พิพิธภัณฑ์วัดสง่างาม


ที่อยู่:
วัดสง่างาม ตำบลบางบริบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี 25000
โทรศัพท์:
09 4594 2829 วัดสง่างาม
วันและเวลาทำการ:
ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม
ปีที่ก่อตั้ง:
2553
ของเด่น:
ตาลปัตรของหลวงพ่อผิว, พระพุทธรูปโบราณ, ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องปั้นดินเผา
จัดการโดย:
ไม่มีข้อมูล

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล

100 ปี วัดสง่างาม

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 2546

ที่มา: ปราจีนบุรี: อนุสรณ์งานฉลองวัดครับหนึ่งร้อยปี (2446-2546)

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555


ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์วัดสง่างาม

วัดสง่างามเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี เริ่มก่อตั้งปี 2446  ภายในพื้นที่กว้างขวางกว่า 36 ไร่  มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อดังของภาคตะวันออก  ที่มีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น  ทั้งข้าราชการ  พ่อค้า  ประชาชน  พระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ)   ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมของท่านพระครูปราจีนมุนี  หรือหลวงพ่อทอง  วัดหลวงปรีชากุล  เกจิคณาจารย์เรื่องวิทยาคุณในยุคก่อนปีพ.ศ.2460
               
พระปิยะเสริฐ ปสิทฺธิโก ผู้นำชมกล่าวว่า ที่มาของพิพิธภัณฑ์วัดสง่างามมาจากความเคารพศรัทธาของผู้คน    การดำเนินงานอยู่ในช่วงสุดท้ายก่อนเปิดให้เข้าชมได้อย่างเป็นทางการ  เมื่อผู้คนทราบว่าวัดจะทำพิพิธภัณฑ์  คนที่มีของเก่าโบราณ  เป็นพระพุทธรูป  หม้อดินเผา  เครื่องถ้วยชาม  พวกเขาต่างนำมาถวายวัด ให้เป็นสถานที่รวบรวมและให้ความรู้กับประชาชน  อาคารจัดแสดงเป็นอาคารใหม่สร้างขึ้นในปี 2553 ส่วนที่เป็นของวัดมีตาลปัตรของหลวงพ่อผิวและของทางวัดเก็บรวบรวมไว้มีอยู่มากมาย  ตาลปัตรเหล่านี้ผู้จัดทำได้ทำในโอกาสพิเศษต่างๆ  เมื่อนำมาจัดแสดงรวมกันดูสวยงามมากทั้งสีสันและลวดลายต่างๆ
               
เรื่องราวของตาลปัตร ตามความหมายคือ  ใบตาล  จัดเป็นเครื่องบริขารอย่างหนึ่งของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา  ตาลปัตรพัดรอง  ถือเป็นงานประณีตศิลป์ทรงคุณค่าทั้งด้านการออกแบบและการปักลวดลายที่งดงาม  อีกคำที่เรามักได้ยินคือพัดยศ โดยพัดยศจะมีความต่างจากตาลปัตรธรรมดาคือจะปักด้วยดิ้น  ปักลวดลายบอกถึงสมณศักดิ์และมีหลายลักษณะทั้ง  ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์หรือพัดแฉก  พัดหน้านาง  พัดพุดตาน พัดแฉกเปลวเพลิง ฯลฯ  สำหรับพัดรองก็คือตาลปัตรที่พระราชาคณะ  ท่านเจ้าคุณ  พระครู ฯลฯ ถือแทนพัดยศในงานหลวง  หรืองานพระราชพิธีโดย พัดรอง  นี้มีขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระองค์ทรงโปรดฯ ให้จัดทำขึ้นเป็นทรงหน้านาง  โครงเป็นไม้ไผ่แล้วหุ้มด้วยผ้าสีหรือผ้าพื้นมีด้ามตัดคีบตรงกลาง  พัดรองครั้งนั้นไม่มีการปักบอกชื่องานว่าเป็นงานใดหรือบอกสิ่งใดเป็นพิเศษ  แต่เป็นผ้าพื้นหรือผ้าลายที่ไม่มีการปักลาย  ส่วนพัดรองที่ปักลวดลายบอกงานเป็นครั้งแรกมีขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5  และที่เรียกว่า  พัดรอง  นั้นมีความหมายคือ  รองจากพัดยศ  ส่วนที่พระถือโดยทั่วไปจะเรียกว่าตาลปัตรและถ้าใช้ในงานหลวงจะเรียกว่า  พัดรองหรือตาลปัตรพัดรอง
               
