โพสต์เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09:43:14
บทความโดย : ทีมงาน
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวการค้นพบศิลาจารึกโบราณชิ้นสำคัญ ที่ได้จากการขุดค้นแหล่งโบราณคดีในกิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยกรมศิลปากร
ศิลาจารึกดังกล่าว อยู่บนฐานศิวลึงค์ เป็นจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต กล่าวถึงพระนามพระเจ้าจิตรเสน (มเหนทรวรมัน) กษัตริย์แห่งอาณาจักรเจนละ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 12 หรือกว่า 1,300 ปีมาแล้ว ทั้งยังเป็นข้อความเดียวกันกับจารึกของจิตรเสนหลักอื่นๆ ที่เคยค้นพบมาก่อนหน้านี้ ทว่ามีความสมบูรณ์มาก
คุณหญิงทิพาวดีกล่าวว่า การค้นพบดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่สำหรับพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เนื่องจากเป็นหลักฐานยืนยันว่า บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนที่มีความสำคัญในยุคนั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว พระเจ้าจิตรเสนคงไม่แผ่อำนาจเข้ามาครอบครอง และสถาปนาจารึกของพระองค์ไว้ (Ancient inscription found Bangkok Post April 8. 2006)
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เผยว่า กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 10 จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขุดค้นแหล่งโบราณคดีดอนขุมเงิน ต.เด่นราษฎร์ กิ่งอำเภอหนองฮี จ.ร้อยเอ็ด พบจารึกอักษรโบราณบนฐานศิวลึงค์ ขนาดยาว 50 เซนติเมตร กว้าง 45 เซนติเมตร หนา 15 เซนติเมตร สำนักงานศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด ได้นำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดร้อยเอ็ดและจะดำเนินการขุดค้นแหล่งต่อไปเพื่อค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไว้ศึกษา ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรโบราณของสำนักหอสมุดแห่งชาติเข้าไปดูแลและแปลข้อความ
ขณะที่ น.ส.ก่องแก้ว วีระประจักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาโบราณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ กล่าวว่า ได้แปล ข้อความอักษรที่ปรากฏบนแท่นฐานศิวลึงค์ที่ขุดพบเป็นอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต คาดว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 12 มีอายุกว่า 1,300 ปี จารึกดังกล่าวมีข้อความและลักษณะรูปอักษรเหมือนกับกลุ่มจารึกของพระเจ้าจิตรเสน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยขอมโบราณ ซึ่งเคยขุดพบอักษรลักษณะเดียวกัน ที่บริเวณปากน้ำมูล จ.อุบลราชธานี สำหรับเนื้อหาของจารึกกล่าวถึงพระเจ้าจิตรเสนว่าเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าศรีสารวเภามะ เป็นพระ เชษฐาของพระเจ้าศรีภววรมัน และเมื่อพระเจ้าจิตรเสนขึ้นครองราชย์ ได้รับการอภิเษกเป็นพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน
น.ส.ก่องแก้วกล่าวต่อไปว่า สำหรับแท่นจารึกที่พบครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นแท่นฐานศิวลึงค์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ นับเป็นการค้นพบครั้งแรกของประเทศไทยและอาจมีเพียงชิ้นเดียว อีกทั้งยังเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยพบ นับเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของดินแดนทุ่งกุลาดำที่เคยเชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้ง แต่หลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบกลับตรงกันข้ามกัน นอกจากนี้ หลักฐานที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีในแหล่งโบราณคดีดอนขุมเงิน เช่น แท่นฐานศิวลึงค์ แท่นฐานโคอุสภะ และชิ้นส่วนจมูกวัว ทำให้ทราบว่าพื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเจนละ
ด้านนายจารึก วิไลแก้ว ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเจนละ ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 ระหว่าง พ.ศ. 1200-1224 เนื่องจากระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12, 13, 14 และ 15 สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม จะเน้นการสร้างด้วยอิฐศิลาและการก่อสร้างด้วยไม้เป็นหลัก ส่วนพุทธศตวรรษที่ 16 และ 17 เริ่มใช้อิฐน้อยลงและไม่ใช้อิฐเลย
อย่างไรก็ตาม การขุดค้นพบทางโบราณคดีที่แหล่งโบราณคดีดอนขุมเงิน ทั้งในส่วนที่เป็นสระน้ำและแท่นฐานที่รองรับแท่นศิวลึงค์ ทำให้เห็นว่าหลักฐานที่ยังหลงเหลืออยู่สอดคล้องกับแนวความคิดการสร้างสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างเครื่องไม้และวัตถุถาวรประเภทหินในพุทธศตวรรษที่ 12 ด้วย นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงการนับถือศาสนาจากพราหมณ์มาเป็นนับถือศาสนาพุทธ เพราะยังได้พบพระพิมพ์แบบศิลปะทวาราวดีจำนวน 3 องค์ด้วย ซึ่งสำนักงานศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด จะได้ขุดค้นศึกษาต่อไป
ที่มา ไทยรัฐ 9 เมษา 2549
ผู้เขียน :
คำสำคัญ : จารึกพระเจ้าจิตรเสน