อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 11, อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 12, อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 11-12, ยุคสมัย-จารึกอาณาจักรศรีวิชัย, วัตถุ-จารึกบนหิน, วัตถุ-จารึกบนหินควอทซ์, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับ, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับทรงสี่เหลี่ยม, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, ที่อยู่ปัจจุบัน-จารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท,
โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2567 20:53:00 )
ชื่อจารึก |
จารึกบนตราประทับจากเขาศรีวิชัย |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
Inscription No. 5, Inscribed rectangular quartz stone seal from Khuan Lukpat |
อักษรที่มีในจารึก |
ปัลลวะ |
ศักราช |
พุทธศตวรรษ 11-12 |
ภาษา |
สันสกฤต |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 1 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
หินควอทซ์ |
ลักษณะวัตถุ |
ตราประทับทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
ในวารสาร SPAFA Digest vol. VII no. 1 (1986) กำหนดเป็น “Inscription No. 5” และ “Inscribed rectangular quartz stone seal from Khuan Lukpat” |
ปีที่พบจารึก |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
สถานที่พบ |
ตำบลเขาศรีวิชัย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี |
ผู้พบ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ |
พิมพ์เผยแพร่ |
SPAFA Digest vol. VII no.1 (1986) : 7-21. |
เนื้อหาโดยสังเขป |
เป็นตราประทับเพื่อกิจใดกิจหนึ่ง โดยจารึกไว้ว่า “วฺริสมุทฺราโพธิ” ซึ่งแปลความได้หลายแบบคือ แปลว่า “การตรัสรู้คือเครื่องหมายแห่งการทำลายล้าง (อาจหมายถึง ทำลายล้างมลทิน หรือ ความไม่รู้)” หรือ “ยินดีที่เป็นที่รู้จัก” หรือ “ประทับเป็นเครื่องหมาย” ตราประทับรุ่นแรกๆ ที่พบทางภาคใต้นี้ ศ. ดร. ผาสุข อินทราวุธ ได้อธิบายไว้ว่า การใช้ตราประทับเป็นสื่อกลางการติดต่อสื่อสารในระดับสถาบันต่างๆ ในสมัยทวารวดี ก็เช่นเดียวกับการใช้ระบบเหรียญกษาปณ์ คือ ชาวอินเดียในสมัยอินโด-โรมัน (พุทธศตวรรษที่ 6-9) ได้นำตราประทับของอินเดีย (แบบที่ชาวกรีก-ชาวโรมัน และชาวเปอร์เซียนิยมใช้) มาใช้เป็นสื่อกลางการติดต่อสื่อสารกับประชากร ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน ดังได้พบตราประทับของอินเดียและของโรมัน ในบริเวณเมืองท่าโบราณ เช่น คลองท่อม จังหวัดกระบี่ (ภาคใต้ของไทย) เมืองออกแก้ว (เวียดนามตอนใต้) และต่อมาในสมัยคุปตะ (พุทธศตวรรษที่ 9-11) ชาวอินเดียก็ได้นำตราประทับของอินเดียมาใช้ในดินแดนแถบนี้ ดังได้พบตราประทับของอินเดียจำนวนหลายชิ้น ในบริเวณเมืองโบราณสมัยทวารวดีหลายแห่ง เช่น เมืองนครโบราณ เมืองอู่ทอง (สุพรรณบุรี) เมืองคูบัว (ราชบุรี) เมืองพรหมทิน เมืองซับจำปา จังหวัดลพบุรี และเมืองจันเสน (นครสวรรค์) และในช่วงต่อมาได้มีการผลิตตราประทับขึ้นใช้เองโดยผู้นำชาวท้องถิ่น อาจสรุปได้ว่าชาวอินเดียได้นำตราประทับที่เคยใช้ในประเทศของตน มาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประชากรชาวทวารวดี และต่อมาได้มีการผลิตตราประทับขึ้นใช้โดยผู้นำชาวพื้นเมืองเอง เพื่อใช้ในกิจการด้านการเมือง การศาสนา การค้าและอื่นๆ ดังปรากฏว่า สัญลักษณ์ที่ใช้บนตราประทับนั้นสื่อความหมายหลายด้าน |
ผู้สร้าง |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
การกำหนดอายุ |
กำหนดอายุโดยพิจารณาจากลักษณะรูปสัณฐานของเส้นอักษรในจารึกบนตราประทับนี้ ที่เหมือนกับรูปอักษรที่ใช้อยู่ในสมัยพระเจ้าศิวสกันทวรมัน กษัตริย์แห่งราชวงศ์ปัลลวะ ประเทศอินเดีย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-12 |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก : |
ภาพประกอบ |
ภาพคัดจำลองอักษรจารึกจาก : SPAFA digest VII, 1 (1986) |