พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน


ที่อยู่:
สถานีวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ บ้านโกรกเดือนห้า ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
โทรศัพท์:
0-4421-6617-8, 0-4421-6620-1
วันและเวลาทำการ:
ทุกวัน 09.00-17.00 น
เว็บไซต์:
ปีที่ก่อตั้ง:
2537
จัดการโดย:

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

"พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน"ความฝันที่รอการสานต่อ

ชื่อผู้แต่ง: ชาติชาย คะมา | ปีที่พิมพ์: 28/01/2548

ที่มา: มติชนรายวัน

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

ซากโคตรช้าง 15 ล้านปี ลุ่มน้ำมูน เมืองโคราช

ชื่อผู้แต่ง: ชุมพล บัวแย้ม | ปีที่พิมพ์: 8/4/2546

ที่มา: มติชนรายวัน

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

อย่าปล่อยให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์อีกครั้ง ในมหายุคอินเตอร์เน็ต

ชื่อผู้แต่ง: วายร้ายสีแดง | ปีที่พิมพ์: ปีที่ 2 ฉบับที่ 19 พฤษภาคม 2548

ที่มา: แก้จน

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

ตามรอยนักสำรวจมร.นม.พบรอยเท้าไดโนเสาร์

ชื่อผู้แต่ง: ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ | ปีที่พิมพ์: 04/09/2551

ที่มา: ข่าวสด

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

โคราชมหัศจรรย์ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 31-07-2550 (หน้า 38);31-07-2007

ที่มา: ผู้จัดการรายวัน

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

ชื่อผู้แต่ง: ณัฐพงศ์ (ศุภชัย) อรชร | ปีที่พิมพ์: 20 ก.ค. 2557;20-07-2014

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 21 กรกฎาคม 2557

มหัศจรรย์ “ไม้กลายเป็นหิน” ของดีถิ่นอีสาน

ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 4 ส.ค. 2556;06-08-2013

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 08 ธันวาคม 2557


ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

ในช่วงปีพ.ศ.2537  ผศ.ดร.ประเทือง  จินตสกุล  ผอ.สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   พบคนงานกำลังขนไม้กลายเป็นหินเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์   เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ   ท่านจึงเข้าไปสอบถามและได้ใช้เงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง เพื่อรักษาไม้กลายเป็นหินท่อนนั้นเก็บไว้   และไม้กลายเป็นหินท่อนดังกล่าวตั้งแสดงอยู่ด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินในเวลานี้   
 
เรื่องราวความเป็นมาทั้งเบื้องหน้าเบื้องลึก   ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวคือ  อาจารย์จรูญ  ด้วงกระยอม  นักวิจัยที่ทำงานร่วมกับอาจารย์ประเทืองมาหลายปี    พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นในราวปีพ.ศ.2537  ช่วงเวลานั้นอาจารย์ประเทืองยังเป็นอาจารย์อยู่ที่ภาควิชาภูมิศาสตร์   มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา  อาจารย์ได้พานักศึกษาไปออกภาคสนาม   แล้วเริ่มพบว่าไม้กลายเป็นหินในประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติ   มีการขนส่งไปขายนอกประเทศเป็นจำนวนมาก    เนื่องจากในตอนนั้นยังไม่มีกฎหมายห้ามส่งออก   ดังนั้นจึงได้เกิดโครงการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินขึ้น
   
พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแต่เดิมหน่วยงานที่รับผิดชอบคือกรมทรัพยากรธรณี   ในเวลาต่อมาได้ย้ายมาเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา  ปัจจุบันมีอาคารจัดแสดง 3  อาคาร    ได้แก่   อาคารแรกคือไม้กลายเป็นหิน   อาคารที่สองคือช้างดึกดำบรรพ์  และอาคารที่สามคือไดโนเสาร์   
 
พิพิธภัณฑ์เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่  29  ตุลาคม  พ.ศ. 2551  โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด 
 
ในอาคารไม้กลายเป็นหิน   เมื่อเดินเข้าไปอันดับแรกเราจะได้พบกับห้องฉายภาพยนตร์แสดงเรื่องราวกำเนิดโลกและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต  ผู้ที่นั่งชมจะได้รับความตื่นเต้นจากการที่พื้นที่นั่งชมสามารถเลื่อนขยับได้เวลาที่เปลือกโลกมีความเคลื่อนไหว   
 
ถัดจากนั้นเป็นห้องจัดแสดงไม้กลายเป็นหิน   บนผนังจะมีวีดีโอสั้นๆ อธิบายถึงการเกิดไม้กลายเป็นหิน   ซึ่งเกิดจากสารละลายซิลิกาเข้าไปแทนที่เนื้อไม้อย่างช้าๆ  คือแทนที่โมเลกุลต่อโมเลกุล  จนกระทั่งแทนที่ทั้งหมด  โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและโครงสร้าง   อายุของพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่เหล่านี้   อายุประมาณ   800,000  - 333,000,000 ปี    ส่วนต้นไม้ที่กลายเป็นหินที่พบมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด  เช่น  ต้นตะแบก  ต้นมะค่าโมง  ต้นปาล์ม  เป็นต้น