ยกตัวอย่างตาลปัตรที่จัดแสดง โดยมีตัวหนังสือเขียนไว้ เช่น เสด็จพระราชดำเนิน พระราชพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต  “รุ่นพระราชศรัทธา”9 ธันวาคม 2524  ที่ระลึกกำเนิดลูกเสือชาวบ้าน  9 สิงหาคม 2514  นอกจากนี้ยังมีตาลปัตรที่ระลึกในงานอุปสมบท  งานกฐินต่างๆ เป็นต้น
ส่วนตรงกลางห้องล้อมรอบด้วยตาลปัตรพัดรอง  มีธรรมมาสน์เก่าหลังหนึ่ง  อายุเกือบร้อยปี 
               
การที่วัดสง่างามเป็นที่มีชื่อเสียง  สืบเนื่องมาจากว่าท่านพระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ) ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคตะวันออก  เป็นผู้สร้างพระเครื่องที่มากด้วยพุทธคุณ  ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุตม์ คงกระพันชาตรี  หลวงพ่อผิวเป็นนักพัฒนา  นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่พระอาราม  และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก  ท่านเป็นผู้สร้างพระอุโบสถหลังปัจจุบันของวัดสง่างาม  อีกสิ่งหนึ่งที่คนกล่าวขานกันคือความเป็นผู้มีเมตตาธรรมสูง  ท่านมีวิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณ  ช่วยสงเคราะห์ผู้เจ็บป่วย เช่น แขนหัก  ขาหัก กระดูกหัก  จนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์  แม้แต่นายแพทย์สมัยใหม่ยังมาให้ท่านช่วยต่อกระดูก  กับสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย  ที่ขาหัก  ท่านก็ช่วยรักษา  หลวงปู่ผิวสิริรวมอายุ 93 ปี 72 พรรษา  (2435-2528) 
               
พระปิยะเสริฐ บอกเล่าเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาวัด ช่วงนี้อยู่ในช่วงการปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าวัด  อยากจะให้วัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี  ทุกวันนี้คนที่มาทำบุญที่วัดต่างให้ความศรัทธาเลื่อมใสกับการลอดพระอุโบสถ  โดยตั้งจิตอธิษฐานให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ  รวมทั้งขอโชคลาภ  ซึ่งคนที่ขอแล้วสมหวังมีการบอกต่อกัน  ที่มาก็คือ  พระอุโบสถหลังนี้ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี  จะถูกน้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีท่วมสูงโดยรอบถึง 1 เมตร  ทำให้พระสงฆ์เกิดความลำบากเวลาเข้าไปทำสังฆกรรมต่างๆ ทางวัดจึงได้ทำการยกฐานพระอุโบสถให้สูงขึ้นประมาณ 1.59 เมตร  การยกฐานพระอุโบสถแบบนี้ถือว่าเป็นวัดแห่งแรกของประเทศไทย  ในเวลาต่อมาจึงมีอีกหลายวัดที่ปฏิบัติเช่นเดียวกัน  ภายในพระอุโบสถนี้เมื่อเดินเข้าไปสักการะ  จะมีรูปเหมือนของหลวงพ่อผิวให้คนได้กราบไหว้ระลึกถึงท่าน
               
สำหรับการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมต้องล่าช้าออกไป สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือ  การถูกโจรกรรมพระพุทธรูปและภาชนะทองเหลือง  ปัจจุบันจึงต้องมีการล็อคห้องอย่างแน่นหนา  มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ในพิพิธภัณฑ์  ท่านเจ้าอาวาสปัจจุบันคือ พระครูสิริพัฒนโสภณ(เสริม ฐิตธมฺโม) ท่านอยากให้เดินสายไปที่กุฏิท่าน  และต้องการให้มีการจัดหมวดหมู่ทำทะเบียนวัตถุสิ่งของ 

