บ้านพิพิธภัณฑ์


ที่อยู่:
170/17 หมู่ 7 หมู่บ้านคลองโพแลนด์ ซ.คลองโพ 2 ถ.ศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170
โทรศัพท์:
02-252-4508,089-200-2803(เอนก นาวิกมูล),089-666-2008(วรรณา นาวิกมูล)
วันและเวลาทำการ:
เปิดเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม:
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
เว็บไซต์:
ปีที่ก่อตั้ง:
2544
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

บ้านพิพิธภัณฑ์ ความหมายความงามที่มั่นคงในความเป็นไทย

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 5/6/2547

ที่มา: ผู้จัดการรายวัน

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

เปิดแล้วบ้านพิพิธภัณฑ์ที่คลองโพธิ์

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: ปีที่22ฉบับที่ 11 ก.ย. 2544

ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

TIME STOOD STILL

ชื่อผู้แต่ง: oratip nimkannon | ปีที่พิมพ์: 20/06/2547

ที่มา: The Nation

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

บ้านพิพิธภัณฑ์ บ้านและตำนานของสรรพสิ่ง

ชื่อผู้แต่ง: พลับพลึง หอมภักดี | ปีที่พิมพ์: ปีที่28 ฉบับที่ 2 เม.ย. - มิ.ย. 2545

ที่มา: เมืองโบราณ

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

เยี่ยมบ้านพิพิธภัณฑ์

ชื่อผู้แต่ง: เอนก นาวิกมูล | ปีที่พิมพ์: 2545

ที่มา: กรุงเทพฯ: บ้านพิพิธภัณฑ์

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า

ชื่อผู้แต่ง: เอนก นาวิกมูล | ปีที่พิมพ์: 2541

ที่มา: กรุงเทพฯ: สมาคมกิจวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

บ้านพิพิธภัณฑ์

ชื่อผู้แต่ง: เอนก นาวิกมูล | ปีที่พิมพ์: ปีที่ 19 ฉบับ 7 (พ.ค. 2541)

ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

7 ปีบ้านพิพิธภัณฑ์เก็บความทรงจำ 50 ปี

ชื่อผู้แต่ง: ปฤษณา กองวงค์ | ปีที่พิมพ์: 12-03-2551

ที่มา: ข่าวสด

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

ก้าวต่อไปของ "เอนก นาวิกมูล" กับ “บ้านพิพิธภัณฑ์” หลังฝันร้ายผ่านพ้น

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 16 ม.ค. 2555;16-01-2012

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 12

แหล่งค้นคว้า:

โดย: ศมส.

วันที่: 25 กันยายน 2556

ย้อนเวลาดูของเก่าที่ "บ้านพิพิธภัณฑ์" กับว่าที่ "เด็กอัจฉริยะ"

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 2 พ.ย. 2550;02-11-2007

ที่มา: ผู้จัดการ

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 26 ธันวาคม 2556


ไม่มีข้อมูล

รีวิวของบ้านพิพิธภัณฑ์

ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร บริเวณพุทธมณฑลสาย 2 ถนนศาลาธรรมสพน์ หน้าหมู่บ้านคลองโพธิ์แลนด์ ซอยคลองโพ 2 จะพบป้ายเล็กๆ เขียนไว้ว่า “บ้านพิพิธภัณฑ์” เชิญชวนให้เราเข้าไปชมให้หายสงสัยว่าบ้านพิพิธภัณฑ์คืออะไร

ตามป้ายบอกทางไปจนถึงบ้านพิพิธภัณฑ์ จะพบตัวอาคารเป็นบ้านสูง 3 ชั้นสองหลัง ด้านหน้าดูเหมือนบ้านทั่วๆ ไป ออกจะคล้ายโกดังเก็บของเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเข้าไปด้านในความรู้สึกและบรรยากาศกลับต่างไปจากที่เห็นภายนอกอย่างสิ้นเชิง ดังที่มีผู้บอกไว้ว่าอย่าตัดสินอะไรจากภายนอก

เมื่อชำระเงินค่าเข้าชมเรียบร้อย เราจะพบกับความเป็นบ้านพิพิธภัณฑ์ ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่เล็กๆ จะสามารถทำให้ผู้คนได้สนุกสนานและรำลึกถึงความหลังและเพลิดเพลินกับการได้ชมของเก่า ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั่วไป 

