พิพิธภัณฑ์ทหารกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 111


ที่อยู่:
กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบ 111 เลขที่ 1 หมู่ 13 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 24000
โทรศัพท์:
0-3898-1715 (นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก) , 0-9073-10295 (ทบ. 63016 มือถือเจ้าหน้าที่)
วันและเวลาทำการ:
วันเวลาราชการ วันจันทร์-วันศุกร์ 08.30-16.30 น. (ทำจดหมายนัดหมายล่วงหน้า)
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม
ปีที่ก่อตั้ง:
2537
ของเด่น:
อาวุธทหารสมัยก่อน
จัดการโดย:

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์ทหารกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 111

ครั้นเมื่อถึงวันเด็ก สิ่งตื่นตาตื่นใจของเด็กๆก็คือการจัดงานวันเด็กในค่ายทหาร  เป็นวันที่จะได้ใกล้ชิดกับอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบ 111 ก็เช่นเดียวกัน ในงานวันเด็กทุกปีจะมีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยก่อนไปจัดนิทรรศการ  ส่วนวันอื่นๆบุคคลภายนอกที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ในห้องพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในค่ายทหาร
       
จุดประสงค์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ได้แก่
        1. เพื่อรวบรวมวัตถุและยุทโธปกรณ์ ที่เคยประจำการอยู่ในกองทัพบก รวมทั้งของฝ่ายตรงข้ามไว้เป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษาและเป็นแหล่งความรู้ให้กับกำลังพลภายในหน่วยรวมทั้งบุคคลภายนอกได้ศึกษาค้นคว้า  ซึ่งเป็นการบริการทางสังคมอีกทางหนึ่ง
        2. เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและปลูกจิตสำนึกให้กับกำลังพลของหน่วย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 111 ให้มีความรักหวงแหนและเห็นคุณค่าพิพิธภัณฑ์ทางทหาร
        3. เพื่อเป็นแหล่งเสริมสร้างแนวความคิด จินตนาการอันกว้างไกลและวิสัยทัศน์ให้กับกำลังพลของหน่วยในการวิจัยพัฒนา  จากการศึกษาพิจารณาวัตถุและยุทโธปกรณ์  ด้วยตัวอย่างในยุคต่างๆ  เป็นการเชื่อมต่ออดีตเข้ากับปัจจุบัน ให้ได้มีประสิทธิภาพสำหรับผลงานในอนาคต  โดยใช้เป็นข้อมูลในการรายงานหรือเสนอแนะ ให้กับผู้บังคับบัญชาได้ทราบตามลำดับ
       
ผู้นำชมพิพิธภัณฑ์มี 3 ท่านคือ พันตรี ชัยวัตร วสยางกูล  ร้อยเอก อชิลักษณ์ พงน์พัฒน์พล จ.ส.อ.ประภาสกร สุขอยู่  วัตถุและยุทโธปกรณ์ต่างๆ พิพิธภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจาก สพ.ทบ. กรม ทพ. ที่ 12  และบางส่วนมาจากทหารพราน การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นี้ได้รวบรวมไว้หลากหลายประเภททั้งปืนอาก้า  ปืนกล  ปืนแก้ป เครื่องยิง M 62  ลูกระเบิดขว้างแบบต่างๆ ได้แก่ ลูกระเบิดขว้าง(น้อยหน่า) ลูกระเบิดขว้าง แบบ 69 ลูกระเบิดขว้างแบบ 46 เป็นต้น ลูกระเบิดแบบต่างๆ ได้แก่ ลูกระเบิดยิง ค.61 มม. ลูกระเบิดยิง ค.82 มม. 
       
