พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย


พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เริ่มต้นมาจากการเป็นศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย ที่นำเสนอนิทรรศการในรูปแบบหอวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2530 ต่อมาจังหวัดเลยได้รับอนุมัติงบประมาณจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น จากองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2535 มีสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ภายในจัดแสดงจากประวัติความเป็นมาของเมืองเลย รูปจำลองรอยเท้าไดโนเสาร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในเลย อาทิ ไทเลย ไทดำ ไทพวน ไทใต้ เป็นต้น หลักศิลาจารึกสำคัญ รูปจำลองพระธาตุศรีสองรัก เป็นต้น พิพิธภัณฑ์ได้มีการปรับปรุงพัฒนาพิพิธภัณฑ์อยู่หลายครั้ง และในปี พ.ศ. 2555 ได้ทำการปรับปรุงและเพิ่มพื้นที่จัดแสดงชั้นล่าง จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดเลย (Museum of Art & Culture of Loei) โดยใช้ตัวย่อที่เป็นที่ รู้จักกันทั่วไปว่า MALOEI

ชื่อเรียกอื่น:
MALOEI
ที่อยู่:
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เลขที่ 234 ถ.เลย-เชียงคาน ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย 42000
โทรศัพท์:
042-835-224 ต่อ 45128
วันและเวลาทำการ:
จันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8:30-16:30 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม
เว็บไซต์:
อีเมล:
art.culture.lru@gmail.com
ปีที่ก่อตั้ง:
2530
ของเด่น:
ศิลาจารึกวัดห้วยห่าว ที่กล่าวถึงการสร้างวัดของพระมหากษัตริย์ในสมัยล้านช้าง
จัดการโดย:

โดย:

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดเลย

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย พัฒนามาจากหน่วยประเคราะห์ทางวัฒนธรรมของกองวัฒนธรรมกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบข้อมูลสารสนเทศทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและจังหวัดโดยใช้สถาบันการศึกษาสูงสุดของท้องถิ่นเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินงาน วิทยาลัยครูเลยจึงได้รับเกียรติให้เป็นที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย และได้นำเสนอนิทรรศการในรูปแบบหอวัฒนธรรม โดยเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2530

ต่อมาจังหวัดเลยได้รับอนุมัติงบประมาณจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจากองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2535 เป็นที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย มีสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดทำนิทรรศการถาวร นิทรรศการหมุนเวียน และให้บริการความรู้ทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน

และในปี พ.ศ. 2549 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเสด็จมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ได้มีการปรับปรุงพัฒนาพิพิธภัณฑ์อยู่หลายครั้ง และในปี พ.ศ. 2555 ได้ทำการปรับปรุงและเพิ่มพื้นที่จัดแสดงชั้นล่าง จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดเลย (Museum of Art & Culture of Loei) โดยใช้ตัวย่อที่เป็นที่ รู้จักกันทั่วไปว่า MALOEI

ชื่อผู้แต่ง:
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้แต่ละจังหวัดมีศูนย์วัฒนธรรม โดยเลือกสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินงาน สำหรับจังหวัดเลย วิทยาครูเลย(ในขณะนั้น) ได้รับมอบหมายให้เป็นสถานที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย โดยเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2530 ต่อมาจังหวัดเลยได้รับอนุมัติงบประมาณจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2535 โดยมีสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ

ห้องสำนักงานศิลปะและวัฒนธรรม ที่อยู่ในบริเวณชั้นล่างของอาคาร เป็นสำนักงานให้บริการติดต่อประสานงานแก่ผู้มาเยี่ยมชม พร้อมกับห้องสมุดที่ให้บริการค้นคว้าและยืมหนังสือเกี่ยวกับศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม แก่นักศึกษาและบุคคลทั่วไป

ชั้นบนเป็นห้องวิดีทัศน์ ที่ฉายวิดีทัศน์เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองเลย แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเลย ในส่วนห้องนิทรรศการแบ่งเป็นสองส่วนคือ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน โดยจะจัดนิทรรศการหมุนเวียนตามเทศกาล และประเพณีสำคัญ อย่างไรก็ดีนิทรรศการในห้องนี้ยังมีข้าวของและตัวนิทรรศการถาวรที่ทำไว้เดิมร่วมแสดงอยู่ด้วย ได้แก่ รูปจำลองพระธาตุศรีสองรัก พระพุทธรูปดินเผา พระพุทธรูปไม้ ประเพณีผีตาโขน  ภาชนะดินเผา ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องมือหาปลา ภาพถ่ายเก่าสถานที่สำคัญในจังหวัดเลย
 
ส่วนห้องนิทรรศการอันใหม่ที่เรียกว่า “ห้องเบิ่งเมืองเลย” แต่ยังมีบางเรื่องที่ซ้ำกับเนื้อหาในห้องนิทรรศการหมุนเวียน ในห้องนี้เริ่มจัดแสดงจากประวัติความเป็นมาของเมืองเลย รูปจำลองรอยเท้าไดโนเสาร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ภาพแสดงศิลปะถ้ำ มุมแสดงเครื่องมือโบราณที่ค้นพบในจังหวัดเลย ตั้งแต่ยุคหินเก่า มุมแสดงแหล่งแร่และแร่เศรษฐกิจของจังหวัดเลย มุมชาติพันธุ์วิทยา ที่แสดงถึงการดำรงชีวิต การสร้างที่อยู่อาศัย ประเพณี ความเชื่อ การแต่งกายชุดของกลุ่มชาติพันธุ์ในเลย อาทิ ไทเลย ไทดำ ไทพวน ไทใต้ เป็นต้น หลักศิลาจารึก 2 หลัก คือ ศิลาจารึกวัดห้วยห่าว พบที่บ้านท่าข้าม และศิลาจารึกวัดศรีสองนาง พบที่บ้านน้อย อ.เชียงคาน รูปจำลองพระธาตุศรีสองรัก ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวไทยและลาว ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างพระ

เจ้าไชยฐาธิราช กษัตริย์กรุงศรีสัตนาคนหุตของลาว และพระมหาจักรพรรดิ์ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา 
ถัดมาเป็นมุมวรรณกรรมใบลาน ที่บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยอักษรธรรม อักษรไทยน้อย และอักษรขอม มุมประเพณีความเชื่อ มีรูปจำลองพานบายศรีสู่ขวัญในงานประเพณีผีตาโขน ประเพณีผีตาโขนที่วัดโพนชัย กระทงเพื่อบูชาพระธาตุศรีสองรัก และสุดท้ายเป็นมุมประวัติบุคคลสำคัญของเมืองเลย ทั้งพระเกจิอาจารย์ ได้แก่ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่ศรีจันทร์ วณนาโท  และคนสำคัญ ได้แก่ อาจารย์สังคม ทองมี นายคำป่วน สุธงษา พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก นายสาร สาระทัศนานันท์


ข้อมูลจาก: 
สำรวจภาคสนามวันที่ 21 ธันวาคม 2549
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย
ชื่อผู้แต่ง:
-