ชั้นแรกเป็นร้านขายของชำ ของเล่น ขนมต่างๆ ที่เคยเห็นในอดีต ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ที่นี่ยังคงมีจำหน่ายให้ซื้อไปเก็บสะสมได้ ร้านขายของชำจำลองชื่อเฮงฮวด มีกระป๋องนม ขวดน้ำอัดลม ยาสีฟัน เครื่องอุปโภค บริโภคยุคเก่าหลายชนิดบรรยายได้ไม่หมดมาจัดแสดงให้เราชม หรือแม้แต่ขวดนมเปรี้ยวยุคใหม่ที่มีสีสันสวยงามก็นำมาวางปะปนกับของเก่า ทำให้ของเหล่านี้ดูมีค่ามากกว่ากลายเป็นขยะไร้ค่า ผู้เข้าชมส่วนใหญ่จะดูรายละเอียดข้าวของและรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้พบของที่ตนเคยใช้เมื่อวัยเด็ก หรือได้รู้ว่าฉลากสินค้ายี่ห้อนี้สมัยก่อนเป็นอย่างไร 

ตรงข้ามกับร้านขายของชำเป็นร้านขายของเล่นจำลองบรรยายกาศเหมือนร้านค้าจริงๆ จัดได้อย่างน่ารัก นำของเล่นเก่าหลายประเภทมาจัดแสดงในตู้ เช่น ตุ๊กตาพลาสติก ตุ๊กตาสังกะสีแบบต่างๆ ของเล่นบางชิ้นเป็นของเก่าจริงๆ แต่ก็ยังมีสภาพดีอยู่ทำให้เราได้หวลไปในอดีตว่าเมื่อวัยเยาว์เราเคยเล่นของเล่นชิ้นไหนบ้าง หรือบางชิ้นที่เราเคยทิ้งไปเพราะเก่าพังบู้บี้เต็มที

เดินมาบริเวณใกล้ๆ บันได้ขึ้นชั้นสอง เป็นร้านขายยา แค่เห็นทางเข้าร้ายก็เหมือนได้กลิ่นเครื่องยาจีนลอยมา เพราะในร้านมีตู้เก็บยาสมุนไพร เครื่องบดยาโบราณ อุปกรณ์ขายยาสมุนไพร เครื่องชั่ง ตวง วัด ต่างๆ หรือแม้แต่หม้อยาขมยาหวานที่สมัยเด็กๆ เคยมาซื้อเป็นแก้วๆ ดื่มตามร้านขายยาแผนโบราณ และโปสเตอร์ขายยาต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดก็คือโปสเตอร์ยุคนิยมไทยสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่มีข้อความปลุกใจชาวไทยเชื่อมั่นในตัวผู้นำ แค่เดินในชั้นแรกก็เหมือนเราได้เดินข้ามกาลเวลาเข้าสู่ตลาดเก่าแห่งหนึ่งแล้ว

ทางขึ้นชั้นสอง ตามบันไดมีตู้เย็นเก่าและของใช้เก่าๆ อีกหลายชนิด และตู้ขายของเล็กๆ ที่มีทั้งผงซักฟอก ครามย้อมผ้าที่สมัยเด็กๆ ทุกคนต้องเคยใช้ย้อมเสื้อเป็นสีฟ้าแน่ๆ ชั้นสองจะเป็นการจำลองร้านถ่ายรูปแบบเก่าที่ต้องใช้กล้องถ่ายรูปแบบเอาผ้าคลุมตัวผู้ถ่าย กล้องและฟิล์มแบบเก่า ร้านเช่าหนังสือ โรงหนังเก่าที่มีภาพยนตร์ยุคน้ำท่วมกรุงเทพมาฉายให้ชม และอีกหลายเรื่องตามโปรแกรม โปสเตอร์หนังสวยๆ ที่ยังต้องใช้ฝีมือคนวาด ร้านตัดผมและเก้าอี้ตัดผมแบบเก่าอุปกรณ์การตัดครบครัน โรงพิมพ์และแท่นพิมพ์เก่า และร้านขายแผ่นเสียง 