ตรงกลางห้องของส่วนจัดแสดง    ไม้กลายเป็นหินชิ้นขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่ในตู้กระจก   ซึ่งเป็นไม้กลายเป็นหินที่หายาก   เป็นประเภทสวยงามจากการกลายเป็นอัญมณีอย่างเช่น  โอปอ  ซิลิเกต  คาเนเลี่ยน  เป็นต้น
 
ในธรรมชาติของการค้นพบไม้กลายเป็นหิน  จะพบที่บริเวณเนินกรวด  ไม้กลายเป็นหินเหล่านี้ได้ถูกกระแสน้ำที่ค่อนข้างรุนแรงพัดพามารวมกัน   จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปอย่างยาวนานนับแสนนับล้านปี   สภาพภูมิศาสตร์บริเวณนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป  เส้นทางแม่น้ำโบราณเหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงไป  เปลือกโลกมีการยกตัวกลายเป็นเนินอย่างที่เห็นกัน   ในภาคอีสานนี้พบไม้กลายเป็นหินเกือบทุกจังหวัด   
 
ไม้กลายเป็นหินท่อนใหญ่สมบูรณ์จัดแสดงได้เพียงภาพถ่าย  เนื่องจากไม้ดึกดำบรรพ์ท่อนนั้นได้ถูกส่งออกไปขายยังต่างประเทศแล้ว   ถึงอย่างนั้นในเวลานี้  พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินที่ได้เกิดขึ้นมาที่นี่เป็น  1  ใน   7  แห่งของโลกที่มีการเก็บรักษาและจัดแสดง  
 
การจัดแสดงในอาคารที่สองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน    การเชื่อมตัวอาคารจะเป็นการเดินผ่านถ้ำซึ่งเปรียบเสมือนการย้อนกาลเวลาไปยังยุคดึกดำบรรพ์ในสมัยที่มีช้างโบราณ     ที่นี่มีฟอสซิลของช้างสี่งา  ช้างงาจอบ  ช้างงาเสียม   สิ่งที่น่าฉงนคือ  ช้างดึกดำบรรพ์นั้นมีหลายสายพันธุ์มาก   รูปร่างหน้าตาก็แปลกแตกต่างจากช้างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน  แล้วเราจะได้รู้ว่าช้างที่ค้นพบทั่วโลกมีถึง  42  สกุล  การค้นพบของที่นี่มี  8  สกุล  ส่วนช้างปัจจุบันนั้นเหลือเพียง  2  สกุลเท่านั้น  ในอาคารนี้มีรูปจำลองช้างดึกดำบรรพ์ตัวโตมากอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง   ส่วนอีกด้านหนึ่งที่เห็นเป็นโครงกระดูกช้าง   อันนี้เป็นของจริงของช้างยุคปัจจุบัน  เจ้าของโครงกระดูกชื่อพลายยีราฟ
 
การค้นพบฟอสซิลของช้างดึกดำบรรพ์  อาจารย์จรูญเล่าว่าพบมากที่บ่อทรายที่มีการดูดทรายเอาไปขายแถวริมแม่น้ำมูล  การพบจะอยู่ลึกลงไปประมาณ  5-40 เมตร โดยพบต่อเนื่องไปตั้งแต่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ   อำเภอพิมาย  ไปจนถึงอำเภอชุมพวง  ที่พบมากอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ   การได้ฟอสซิลเป็นชิ้นส่วนมามีทั้งการบริจาค   การซื้อมาจากคนงานที่พบ    เหตุที่พบมากบริเวณบ่อทรายก็เนื่องมาจากฟอสซิลชิ้นส่วนโครงกระดูกได้ถูกน้ำพัดพามารวมกันในบริเวณที่ต่ำ  อายุของฟอสซิลเหล่านี้อยู่ที่  16 – 5  ล้านปี   เมื่อได้มาแล้วการจำแนกว่าฟอสซิลที่ค้นพบเป็นช้างในตระกูลใดในช่วงเวลาไหน   ชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้จำแนกได้คือส่วนของฟันกราม    นอกจากนี้เรายังจะได้ทราบถึงวิวัฒนาการของช้าง  การกระจายตัวของช้างดึกดำบรรพ์ในทวีปต่างๆ   รู้จักกับช้างแมมมอธ  ช้างมาสโตดอน  ช้างโคราช     นอกจากช้างยังมีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์สัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วยอย่างเช่น  แรดโบราณ  ม้าโบราณ  3  นิ้ว  เสือเขี้ยวดาบ  ยีราฟคอสั้น  เต่ายักษ์  เป็นต้น
 
