“บุคคลอันมีสันดานเป็นบาป มีแต่โทโสย่อมผูกมัดสัตว์ด้วยเชือกและพรวนเครือเขาเป็นต้นแล้วฆ่าเสียซึ่งสัตว์ กรรมให้ผลจึงมาบังเกิดเป็นในกาลสูตรนรก นายนิรยบาลเอาสายบรรทัดดีดกายสัตว์นรกให้ภินทนาการแตกออก บางทีนายนิรยบาลมัดสัตว์นรกแล้วถากด้วยพร้าและขวานครุวนาดุจถากไม้ บางทีมีพืดเหล็กรุ่งเรืองเป็นเปลวเพลิงพันศีรษะสัตว์นรกไว้ ได้ละร้อยชั้นพันชั้น อาศัยกรรมอันใดวิสัชนาว่า สัตว์เหล่านี้เป็นสมณะไม่มีศีล อนึ่งบุคคลอันเผาสัตว์อันอยู่ในโพรงก็ดี ก็ไปตกในกาลสูตรนรก มีอายุได้ 1,000 ปี แต่ละวันหนึ่งในกาลสูตรนรกนั้นได้ 3 โกฏิ 6 ล้านปีในมนุษย์โลก”
ภาพกาลสูตรนรก (ที่มา : สมุดภาพไตรภูมิฉบับอักษรขอม ภาษาไทย, 2552)
ในไตรภูมิกถา เรียก ‘กาฬสูตรนรก' ว่า นรกด้ายดำ นรกขุมนี้มีผนัง, กำแพง และพื้นเหล็กที่ถูกเผาไฟลุกโชนเช่นเดียวกับสัญชีวนรก มีลักษณะเพิ่มเติมคือ นายนิรยบาลจะจับเอาสัตว์นรกนอนลง ใช้เส้นบรรทัดที่ทำด้วยสายเหล็กเผาไฟมาดีด หรือนาบให้เป็นลายบนร่างกายของสัตว์นรก ตามยาวบ้าง ตามขวางบ้าง แล้วจะผ่า เลื่อย หรือตัดด้วยขวาน เลื่อย หรือมีด ตามรอยที่ดีดไว้ เป็นเวลาสามหมื่นหกพันล้านปีมนุษย์ หรือหนึ่งพันปีนรก
อกุศลกรรม หรือ บาป ที่ทำให้ไปตกในนรกขุมนี้ คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ได้ฆ่านักบวช, ภิกษุ, สามเณร หรือดำรงตนเป็นผู้ทุศีล อลัชชี ฯลฯบาปกรรมเหล่านี้เป็นต้น ส่งผลให้เขาต้องไปตกนรกกาฬสูตรนรกผู้เขียน : นวพรรณ ภัทรมูล
คำสำคัญ : จารึกเรื่องนิรยกถา จารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ จารึกวัดโพธิ์ นรกในจารึก