ชั้น 3 เรียกว่าเป็นย่านใจกลางเมืองมีที่ว่าการอำเภอสีหนคร เป็นที่ว่าการอำเภอจำลองตัวแทนของสิงห์ดำหรือคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ที่คุณเอนก นาวิกมูลกับเพื่อนร่วมรุ่นช่วยกันสร้างขึ้น มีโต๊ะจำลองของนายอำเภอ และเสมียนบรรยากาศการจัดแสงต่างๆ ก็ดูขรึมขลังเหมือนอยู่ในอำเภอจริงๆ ส่วนห้องข้างๆ เป็นห้องเรียน มีทั้งโต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ ชอล์คเขียนกระดานและแบบเรียนยุคเก่าที่หาดูได้ยาก 

ส่วนอีกอาคารหนึ่งจำลองร้านกาแฟโบราณ ร้านทอง และร้านขายของชำ น้ำอัดลมต่างๆ ร้านหมอฟันที่มีอุปกรณ์การทำฟันแบบเก่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถเดินดูทั้งวันได้อย่างเพลิดเพลินและพิเศษตรงที่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่ ข้าวของบางอย่างก็ไม่ได้หวงห้ามสามารถจับดูได้ แต่ถ้าชิ้นไหนเก่ามากจะมีป้ายข้อความกรุณาอย่าจับเตือนไว้ ถ้าใครอยากถ่ายรูปของโบราณ หรือจะแต่งตัวย้อนยุคมาถ่ายรูปที่นี่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

จุดเริ่มต้นของการทำบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณเอนก นาวิกมูล ผู้ก่อตั้งกล่าวว่า ตอนแรกที่นี่จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์เด็ก แต่พอโครงการพิพิธภัณฑ์เด็กขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงมอบให้ทางกรุงเทพฯ เป็นผู้ดำเนินการจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เด็กที่ใหญ่โตตอนนี้ ส่วนคุณเอนกจึงนำข้าวของมาจัดทำบ้านพิพิธภัณฑ์แทน 

การเก็บสะสมของคุณเอนก เริ่มต้นมาจากเพื่อนนำขวดน้ำมะเน็ดขวดมาให้เป็นขวดแรก และโดยความสนใจส่วนตัวก็เก็บข้าวของต่างๆ มาเรื่อยๆ บางครั้งก็มีผู้นำมาบริจาคให้จนมีวลีเด็ดประจำบ้านพิพิธภัณฑ์ว่า “เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า” เมื่อของเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็จัดแบ่งเป็นหมวดหมู่และช่วยกันคิดทำเป็นร้าวรวงจำลองต่างๆ ขึ้นมา จนกลายเป็นบ้านพิพิธภัณฑ์ในทุกวันนี้ 

ผู้คนที่มาเที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์ก็มีทุกเพศทุกวัย เข้ามาเดินดูข้าวของและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน และบางคนก็กล่าวว่าทำให้รำลึกถึงวัยเด็ก และของบางอย่างที่ตนคิดว่าไม่มีค่าและทิ้งไป ก็สามารถเก็บและนำมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ได้ บางคนก็กลับไปเริ่มเก็บข้าวของเครื่องใช้ของตนไว้ เรียกว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเพิ่มคุณค่าให้ข้าวของที่กำลังจะกลายเป็นขยะได้อีกทางหนึ่ง 

แนวทางในการสะสมสำหรับผู้ที่สนใจ คุณเอนก นาวิกมูล บอกเคล็ดลับว่าการเก็บของให้สนุกก็คือเริ่มจากสิ่งที่ตนสนใจและมีกำลังทรัพย์ เมื่อเริ่มมีแนวทางแล้วก็จะสนุกไปเอง

อนาคตสำหรับบ้านพิพิธภัณฑ์ คุณเอนก อยากจะมีที่ดินเพิ่มสักผืน เพื่อทำตลาดเล็กๆ จำลองตลาดเก่าให้คนได้มาเที่ยวชม เพราะที่ดินและบ้านที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันก็เริ่มเล็กลงทุกวัน และข้าวของที่คนบริจาคมาก็ยังมีอีกมาก 