ทุ่นระเบิดต่างๆมีจัดแสดงไว้หลากหลายแบบ   ตัวอย่างทุ่นระเบิด ได้แก่  ทุ่นระเบิดสังหาร(แบบโรงผี) ทุ่นระเบิดสังหาร(ฝักข้าวโพด) ทุ่นระเบิดดักสังหาร M 26 (กบกระโดด) ทุ่นระเบิดดักรถถังขนาดหนัก แบบ M 19  ทุ่นระเบิดสังหารแบบพลาสติก(แบบดาว) เป็นต้น
       
อาวุธอีกกลุ่มหนึ่งที่จัดแสดงแยกไว้หนึ่งตู้ใหญ่คือพวกดาบและกระบี่  อย่างเช่น ดาบชาววังเล็ก ดาบชาววังใหญ่ ดาบชนัยเดอร์ด้ามทองเหลือง ดาบซามูไร กระบี่โกร่งเล็ก กระบี่หัวสิงห์ขนาดเล็ก กระบี่ทหารม้าอย่างเล็ก กระบี่ชาววัง กระบี่หัวสิงห์สามสาย เป็นต้น  จากทั้งหมดนี้มีเพียงกระบี่เล็ก  ที่ทหารม้ายังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน 
       
วัตถุจัดแสดงดังกล่าว อีกมุมมองนอกจากความเป็นอาวุธและอานุภาพแล้ว  วัสดุที่ใช้ยังมีความน่าสนใจ  เพราะปัจจุบันไม่ได้ใช้วัสดุแบบนี้แล้ว  พันตรีชัยวัตร วสยางกูล อธิบายว่าอาวุธสมัยก่อนขีปนวิธีจะไม่รุนแรงเท่าสมัยนี้ ระยะใกล้กว่า น้ำหนักมากกว่า(ขีปนวิธี คือ การศึกษาการเคลื่อนที่ของลูกกระสุน)  ส่วนอาวุธสมัยนี้จะเบากว่า ไกลกว่า แรงกว่า อย่างปืนสมัยก่อน เมื่อไปพิจารณาใกล้ๆวัสดุที่เป็นด้ามจับทำมาจากไม้เนื้อแข็ง
       
ในรายละเอียดมีป้ายอธิบายเป็นบางชิ้น ตัวอย่างเช่น ลูกจรวด RPG.-2 ขนาด 82 มม.ของโซเวียต ใช้แพร่หลายในประเทศกลุ่มคอมมิวนิสต์ในสงครามเวียตนาม  (เวลาบรรจุเข้าเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง RPG.-2 ต้องม้วนครีบหางแล้วใส่ทางปากลำกล้อง) พลทหารอาสาสมัครไทย  ที่ไปปฏิบัติราชการร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสาธารณรัฐเวียตนามใต้  ยึดได้จากพวกเวียตกง เมื่อปี พ.ศ.2511(ค.ศ.1968)
 
จ.ส.อ.ประภาสกร สุขอยู่  อธิบายว่า อาวุธหลายชิ้นไม่ทราบที่มา  อย่างกรณีได้มาจากทหารพรานแทบจะหาข้อมูลไม่ได้  จะมีเพียงการลงบัญชีรายละเอียดวัตถุและยุทโธปกรณ์ระบุว่า ได้รับการสนับสนุนจาก สพ.ทบ. และได้รับการสนับสนุนจาก กรม ทพ.ที่ 12 โดยมีการลงจำนวนและหน่วยนับ อย่างปืนนับเป็นกระบอก ดาบและกระบี่นับเป็นเล่ม ทุ่นระเบิดนับเป็นทุ่น ลูกระเบิดและลูกจรวดนับเป็นลูก
 
ส่วนของด้านหลังห้องได้จัดทำเป็นห้องสมุด  ร้อยเอก อชิลักษณ์ พงน์พัฒน์พล  บอกว่าห้องพิพิธภัณฑ์จัดร่วมกับห้องสมุดของหน่วย  บนชั้นหนังสือด้านหนึ่งมีพวกเอกสารโบราณจำพวกคู่มือราชการสนาม เป็นภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับยุทธวิธี ขีปนวิธี การใช้อาวุธต่างๆ เป็นเรื่องระเบิด เรื่องกระสุน วิธีการปฏิบัติ  หนังสืออื่นๆบนชั้นเป็นหนังสือทางทหาร หนังสือประวัติศาสตร์
 
