วัดสิงห์เป็นวัดโบราณ ในบันทึกพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดคู่เมืองสามโคก พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์อยู่ในกุฏิโบราณ วัตถุจัดแสดงส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุที่ได้มาจากกรุโบราณของวัด อาทิ พระพุทธรูปโบราณ แท่นพระบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงถวายแด่พญากราย พระภิกษุเชื้อสายเจ้ารามัญผู้เป็นเจ้าอาวาสขณะนั้น ภาพถ่ายรอยพระพุทธบาทไม้ซึ่งพระพุทธบาทไม้ของจริงนั้นวัดสิงห์ได้นำไปเก็บรักษาไว้อย่างดี จะนำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้สักการะเฉพาะวันงานประจำปีของวัดสิงห์เท่านั้น ส่วนที่เป็นของพื้นบ้านที่สำคัญ อาทิ ตุ่มสามโคกที่เป็นของแท้ดั้งเดิม ลักษณะเป็นตุ่มดินเผาเนื้อดินสีแดงสีหมากสุก อิฐมอญแปดรู นอกจากนี้วัดสิงห์ยังมีเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่าแก่ ทรงคุณค่าทางโบราณคดี และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปลงรักปิดทองปางมารวิชัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธไสยาสน์(หลวงพ่อเพชร) ที่ชาวบ้านนับถือบูชา
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
โดย:
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์
วัดสิงห์เป็นวัดโบราณ ในบันทึกพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดคู่เมืองสามโคก บริเวณนี้มีการอพยพเข้าออกมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของชาวมอญมาหลายยุคสมัย ตามการสันนิษฐานวัดแห่งนี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถหรือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงปี พ.ศ.2202-2210 ที่ตั้งของวัดอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา มีคลองเชื่อมสำหรับเรือเข้าออกเรียกว่า คลองวัดสิงห์พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์จัดแสดงอยู่ด้านหลังของกุฏิพระสงฆ์ พระสรยุทธ อนาลโย ได้ให้สัมภาษณ์และพานำชม ท่านบอกว่าถัดไปจากกุฏิหลังนี้คือ กุฏิโบราณ ตอนนี้กำลังบูรณะซ่อมแซม เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้สามารถจัดแสดงได้เต็มรูปแบบ พร้อมกันกับการบูรณะวิหารโถง(ศาลาดิน) ที่ถล่มลงมา หลังจากได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี พ.ศ.2554 แล้วทางกรมศิลปากรได้จัดงบประมาณมาบูรณะซ่อมแซมจำนวน 12 ล้านบาท โดยจะดีดพื้นวิหารขึ้นจากพื้น 2 เมตร การก่อสร้างปัจจุบันล่าช้า เนื่องจากต้องรอช่างที่มีความชำนาญสูงมาก่อสร้างซ่อมแซม
วัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุที่ได้มาจากกรุโบราณของวัด ปัจจุบันยังไม่ได้ทำทะเบียนครบทุกชิ้น เป็นพระพุทธรูปโบราณ แม้จะเป็นชิ้นส่วนไม่สมบูรณ์เต็มองค์ แต่ด้วยศิลปะฝีมือช่างชั้นเยี่ยม ความสวยงามยังคงปรากฏอย่างแจ่มชัด ส่วนที่เป็นของพื้นบ้านมีตุ่มสามโคกที่เป็นของแท้สามใบ ลักษณะเป็นตุ่มดินเผาเนื้อดินสีแดงสีหมากสุก อิฐมอญแปดรู ใช้ในการก่อสร้างสมัยก่อน แท่นพระบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงถวายแด่พญากราย พระภิกษุเชื้อสายเจ้ารามัญผู้เป็นเจ้าอาวาสขณะนั้น
เหตุการณ์วันนั้นมีการบันทึกว่า ในคราวเสด็จประพาสเมืองสามโคก ในเทศกาลออกพรรษาเดือน 11 ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2358 ในครั้งนั้นชาวมอญและชาวบ้านได้พากันนำดอกบัวมาทูลเกล้าฯถวายเป็นจำนวนมาก พระองค์ท่านจึงได้พระราชทานนามให้แก่เมืองสามโคกใหม่ว่าเมืองประทุมธานี ดังปรากฏในนิราศภูเขาทองที่ประพันธ์โดยสุนทรภู่ “...ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อประทุมธานีเพราะมีบัว...”ดังนั้นพระแท่นบรรทมนี้จึงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่มีความเชื่อมโยงไปถึงต้นกำเนิดของนามจังหวัดปทุมธานี
พระสรยุทธ อนาลโย ได้พูดถึงตุ่มสามโคกว่าในปัจจุบันไม่น่าจะมีใครผลิตเพื่อจำหน่ายแล้ว ท่านตั้งข้อสังเกตว่าตุ่มสามโคกมีความทนทานน้อยกว่าโอ่งมังกรราชบุรีที่กันรั่วซึมได้ดี น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่การผลิตตุ่มสามโคกหายไป แต่ความสำคัญของตุ่มสามโคกยังมีอยู่ตรงที่สามารถเชื่อมโยงบอกเล่าวิถีชีวิตผู้คนในช่วงเวลาอดีตได้
