากแนวขอบฐานอาคารออกไปทางด้านทิศตะวันออก 5 ม. พบแนวกำแพงเตี้ย ๆ ขนาดกว้าง 1 ม. (กรมศิลปากร 2535ข: 92)
ส่วนภายในวัดสระแก้วได้เก็บรักษาโบราณวัตถุจำนวนมาก ที่สำคัญคือทับหลัง ซึ่ง สมิทธิ ศิริภัทร์ และ มยุรี วีระประเสริฐ (2533: 70) กำหนดอายุว่าอยู่ราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 13 และ ศรีศักร วัลลิโภดม (2538: 549) ระบุว่า จารึกหลักนี้พบที่วัดแห่งนี้  
อย่างไรก็ตาม จารึกและทับหลังที่เก็บรักษาอยู่ภายในวัดสระแก้ว ต่างก็พบอยู่ที่สถานที่แห่งเดียวกันและมีอายุที่ร่วมสมัยกัน ดังนั้นจึงน่าจะเป็นไปได้ว่าจารึกหลักนี้เป็นของศาสนสถานที่ทับหลังชิ้นนี้ประดับอยู่

เนื้อหาโดยสังเขป

จารึกชำรุดเกือบทั้งด้าน เหลืออ่านได้เพียง 2 บรรทัดเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ครบบรรทัดอีกเช่นกัน ที่อ่านได้เป็นชื่อของ “มหิปติวรมัน” เท่านั้น ชื่อนี้ ไม่ปรากฏในทำเนียบพระมหากษัตริย์ของเมืองพระนคร ดังนั้นจึงขอสันนิษฐานว่า “มหิปติวรมัน” นี้ น่าจะเป็นผู้ปกครองท้องถิ่น ซึ่งอาจได้รับอำนาจปกครองมาจากเมืองพระนครให้ปกครองแว่นแคว้นแห่งนี้

ผู้สร้าง

ไม่ปรากฏหลักฐาน

การกำหนดอายุ

รูปแบบของตัวอักษรเป็นอักษรหลังปัลลวะ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-14

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก :
ชะเอม แก้วคล้าย, “จารึกวัดสระแก้ว,” ใน จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 : อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14 (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2529), 284-286.

ภาพประกอบ

ภาพสำเนาจารึกจาก : ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2545 (เลขทะเบียน CD; INS-TH-08, ไฟล์; OB_008)