จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง 75 กิโลเมตร
จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข34 (บางนา-ตราด) จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข314 (บางปะกง–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง90กม.
จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข 3 (ผ่านสมุทรปราการ-บางปะกง) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 314 ระยะทาง100 กิโลเมตร
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ แล้วมาเลี้ยวซ้ายออก ฉะเชิงเทรา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 314
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง อ่อนนุช-ลาดกระบัง-ฉะเชิงเทรา เส้นทางตรงอย่างเดียว พอพ้นจากถนนลาดกระบังจะเข้าสู่ ทางหลวงชนบท หมายเลข 3001 (ถนนสาย เทพราช-อ่อนนุช) หลังจากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จะไปเจอกับทางหลวงหมายเลข 314 ใช้เส้นนี้วิ่งเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา
จ. ฉะเชิงเทรา
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
รีวิวของพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา
โรงเรียนไผ่แก้ววิทยาจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบ้านแห่งนี้ขึ้นในฐานะที่เป็นกระบวนการหนึ่งของการสืบค้นภูมิปัญญาในท้องถิ่น สืบค้นวิถีชีวิตไทย เช่น การชักกระดานลากข้าว ซึ่งมีเฉพาะที่ฉะเชิงเทรา และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน ตลอดจนใช้ในขบวนการเรียนการสอนในรายวิชาต่างๆ ของนักเรียนไผ่แก้ววิทยาและโรงเรียนใกล้เคียง การจัดแสดง แบ่งเป็น 4 หัวเรื่อง ได้แก่ (1) ประวัติท้องถิ่น (2) วิถีชีวิตในท้องถิ่นแปลงยาว จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในครัวเรือน (3) การละเล่นพื้นบ้านในแปลงยาว เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการละเล่นในพื้นถิ่นของอำเภอแปลงยาว เช่น การเล่นเพลงพื้นบ้าน การละเล่นของเด็กในอดีต (4) ความสัมพันธ์กับชุมชนใกล้เคียง เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชนแปลงยาวที่มีการติดต่อกับพื้นที่อื่นๆ โดยทางบกและทางน้ำในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัตถุสะสม สิ่งของได้รับการจัดทำทะเบียนและการแสดงแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของที่เป็นของท้องถิ่น และของที่ได้มาจากนอกชุมชน เช่น ได้มาจากอินโดนีเซีย กลุ่มวัตถุในท้องถิ่นเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ และพาหนะในสังคมเกษตรกรรม ทั้งเครื่องมือหาปลา เกษตรกรรม เกวียนควาย นอกจากนี้ โรงเรียนยังทำเอกสารเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัตถุจัดแสดงเหล่านั้น ในรูปของแผ่นพับ ทั้งลักษณะของสิ่งของ หน้าที่การใช้งาน และหน้าที่ทางสังคม
ข้อมูลจาก:
1. การประชุมเครือข่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น (ภาคตะวันออก) จัดโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร วันที่ 6 - 7 กันยายน พ.ศ. 2546 ณ โรงแรมพี.เอ็ม.วาย. บีช รีสอร์ท จังหวัดระยอง
2. เอกสารแนะนำ พิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา จังหวัดฉะเชิงเทรา
รีวิวของพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา
เกวียนขนาดใหญ่เล่มสวยวางไว้อย่างโดดเด่นกลางห้องพิพิธภัณฑ์ กงล้อของเกวียนที่เคยบดไปกับพื้นดิน ครั้งหนึ่งเคยเป็นพาหนะนำคน ผลผลิตทางการเกษตร บรรทุกไปยังที่ต่างๆ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาพเหล่านั้นได้ลบเลือนไปจากชีวิตประจำวันของเราพิพิธภัณฑ์ชาวบ้านโรงเรียนไผ่แก้ววิทยา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดยการริเริ่มของอาจารย์วิชัย ธรรมเมธาพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนไผ่แก้ววิทยาและอาจารย์หมวดวิชาสังคมศึกษา เพื่ออนุรักษ์สมบัติวัฒนธรรมท้องถิ่นในอำเภอแปลงยาว โดยขอรับบริจาคศิลปวัตถุพื้นบ้าน สิ่งของเครื่องใช้ อันเป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น เพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนและนักเรียนโรงเรียนไผ่แก้ววิทยาและโรงเรียนใกล้เคียง