ท่านบอกให้แวะชมเตาเผาตุ่มสามโคก อยู่ฝั่งตรงข้ามของวัด ทางอบจ.ปทุมธานีและกรมศิลปากรได้เข้าบูรณะและทำหลังคาครอบไว้เป็นอย่างดี ลักษณะเป็นเนินเตาเผาสามโคกตั้งเรียงรายกัน โดยโคกที่หนึ่งอยู่บริเวณสี่แยกวัดสิงห์ ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพเป็นลานตะพักลำน้ำระดับต่ำ สูงราว 4-5 เมตร บริเวณเนินและโดยรอบพบอิฐหักและชิ้นส่วนภาชนะดินเผา แบบหม้อ โอ่ง และครกกระจัดกระจายทั่วไป จึงทำให้ชาวบ้านเรียกโคกนี้ว่า “เตาโอ่งอ่าง”พื้นที่โดยรอบเป็นชุมชน
ส่วนเนินโคกเตาที่สองอยู่ห่างไปประมาณ 50 เมตร อยู่หลังที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ขนาดของโคกเตี้ยกว่าโคกที่หนึ่ง พบเศษภาชนะดินเผาและแนวผนังอิฐเตี้ยๆมีรอยไหม้ปรากฏ ส่วนโคกที่สาม สันนิษฐานว่าอยู่ใกล้กับโคกที่สองและถูกรื้อเพื่อนำอิฐไปใช้ในการก่อสร้าง
เตาเผาตุ่มสามโคกเป็นเตาเผาที่ชาวมอญได้สร้างไว้ในครั้งที่อพยพมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่สามโคก เพื่อผลิตเครื่องปั้นดินเผาออกจำหน่ายโดยจะขนส่งทางเรือที่เรียกว่า เรือกระแชง ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ลักษณะเรือเป็นเรือที่มีท้องเรือโค้งกลม มีประทุนเป็นหลังคาโค้งคุ่ม สินค้าเป็นพวกตุ่ม อ่าง ครก หม้อ ข้าวเปลือก ข้าวสาร ไม้ฟืน
เมื่อถามถึงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชาวมอญ ท่านให้ความเห็นว่ายังพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่เข้มแข็ง เนื่องจากขาดผู้นำในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ประกอบกับสภาพสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป งานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์มีงานตักบาตรพระร้อยในวันออกพรรษาช่วงนั้นเป็นฤดูน้ำหลากตามธรรมชาติ แต่ละวัดจะนำเรือเข้าร่วมงาน
สมัยก่อนชาวมอญมีฐานะดีจึงช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างมากมาย และยังมีประเพณีการทำข้าวแช่ตามแบบโบราณ ในวันสงกรานต์มีการเตรียมสำรับข้าวแช่ไปวางไว้ที่ศาลเพียงตา หรือ “ฮ้อยซังกราต์”(บ้านสงกรานต์) เพื่อบูชาเทพยดา สำรับอื่นๆก็จะนำไปถวายพระที่วัด และส่งให้ญาติผู้ใหญ่เพื่อแสดงความเคารพ ขอพรผู้ใหญ่
ในรายละเอียดของวัตถุจัดแสดงอื่นๆ สิ่งที่สะดุดตามีอีกอย่างหนึ่งคือ แผ่นกระเบื้องของวิหารโถง(ศาลาดิน)ที่กำลังบูรณะ ของเดิมเป็นกระเบื้องกาบู เชิงชายทำเป็นบันแถลงรูปสามเหลี่ยมปลายเรียวโค้งรูปเทพพนมสลับกับรูปดอกบัว และที่เห็นแต่ภาพถ่ายแขวนไว้คือ รอยพระพุทธบาทไม้ การตกแต่งงานไม้ที่กรอบและการตกแต่งพระพุทธบาทโดยการปิดทองร่องกระจก มีความงดงามและทรงคุณค่ามาก ท่านบอกว่า พระพุทธบาทไม้ของวัดสิงห์ได้นำไปเก็บรักษาไว้อย่างดี จะนำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้สักการะเฉพาะวันงานประจำปีของวัดสิงห์เท่านั้น
หลังเข้าชมพิพิธภัณฑ์ วัดสิงห์ยังมีเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่าแก่ ทรงคุณค่าทางโบราณคดี ให้ได้เยี่ยมชมกันต่อ พระพุทธรูปสำคัญของวัดคือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปลงรักปิดทองปางมารวิชัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธไสยาสน์(หลวงพ่อเพชร) โกศบรรจุอัฐิหลวงพ่อพญากราย
----------------------------------------------------
สาวิตรี ตลับแป้น / ผู้เขียน
สำรวจภาคสนาม วันที่ 30 สิงหาคม 2556
----------------------------------------------------
การเดินทาง : การเดินทางไปวัดสิงห์ ไปได้ทั้งทางเรือ และทางรถยนต์ โดยถนนสายปทุมธานี-สามโคก เพียง 3 กม. และมีทางแยกซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กม.ป้ายบอกทางเข้าวัดที่ปากซอยค่อนข้างเล็ก ต้องสังเกตให้ดี
-----------------------------------------------
อ้างอิง :
กระทรวงวัฒนธรรม.(2556).พิพิธภัณฑ์วัดสิงห์.ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2556, จาก
http://www.m-culyure.in.th/moc_new/album/177074/
ข้อมูลการสัมภาษณ์ วันที่ 30 สิงหาคม 2556
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี.(2554). ปทุมธานี เมืองแห่งสายน้ำ
และวัฒนธรรม.กรุงเทพฯ:ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี.เอส.เอส.กรุ๊ป.,พิมพ์ครั้งที่ 2.
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา ตุ่มสามโคก วัดสิงห์ สามโคก ชาวมอญ วัตถุโบราณ อิฐมอญ เตาโอ่งอ่าง
พิพิธภัณฑ์บัว
จ. ปทุมธานี
หอวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ วัดจันทน์กะพ้อ
จ. ปทุมธานี
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
จ. ปทุมธานี