บ้านพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท เคล็ดลับสำหรับการเที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์ให้สนุกก็คือกล้องถ่ายรูปที่เตรียมไปต้องมีหน่วยความจำสูง เพราะถ้าเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปจนภาพเต็มจะต้องมานั่งเสียดายภายหลัง


ผู้เขียน: มัณฑนา ชอุ่มผล
มธินีย์ ชอุ่มผล:ถ่ายภาพ


ข้อมูลจาก: สำรวจภาคสนามวันที่ 2 ธันวาคม 2550
ชื่อผู้แต่ง:
-

ย้อนเวลาดูของเก่าที่ "บ้านพิพิธภัณฑ์" กับว่าที่ "เด็กอัจฉริยะ"

"เดี๋ยวเราจะหาค่าไซน์ (sin) ให้ดู" "หาค่าไซน์จากลูกคิดนี่นะ...สุดยอดไปมั้ง" "คอมพ์เครื่องนี้มีแรม 4 ไบท์ ซีพียู 10 เฮิร์ตซ์นะ"...เสียงหยอกล้อของเหล่าวัยรุ่น-วัยเรียนที่หลุดออกมาหลังจากได้เห็นของเก่าๆ ที่หาดูยากเต็มที แม้ไม่ใช่ของมีค่าระดับ "เครื่องลายคราม" แต่ก็มีความหมาย เพราะของเล่นบางชิ้นได้ร่วมอยู่ในชีวิตวัยเด็กของใครหลายคน หากแต่เด็กยุคนี้อาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่ามีของประเภทนี้อยู่ ทั้งที่เวลาเพิ่งจะผ่านมาได้ 40-50 ปีเท่านั้น
ชื่อผู้แต่ง:
-

ก้าวต่อไปของ "เอนก นาวิกมูล" กับ “บ้านพิพิธภัณฑ์” หลังฝันร้ายผ่านพ้น

พิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ หรือหลักฐานต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ หรือเพื่อชื่นชม แต่สำหรับที่ “บ้านพิพิธภัณฑ์” นับเป็นบ้านที่รวบรวมเอาของเก่าเก็บ มาจัดแสดงเอาไว้ตามวิถีชีวิตชาวตลาดชาวเมืองในยุค พ.ศ. 2500 และยุคใกล้เคียง ภายใต้แนวคิด “เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า” บ้านพิพิธภัณฑ์ ดำเนินการโดยสมาคมกิจวัฒนธรรมและอาสาสมัคร และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2544 จนถึงบัดนี้ก็นับเป็นเวลา 10 ปี ที่ผู้คนได้เข้าไปย้อนรำลึกถึงสมัยอดีตสัก 40-50 ปีก่อน ของที่จัดแสดงส่วนใหญ่มาจากการบริจาค อีกส่วนหนึ่งจัดซื้อมาเพิ่มเติมด้วยรายได้เท่าที่พอมีของสมาคม เพื่อให้มีของแปลกๆ เข้ามาเสริมให้ได้ชม
ชื่อผู้แต่ง:
-

"บ้านพิพิธภัณฑ์"วันนี้ยังน่าเที่ยว

บ่ายวันนั้น ฝนสาดลงมาไม่ให้สุ้มให้เสียง โชคดีเหลือเกินที่ผมพาตัวเองหลบเข้ามาในบ้านพิพิธภัณฑ์เป็นที่อุ่นใจเสียก่อน แหม ช่างหลบฝนได้อย่างสร้างสรรค์จริงๆ ว่าไหม บ้านพิพิธภัณฑ์ (House of Museums) ตั้งอยู่ในซอยคลองโพ 2 ถนนศาลาธรรมสพน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 เปิดให้บริการมานานกว่า 12 ปีแล้ว รับรู้กันดีว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวอันเกิดจากแรงกายแรงใจ และทุนทรัพย์ส่วนตัวของนักเขียนสารคดีชื่อดัง เอนก นาวิกมูล
ชื่อผู้แต่ง:
-

ชื่อผู้แต่ง:
-

ชื่อผู้แต่ง:
-

ชื่อผู้แต่ง:
-