พันตรีชัยวัตร ได้กล่าวถึงการฝึกของทหารในปัจจุบันว่ามีความแตกต่างจากสมัยก่อนตรงยุทธวิธี  เมื่อก่อนจะฝึกเป็นหน่วยขนาดใหญ่  เพื่อทำการรบลักษณะแบบสงครามโลกครั้งที่สอง  เป็นการนำกำลังขนาดใหญ่เข้าไป แต่ปัจจุบันต้องทำลักษณะชุดเล็กลง  แต่ว่าต้องฝึกเพิ่มขึ้น  ทหารทุกคนในหนึ่งชุดจะมี 6-12 คน จะต้องทำหน้าที่หลายๆอย่างได้  เช่น คนที่เป็นหมอจะต้องสามารถยิงปืนเล็ก และมีความรู้เรื่องการวางระเบิด  คือสามารถทำหน้าที่แทนกันได้  อันเนื่องมาจากความเหมาะสมของปฏิบัติงานในพื้นที่ในการคุ้มครองและดูแล  เช่น ในพื้นที่ภาคใต้ หรือในกรุงเทพฯ  กองกำลังขนาดใหญ่ยังมีอยู่แต่น้อยลง  เป็นการวางกำลังรักษาแนวชายแดน  
 
ภารกิจของหน่วยในสองเดือนที่ผ่านมามีการฝึกเยาวชนป้องกันยาเสพติด  การซ้อมการดับเพลิง   การนำกำลังพลทหารกองประจำการและกำลังพลสำรอง  ทำการฝึกเป็นหน่วยทางยุทธวิธีระดับกองร้อย ณ พื้นที่ฝึกเขาน้ำหยด ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และวันที่ 11 กันยายน 2555 ร.111 พัน.1 จะเข้าร่วมการทดสอบ การฝึกทักษะเพื่อให้ชนะ(เดินเร่งรีบและการยิงปืนด้วยกระสุนจริง) 
       
----------------------------------------------------
สาวิตรี  ตลับแป้น /ผู้เขียน /ถ่ายภาพ
ข้อมูลจาก  :  สำรวจภาคสนามเมื่อวันที่  30  สิงหาคม 2555
---------------------------------------------------

การเดินทาง :

จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง 75 กิโลเมตร

จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข34 (บางนา-ตราด) จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข314 (บางปะกง–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง90กม.

จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข 3 (ผ่านสมุทรปราการ-บางปะกง) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 314 ระยะทาง100  กิโลเมตร

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ แล้วมาเลี้ยวซ้ายออก ฉะเชิงเทรา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 314

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทาง อ่อนนุช-ลาดกระบัง-ฉะเชิงเทรา เส้นทางตรงอย่างเดียว พอพ้นจากถนนลาดกระบังจะเข้าสู่ ทางหลวงชนบท หมายเลข 3001 (ถนนสาย เทพราช-อ่อนนุช) หลังจากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จะไปเจอกับทางหลวงหมายเลข 314 ใช้เส้นนี้วิ่งเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทราได้

กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 111 อยู่ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างจุดตัดของทางหลวงหมายเลข 304 และ 315
 
-----------------------------------------------
อ้างอิง  :  กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบ 111.(2555). ค้นเมื่อ 12 กันยายน 2555, จาก  http://www.armyinf111.com/index2.html   
               ข้อมูลการสัมภาษณ์เมื่อวันที่  30  เดือนสิงหาคม  พ.ศ. 2555
               เอกสารพิพิธภัณฑ์ทหารและห้องสมุด ร.111 พัน.1
 


 
ชื่อผู้แต่ง:
-