อาจารย์พัชรี มะลิวัลย์ หัวหน้าหมวดสังคมศึกษา พานำชม ในการจัดทำพิพิธภัณฑ์ ช่วงแรกกรมศิลปากรมาช่วยจัดทำพิพิธภัณฑ์ ทั้งจัดตกแต่งและทำป้ายอธิบายวัตถุชิ้นเด่นและประเพณีท้องถิ่น การจัดแสดงแบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่ 1) ประวัติท้องถิ่น 2) วิถีชีวิตในท้องถิ่นแปลงยาว จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในครัวเรือน 3) การละเล่นพื้นบ้านในแปลงยาว เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการละเล่นในพื้นถิ่นของอำเภอแปลงยาว เช่น การเล่นเพลงพื้นบ้าน การละเล่นของเด็กในอดีต 4) ความสัมพันธ์กับชุมชนใกล้เคียง เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชนแปลงยาวที่มีการติดต่อกับพื้นที่อื่นๆ
ส่วนการจัดสิ่งของในพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน แบ่งออกเป็นส่วนๆตามหมวดหมู่สิ่งของ ได้แก่ ภาชนะเครื่องใช้พวกเครื่องลายคราม เครื่องเบญจรงค์ พานทองเหลือง ถ้วยลายเขียนสีพร้อมฝาแบบเครื่องถ้วยจีน ชามพิมพ์ลายและจานพิมพ์ลายแบบเครื่องถ้วยยุโรป ส่วนนี้ทางวัดไผ่แก้วให้มาจัดแสดงพร้อมกับตู้จัดเก็บ กลางห้องเป็นเกวียนขนาดใหญ่ ด้านหลังห้องเป็นเครื่องมือจับปลา ตุ้มดักปลา สุ่มครอบจับปลา เครื่องมือดักจับสัตว์จำพวกหน้าไม้ ปืน ถัดมาเป็นอุปกรณ์ทำนา มีเครื่องสีฝัด ลูกทุบ ลูกถอง ใช้ตีหญ้าให้จมเวลาทำนา
ด้านซ้ายของห้องเป็นอุปกรณ์เครื่องครัวที่ใช้กันในสมัยก่อน มีกระต่ายขูดมะพร้าว ที่กดลอดช่อง ที่คั้นอ้อย โม่หิน ถาดนวดแป้ง นอกจากนี้ก็จะมีพวกตะเกียงเจ้าพายุ ตะเกียงน้ำมันก๊าด ดาบจารึกภาษามอญ หีบ กรรไกรหนีบหมาก ไหเคลือบสีน้ำตาล อ่างดินเผา ว่าว จานเสียง นาฬิกาตั้งพื้นแบบโบราณ
อาจารย์พัชรีบอกว่า ทางโรงเรียนไผ่แก้ววิทยาได้ให้ความสำคัญกับด้านวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเป็นอย่างมาก มีการเข้าร่วมการจัดกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ เช่น การแสดงเพลงชางชักของนักเรียน ปัจจุบันยังคงมีชุมนุมชางชักที่มีอาจารย์ผู้สอนฝึกนักเรียนอยู่เป็นประจำ เพลงชางชักเป็นเพลงพื้นบ้านของชาวหัวสำโรง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเพลงที่ใช้ร้องโต้ตอบกันระหว่างหนุ่มสาว เป็นการแสดงพื้นบ้านช่วงเวลาเก็บเกี่ยว การจัดกิจกรรมขึ้นเขาเผาข้าวหลาม นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการดาราศาสตร์ กล้องส่องดูดาว
ประเพณีขึ้นเขาเผาข้าวหลามของชาวหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว มีที่มาจากคนลาวเวียงจันทน์ ได้อพยพมาในสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 3) มาอยู่ที่อำเภอพนมสารคาม ได้มีการถวายข้าวหลามแด่พระภิกษุสงฆ์ จากการที่เดือน 3 เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าว ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา จึงได้นำข้าวที่ได้จากการเก็บเกี่ยวครั้งแรก เรียกว่าข้าวใหม่ มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นำมาทำอาหาร โดยใช้ไผ่สีสุกมาทำเป็นข้าวหลาม
ต่อมีการผสมผสานกับประเพณีไทยคือการปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลองที่วัดเขาดงยาว(วัดสุวรรณคีรี) ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม การเดินทางจะต้องผ่านบ้านหัวสำโรง ตำบลหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว ซึ่งมีชาวไทยเชื้อสายเขมรตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก ประเพณีบุญข้าวหลามจึงแพร่หลายสู่บ้านหัวสำโรง และรับเป็นประเพณีของกลุ่มตน เป็นประเพณี “ขึ้นเขาเผาข้าวหลาม”ของชาวชุมชนหัวสำโรง
กลุ่มที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนอื่นที่มาดูงาน เมื่อก่อนนี้มาบ่อย แต่ช่วงหลังนานๆครั้ง ปัจจุบันได้เริ่มปรับปรุงห้องจัดแสดงด้วยการทำพื้นห้องและทาสีใหม่ ในการทำความสะอาดได้เคยมีความเสียหาย โดยตู้จัดแสดงเครื่องลายครามที่ทางวัดไผ่แก้วให้มา ได้ล้มลงทำให้ภาชนะแตก