จากตัวอาคารนี้ไปอาคารที่สาม    เราจะได้ผ่านโพรงถ้ำที่มีไดโนเสาร์จำลอง   คนที่ไม่ได้ตั้งตัวอาจตกใจว่ามีตัวอะไรซุ่มอยู่   ที่นี่มีฟอสซิลไดโนเสาร์โคราชได้แก่พวก  อิกัวโนกอนต์  อัลโลซอร์    ภายในอาคารนี้ มีไดโนเสาร์จำลองตัวโตสามตัว   เมื่อเดินเข้าไปใกล้เจ้าสามตัวนี้จะขยับเขยื้อนส่งเสียงราวกับมีชีวิต   ถ้าอยากรู้ว่าสามตัวนี้มาทำอะไร  เกี่ยวข้องกันอย่างไร   ให้ผู้เข้าชมรีบจับจองที่นั่งในห้องฉายวีดีทัศน์   360  องศา   เพื่อจะได้พบกับความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจ  สำหรับเรื่องราวและฟอสซิลไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ ภายในอาคารนี้มีรายละเอียดไม่แพ้พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่อื่น   สำหรับเด็ก ๆ ที่เกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักสำรวจ   ในนี้มีมุมให้ถ่ายรูปโดยยื่นหน้าเข้าไปเพื่อตัวเราจะกลายเป็นไดโนเสาร์  หรืออยากจะเล่นทรายก็มีมุมที่มีอุปกรณ์การขุดให้ลองทำดู
 
การมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินที่โคราช  เป็นความบันเทิงที่ให้ความรู้กับคนทุกวัย  ในแต่ละวันมีผู้คนจากหลายจังหวัดทั้งใกล้และไกลพาครอบครัวมาเที่ยว   นับว่าที่นี่ประสบความสำเร็จในการสร้างพิพิธภัณฑ์ให้มีชีวิต  พร้อมกับการได้อนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินให้อยู่ในประเทศไทย  
 
สาวิตรี   ตลับแป้น / ผู้เขียน / ถ่ายภาพ
ข้อมูลจาก :  สำรวจภาคสนามเมื่อวันที่  8 ธันวาคม 2551
 
ชื่อผู้แต่ง:
-

มหัศจรรย์ “ไม้กลายเป็นหิน” ของดีถิ่นอีสาน

“ภาคอีสาน” ถือเป็นดินแดนที่มีการขุดค้นพบซากสัตว์ในสมัยโบราณที่มีอายุนับร้อยล้านปีเป็นจำนวนมาก จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ถิ่นไดโนเสาร์” ไม่เพียงแต่ซากสัตว์เท่านั้น ที่นี่ยังมีการค้นพบซากพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินนับร้อยล้านปีอย่าง “ไม้กลายเป็นหิน” ที่จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่พบไม้กลายเป็นหินอายุในพื้นที่เกือบ 20 อำเภอ และไม่เพียงแต่ไม้กลายเป็นหินเท่านั้น แต่ที่นี่ยังพบฟอสซิลของสัตว์ดึกดำบรรพ์และกระดูกไดโนเสาร์เป็นจำนวนมาก จนทำให้มีการก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ขึ้น
ชื่อผู้แต่ง:
-

เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ตั้งอยู่ที่บ้านโกรกเดือนห้า ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ทั้งหมด 80.5 ไร่ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด ชื่อเต็มของสถานที่แห่งนี้ คือ “สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน และทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา” เป็นพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแห่งแรกของประเทศไทย
ชื่อผู้แต่ง:
-

โคราชมหัศจรรย์ "พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน"

ดินแดนอีสานถือว่าเป็นถิ่นไดโนเสาร์ เพราะบนแผ่นดินที่ราบสูงอีสานซึ่งมีอายุเก่าแก่นับร้อยล้านปีมาแล้วนั้น เคยเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่างไดโนเสาร์ และสัตว์โบราณต่างๆ ซึ่งซากเหล่านั้นสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาหลายร้อยล้านปีได้ ไม่เพียงแต่ซากดึกดำบรรพ์สัตว์ประเภทโครงกระดูกไดโนเสาร์เท่านั้นที่พบเจอในดินแดนแถบนี้ แต่อีสานยังมีซากดึกดำบรรพ์พืชอย่าง 'ไม้กลายเป็นหิน" ของแปลกมหัศจรรย์ที่พบได้มากในแถบอีสานเช่นกัน เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามขึ้นมาว่า ไม้กลายเป็นหินคืออะไร? และกลายเป็นหินได้อย่างไร?
ชื่อผู้แต่ง:
-

ทริปหลังบ้าน : พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน, ช้างดึกดำบรรพ์ และไดโนเสาร์ (โคราช)

หยุดวันแรงงานที่ผ่าน ผู้ใช้แรงงานอย่างเราเลยมีโอกาสพาหลานไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินมาค่ะ อยู่ใกล้บ้านมากๆ แต่ไม่เคยแวะไปซักที เนื่องจากคุณหลานชอบไดโนเสาร์มาก โหะๆ เลยจะพาไปดูตัวหย่ายๆ หากใครมาโคราชช่วงนี้น่าจะเห็นป้ายแนะนำที่ท่องเที่ยวของโคราชที่แนะนำพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินนะคะ หากมาจาก กทม ก็สามารถแวะเที่ยวก่อนเข้าเมืองได้เลย u-turn ตรงโคกกรวดผ่านตรงที่ขายต้นไม้เยอะๆไปเลย ไม่ไกลค่ะ เส้นทางนี้สามารถไปถึงสวนสัตว์นครราชสีมาได้ด้วยค่ะ
ชื่อผู้แต่ง:
-