อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 11, อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 12, อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 11-12, ยุคสมัย-จารึกอาณาจักรศรีวิชัย, วัตถุ-จารึกบนหิน, วัตถุ-จารึกบนหินสีเขียว, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับ, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับทรงสี่เหลี่ยม, ลักษณะ-จารึกบนตราประทับทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, ที่อยู่ปัจจุบัน-จารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คลองท่อม, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท,
โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2567 14:19:04 )
ชื่อจารึก |
จารึกบนตราประทับจากควนลูกปัด 2 |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
ตราประทับแผ่นศิลารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า, 5/8 ตราประทับหิน, Inscription no. 3, Inscribed rectangular green stone seal from Khuan Lukpat |
อักษรที่มีในจารึก |
ปัลลวะ |
ศักราช |
พุทธศตวรรษ 11-12 |
ภาษา |
สันสกฤต |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 1 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
หินสีเขียว |
ลักษณะวัตถุ |
ตราประทับทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า |
ขนาดวัตถุ |
กว้าง 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
ในวารสาร SPAFA Digest vol. VII, no. 1 (1986) กำหนดเป็น “Inscription no. 3” และ “Inscribed rectangular green stone seal from Khuan Lukpat” |
ปีที่พบจารึก |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
สถานที่พบ |
บ้านควนลูกปัด ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ |
ผู้พบ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ |
พิมพ์เผยแพร่ |
1) SPAFA Digest vol. VII no. 1 (1986) : 7-21. |
ประวัติ |
จารึกนี้มีลักษณะเป็นรอยลึกลงไปจากพื้นผิว สภาพชำรุดเล็กน้อย มีการอ่านและตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2529 ใน SPAFA Digest vol. VII no. 1 (1986) และสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันทักษิณศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ ซึ่งอ่าน-แปลโดย ก่องแก้ว วีระประจักษ์ ต่อมาใน พ.ศ. 2547 มีการอ่านจารึกนี้อีกครั้งโดย Prof. Dr. Ravindra Vasishtha จาก มหาวิทยาลัย Delhi ผศ. ดร. จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม และ อ. ชัยณรงค์ กลิ่นน้อย จากภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ข้อมูลเกี่ยวกับจารึกรวมทั้งคำอ่าน-คำแปลในครั้งล่าสุดนี้ปรากฏใน วิทยานิพนธ์เรื่อง “การศึกษาความหมายและรูปแบบของตราประทับ สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี” ของ อนันต์ กลิ่นโพธิ์กลับ ซึ่งเป็นการศึกษาความหมายและลักษณะทางประติมานวิทยา เพื่อให้ทราบหน้าที่และประโยชน์ใช้สอยเพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบ และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตราประทับ ที่พบในเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี กับเมืองโบราณอื่นๆ ตราประทับที่พบมีทั้งที่ปรากฏตัวอักษรและเป็นรูปภาพต่างๆ โดยแบ่งเป็นตราประทับ (seals) และตรา (sealings) ตราประทับรุ่นแรกๆ ที่พบทางภาคใต้นี้ ศ. ดร. ผาสุข อินทราวุธ ได้อธิบายไว้ว่า การใช้ตราประทับเป็นสื่อกลางการติดต่อสื่อสารในระดับสถาบันต่างๆ ในสมัยทวารวดี ก็เช่นเดียวกับการใช้ระบบเหรียญกษาปณ์ คือ ชาวอินเดียในสมัยอินโด-โรมัน (พุทธศตวรรษที่ 6-9) ได้นำตราประทับของอินเดีย (แบบที่ชาวกรีก-ชาวโรมันและชาวเปอร์เชียนิยมใช้) มาใช้เป็นสื่อกลางการติดต่อสื่อสารกับประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน ดังได้พบตราประทับของอินเดียและของโรมันในบริเวณเมืองท่าโบราณ เช่น คลองท่อม จังหวัดกระบี่ (ภาคใต้ของไทย) เมืองออกแก้ว (เวียดนามตอนใต้) และต่อมาในสมัยคุปตะ (พุทธศตวรรษที่ 9-11) ชาวอินเดียก็ได้นำตราประทับของอินเดียมาใช้ในดินแดนแถบนี้ ดังได้พบตราประทับของอินเดียจำนวนหลายชิ้น ในบริเวณเมืองโบราณเมืองโบราณสมัยทวารวดีหลายแห่ง เช่น เมืองนครโบราณ เมืองอู่ทอง (สุพรรณบุรี) เมืองคูบัว (ราชบุรี) เมืองพรหมทิน เมืองซับจำปา จังหวัดลพบุรี และเมืองจันเสน (นครสวรรค์) และในช่วงต่อมาได้มีการผลิตตราประทับขึ้นใช้เองโดยผู้นำชาวท้องถิ่น อาจสรุปได้ว่า ชาวอินเดียได้นำตราประทับที่เคยใช้ในประเทศของตน มาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประชากรชาวทวารวดี และต่อมาได้มีการผลิตตราประทับขึ้นใช้โดยผู้นำชาวพื้นเมืองเอง เพื่อใช้ในกิจการด้านการเมือง การศาสนา การค้าและอื่นๆ ดังปรากฏว่าสัญลักษณ์ที่ใช้บนตราประทับนั้นสื่อความหมายหลายด้าน |
เนื้อหาโดยสังเขป |
คำอ่าน-คำแปลของจารึกนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ โดยมีถึง 3 แบบ ได้แก่ “ทหารที่ไม่สะทกสะท้าน” “ห้ามเคลื่อนย้าย” และ ชื่อบุคคลนามว่า “อปรลสนสยะ” |
ผู้สร้าง |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
การกำหนดอายุ |
ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และ ผศ. กรรณิการ์ วิมลเกษม ได้ทำการกำหนดอายุจากรูปแบบอักษร โดยมีความคิดเห็นตรงกันว่าเป็นอักษรปัลลวะซึ่งมีอายุราว พุทธศตวรรษที่ 11-12 อย่างไรก็ตาม Prof. Dr. Ravindra Vasishtha และ ผศ. ดร. จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา มีความคิดเห็นว่า น่าจะเป็นพราหมีที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 6-7 |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ตรงใจ หุตางกูร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก : |
ภาพประกอบ |
ภาพถ่ายและภาพคัดจำลองอักษรจารึกจาก : SPAFA Digest VII, 1 (1986) |