อีกประการหนึ่งวัดสง่างามเป็นวัดใหญ่และเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี ประกอบกับมีความพร้อมด้านสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ  หน่วยงานราชการหลายหน่วยงานจึงมาขอใช้พื้นที่วัดจัดงานจัดกิจกรรมอยู่เป็นประจำ ซึ่งในแต่ละงานพระภิกษุจะต้องแบ่งหน้าที่กันดูแลความเรียบร้อย   ทำให้วัดขาดแคลนบุคลากรที่จะมาดูแลพิพิธภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่  ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
 
----------------------------------------------------
สาวิตรี  ตลับแป้น /ผู้เขียน 
ข้อมูลจาก  :  สำรวจภาคสนามเมื่อวันที่ 9   เดือนเมษายน  พ.ศ. 2555
----------------------------------------------------
การเดินทาง : การเดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี
        1.รถยนต์ ใช้เส้นทางได้หลายเส้นทาง คือ 
            1.1  กรุงเทพฯ แยกรังสิตตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่าน อ. องครักษ์  จ.นครนายก เข้าทางหลวงหมายเลข 33 แยกขวาที่สามแยกหนองชะอมตามทางหลวงหมายเลข 319 ระยะทาง 132 กม. หรือวิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวขวาที่สี่แยกเนินหอม ระยะทาง 136 กม. 
                  1.2 กรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 1 เลี้ยวขวาที่หินกองไปตามทางหลวงหมายเลข 33 ผ่าน  จ. นครนายก แยกขวาที่สามแยกหนองชะอม ตามทางหลวงหมายเลข 319 ระยะทาง 164 กม.
                  1.3 กรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 304 ผ่าน จ. ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 319 ผ่านอ.ศรีมหาโพธิ์  ระยะทาง 158 กม.
        2. รถโดยสารประจำทาง 
        มีรถโดยสารออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต) ทุกวันวันละ หลายเที่ยว มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ คือ 
            2.1 เส้นทางกรุงเทพฯ -หินกอง-นครนายก-ปราจีนบุรี รถโดยสารปรับอากาศ ชั้นหนึ่ง (กรุงเทพฯ -นครนายก-ปราจีนบุรี) เที่ยวแรกเวลา 05.00 น. เที่ยวต่อไปออกทุกๆ 30 นาที เที่ยวสุดท้ายเวลา 21.00 น. รถโดยสารธรรมดา (กรุงเทพฯ -นครนายก-ปราจีนบุรี)เที่ยวแรกเวลา 04.45 น. เที่ยวต่อไปออกทุกๆ 30 นาที เที่ยวสุดท้าย 19.30 น. ติคต่อ สอบถามรายละเอียดได้สถานีขนส่งสายเหนือ โทร. 272-5160, (รถธรรมดา) และโทร. 272-5299 (รถปรับอากาศ) 
        3. รถไฟ 
             ขบวนรถไฟโดยสารกรุงเทพฯ-ปราจีนบุรีออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงทุกวัน 
ติดต่อสอบถามที่หน่วยบริการเดินทางสถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 223-7010, 223-7020
                การเดินทางไปวัดสง่างาม  วัดนี้ตั้งอยู่ตำบลบางบริบูรณ์  ไปตามเส้นทางหมายเลข 3069 (ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ์)  กิโลเมตรที่ 7 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
 
-----------------------------------------------
อ้างอิง  :  ข้อมูลการสัมภาษณ์เมื่อวันที่  9  เดือนเมษายน   พ.ศ.2555
               ตาลปัตรพัดรอง  สืบสานประณีตศิลป์กรุงรัตนโกสินทร์.เดลินิวส์วาไรตี้ (วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2555: หน้า 4), 2555.
               หลวงพ่อผิว  วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี. http://www.eakkampee.com/wizContent.asp?
                      wizConID=143&txtmMenu_ID=7 [Accessed 15/5/2555]   
ชื่อผู้แต่ง:
-