อาจารย์พัชรีได้ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงนี้โรงเรียนอื่นๆได้มีความตื่นตัวในเรื่องการจัดทำพิพิธภัณฑ์ แต่สิ่งของจัดแสดงเริ่มหายากแล้ว โรงเรียนไผ่แก้ววิทยาคือโรงเรียนแรกๆที่ได้ริเริ่มจัดทำพิพิธภัณฑ์ในโรงเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนจะได้ซึมซับความเป็นท้องถิ่น และยังต่อเนื่องไปถึงการพานักเรียนไปเรียนรู้ในหมู่บ้าน ที่เคยไปก็มีบ้านที่ทำเครื่องดนตรีพื้นบ้านอย่าง ระนาด ซอ
ในเรื่องภูมิปัญญาชาวบ้าน อาจารย์พัชรีได้เอ่ยถึงคุณวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์แห่งท้องถิ่นบ้านตลาดบางบ่อ อำเภอแปลงยาว บุคคลที่เป็นผู้รู้และมีชื่อเสียงด้านดาราศาสตร์ไทย เขาจบเพียงประถมศึกษาปีที่ 7 แต่ด้วยความสนใจต่อท้องฟ้าและตำแหน่งดวงดาวและการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ทำให้เขาหาซื้อตำรามาศึกษาเอง อีกทั้งยังสามารถประดิษฐ์กล้องดูดาวขึ้นมาเองด้วยงบประมาณต่ำแต่คุณภาพสูงได้สำเร็จ คุณวรวิทย์นี้เองที่ได้เข้ามาในโรงเรียน มาเป็นผู้แนะนำให้นักเรียนรู้จักดูดาวบนท้องฟ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักเรียนชื่นชอบมาก และยังเคยได้ถวายงานแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในการทอดพระเนตรปรากฏการณ์สำคัญต่างๆทางดาราศาสตร์หลายครั้ง
ในการปรับปรุงห้องจัดแสดง อาจารย์พัชรีคิดว่าลำดับต่อไปอยากจะจัดทำป้ายคำบรรยายใหม่ เนื่องจากที่มีอยู่เดิมค่อยลางเลือน หลังจากจัดทำมาเป็นสิบปีแล้ว
----------------------------------------------------
สาวิตรี ตลับแป้น /ผู้เขียน /ถ่ายภาพ
สำรวจภาคสนาม วันที่ 9 กรกฏาคม 2555
----------------------------------------------------
การเดินทาง :
จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง 75 กิโลเมตร
จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข34 (บางนา-ตราด) จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข314 (บางปะกง–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง90กม.
จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข 3 (ผ่านสมุทรปราการ-บางปะกง) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 314 ระยะทาง100 กิโลเมตร
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ แล้วมาเลี้ยวซ้ายออก ฉะเชิงเทรา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 314
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง อ่อนนุช-ลาดกระบัง-ฉะเชิงเทรา เส้นทางตรงอย่างเดียว พอพ้นจากถนนลาดกระบังจะเข้าสู่ ทางหลวงชนบท หมายเลข 3001 (ถนนสาย เทพราช-อ่อนนุช) หลังจากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จะไปเจอกับทางหลวงหมายเลข 314 ใช้เส้นนี้วิ่งเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา
โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา อยู่ที่อำเภอแปลงยาว ห่างจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา 35 กม.-----------------------------------------------
อ้างอิง : ข้อมูลการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555
จากความรู้ป.7 สู่นักดาราศาสตร์แห่งเมืองแปดริ้ว.(2550).ค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2555,จาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=113365
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ.(2554).พิพิธภัณฑ์ชาวบ้านโรงเรียนไผ่แก้ว วิทยา.ค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2555,จาก http://www.culture.go.th/culturemap/
index.php?action=listdistrict&pid=24&did=24190&pnum=1
ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.(2554). พิพิธภัณฑ์ชาวบ้านโรงเรียนไผ่แก้ววิทยา.ค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2555,จาก http://work.m-cuture.in.th/album/29104
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
พิพิธภัณฑ์วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่)
จ. ฉะเชิงเทรา
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดหนามแดง
จ. ฉะเชิงเทรา
ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านไผ่ดำ โรงเรียนวัดไผ่ดำ
จ. ฉะเชิงเทรา