Blog

The Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
  • images

ความมืดและภัยในสังสาร

ความมืดและภัยในสังสาร

QR-code edit Share on Facebook
เวลาที่โพส
โพสต์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 14:22:40
บทความโดย : ทีมงาน

               ภาพปริศนาธรรมจากสมุดภาพวัดพระรูป ภาพที่ 2 นี้ประกอบไปด้วยภาพชาย 2 คน และราชสีห์ 1 ตัว ในภาพมีต้นไม้ โขดหิน และภูเขา จึงพออนุมานว่าน่าจะเป็นป่า ชายคนแรกผมสั้นสีดำทรงคล้าย ๆ ที่เรียกว่า ทรงมหาดไทย ผิวเข้ม(กว่าอีกคน) ไม่สวมเสื้อ สวมแต่กางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีแดง ลักษณาการคล้ายวิ่งหนีตัวราชสีห์ที่ตามมาข้างหลัง ส่วนชายอีกคนคล้ายหลบราชสีห์อยู่หลังภูเขา ชายคนหลังนี้ผิวสีอ่อนกว่า ผมยาวสีดำรวบเป็นหางม้าอยู่ด้านบน ไม่สวมเสื้อ แต่มีผ้าคลุมไหล่สีแดง ยกมือข้างหนึ่งเหมือนชี้ไปข้างหน้า



ภาพปริศนาธรรม ภาพที่ 2



คำอ่านตามรูปอักษร[1]


ในหนังสือ สมุดข่อย[2] ได้อธิบายภาพปริศนาธรรมภาพนี้ไว้ว่า
““อันธการ ไปป่า อาศัยอยู่ในป่ากลัวมิคราช เข้าไปอาศัยอยู่ในป่า มิรู้ว่าราชสีห์ อยู่ในป่า ต่อรุ่งจึ่งรู้ โยคาวจรเจ้ากลัวภัยในสงสารดุจดังนั้นแล” (อันธการ หมายถึง ความมืด โยคาวจร หมายถึง พระภิกษุ)”
คำอ่าน
๏ อนฺธการไปป่าอาใสอฺยู่ในป่ากฺลัวมิคฺคราชเข้าไปอาใสในป่ามิรู้ว่าราชสีหอฺยู่ในป่าต่อฺรุ่งจึ่งฺรู้ โยคาวจรเจ้ากฺลัวภัยฺย ในสงฺสารดุจฺจฑังฺนั้นแล
คำปริวรรต
๏ อันธการไปป่าอาศัยอยู่ในป่ากลัวมิคราชเข้าไปอาศัยในป่ามิรู้ว่าราชสีห์อฺยู่ในป่าต่อรุ่งจึ่งรู้  โยคาวจรเจ้ากลัวภัย ในสังสารดุจดังนั้นแล
อธิบายเพิ่มเติม
อันธการ                                คือ          ความมืด
มิคราช                                  คือ          ราชาแห่งเนื้อ (เนื้อ คือ สัตว์จำพวกกวาง)
ราชสีห์                                  คือ          ราชาแห่งสิงห์
โยคาวจร                               คือ          ผู้มีความเพียร ผู้เจริญภาวนา ในที่นี้หมายถึง พระภิกษุ
สังสาร                                   คือ          การเวียนว่ายตายเกิด

ด้วยความที่ข้อความประโยคนี้เป็นปริศนาธรรม คนที่ศึกษาธรรมอย่างลึกซึ้งจึงจะเข้าใจได้ ผู้เขียนเองไม่ได้ศึกษาเรื่องธรรมแต่พยายามจะทำความเข้าใจอย่างที่สุด ซึ่งตีความอย่างไรก็ยังไม่ลงตัว พอจะแปลข้อความนี้แบบรวบ ๆ ว่า “ใด ๆ ก็ย่อมกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นในความมืด เหมือนกับที่ภิกษุกลัวการเวียนว่ายตายเกิดฉะนั้น”
อย่างไรก็ดี มีผู้รู้ผู้หนึ่งที่มีความสนใจในข้อความและภาพปริศนาธรรมภาพนี้ได้กรุณาให้ความเห็นและแสดงการอรรถาธิบายไว้ในอีกมุมมองหนึ่งว่า
ผู้ที่อยู่หน้าผาคือจิต หรือ วิญญาณ หรือทางสายวิปัสสนา เรียกว่า ผู้รู้
รุ่งอรุณ คือ ได้เห็นพระสัทธรรม จึงเห็นโทษ ของการยึดมั่นในขันธ์ 5 ฯลฯ
อนึ่ง สงฆ์ คือ คณะสงฆ์, ภิกขุสงฆ์ คือ พระภิกษุที่ได้รับการบวช, อริยสงฆ์ หมายรวมถึง ผู้ที่บวช(บรรพชา) หรือไม่ได้บวชแต่สำเร็จมรรคผลขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว[3]
 
หมายเหตุ

เกี่ยวกับสมุดภาพวัดพระรูป จังหวัดเพชรบุรี เล่มที่ 2
สมุดภาพปริศนาธรรมของวัดพระรูปเล่มนี้ เป็นสมุดไทยขาว อักษรขอม เขียนด้วยหมึกสีดำ ข้อความเป็นภาษาบาลีและภาษาไทย  ขนาด ยาว 41.4 เซนติเมตร กว้าง 14.8 เซนติเมตร หนา 4.7 เซนติเมตร ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่วัดพระรูป อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
สมุดภาพเล่มนี้มีจำนวน 76 หน้า เขียนเป็นภาพปริศนาธรรมจำนวน 38 ภาพ โดยภาพ 1 ภาพเขียนบนหน้า 2 หน้า   ในการเขียนไม่ลงสีพื้น ภาพจึงมีความสวยงามเรียบง่ายแบบฝีมือช่างพื้นบ้าน ไม่มีการระบุชื่อผู้เขียน จึงไม่ทราบรายละเอียดของผู้เขียนและอายุของสมุดภาพเล่มนี้ แม้จะพบว่าลักษณะกลวิธีการเขียนหลายอย่างมีลักษณะคล้ายภาพจิตรกรรมสมัยอยุธยา เช่น นิยมใช้สีสดสว่าง รูปแบบการเขียนภาพคลื่นกระแสน้ำมีความคล้ายคลึงกับที่พบในสมุดภาพฉบับวัดลาด จังหวัดเพชรบุรี เล่มที่ 1 และสมุดภาพฉบับวัดสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี เล่มที่ 1 อีกทั้งในส่วนของภาษาก็มีภาษาเก่าปะปนอยู่มาก เช่น คำว่า สลุด (หมายถึง หล่ม) มีเมียเยียชู้ สเภา (หมายถึง สำเภา) เป็นต้น แต่ท่านผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของภาษาโบราณก็ยังเห็นว่าทั้งเทคนิคการเขียนภาพและความเก่าของภาษาดังกล่าวมานั้นยังมิใช่หลักฐานที่จะมีน้ำหนักพอที่จะกำหนดสมัยของสมุดภาพเล่มนี้ได้
 
[1] อ่านโดยผู้เขียน - นวพรรณ ภัทรมูล, ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
[2] บุญเตือน ศรีวรพจน์ และประสิทธิ์ แสงหับ, สมุดข่อย (กรุงเทพฯ : โครงการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย, 2542), 263.
[3] ขอขอบคุณ คุณ remi mington สำหรับคำอธิบายนี้
 
 

ผู้เขียน : นวพรรณ ภัทรมูล

คำสำคัญ : ปริศนาธรรม สมุดภาพ วัดพระรูป สมุดไทยขาว