วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่มีที่มาจากสองวัดรวมกัน ได้แก่ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ พระวิหารมิงเมือง ซึ่งปัจจุบันได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์พระวิหารมิ่งเมือง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปูนปั้นพุทธศิลป์แบบล้านนาเมืองแพร่ และยังจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ล้านนาที่น่าสนใจหลายอย่าง ภาพถ่ายเก่า วัตถุที่โดดเด่นที่สุดคือพระคัมภีร์ที่ปักด้วยไหม ซึ่งปักถวายโดยแม่เจ้าบัวไหลชายาของพระพิริยเทพวงศ์เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้ายนำถวายไว้ให้แก่วัดพระบาทมิ่งเมือง
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร มีที่มาจากสองวัดรวมกัน ได้แก่ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง ที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียงมีตรอกกั้นเท่านั้น ในอดีตวัดพระบาทมีมาก่อนหน้านี้แล้ว ในยุคแรกชื่อ วัดพระพุทธบาท ต่อมาชื่อวัดพระบาทแสงฟ้า วัดไชยอารามพระบาท และสุดท้ายชื่อวัดพระบาท ส่วนวัดมิ่งเมืองเป็นวัดที่เจ้าผู้ครองนครแพร่เป็นผู้สร้าง มีตำนานเล่าสืบกันว่า ในยุคแรกเจ้าผู้ครองนครแพร่จะมาร่วมทำบุญพร้อมกับราษฎรที่วัดพระบาท แต่ต่อมามีราชกิจมากทำให้มาทำบุญตักบาตรร่วมกับราษฎรไม่ค่อยทันเวลา จึงได้ให้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ในพื้นที่สวนอุทยานของเจ้าผู้ครองนครชื่อวัดสวนมิ่ง หรือวัดมิ่งเมือง ต่อมาได้สร้างพระเจดีย์มิ่งเมืองให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมือง และมีการสร้างหอธรรมและพระวิหารหลวงมิ่งเมือง แต่เดิมทั้งสองวัดอยู่ห่างกันเพียงมีตรอกขั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ทั้งสองวัดได้รวมกันเป็นวัดเดียวชื่อ วัดพระบาทมิ่งเมืองและภายหลังได้ยกฐานะจากวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีปัจจุบัน
ปัจจุบันวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ และยังมีพระเจดีย์มิ่งเมือง ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีรอย พระพุทธบาทจำลองอยู่ภายใน นอกจากนี้วัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยาขอบอนุสรณ์เพื่อระลึกถึง "ยาขอบ"หรือ นายโชติ แพร่พันธุ์ นักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วซึ่งเป็นทายาทเจ้าเมืองแพร่คนสุดท้าย
พระพุทธโกศัย สิริชัยมหาศากยมุนี ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารพระอารามหลวง เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองแพร่ แต่เดิมพระอุโบสถวัดพระบาทประสบอัคคีภัยทำให้พระประธานองค์เดิมถูกไฟไหม้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 วัดจึงได้หล่อพระพุทธโกศัยขึ้นมาใหม่เป็นเนื้อทองสำริดหน้าตักกว้าง 1 วา 5 นิ้ว เป็นศิลปะปางมารวิชัยแบบสมัยเชียงแสนผสมสุโขทัย ซึ่งพระธรรมราชานุวัตรอดีตเจ้าคณะตรวจการภาค 5 อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารได้ถวายพระนามว่า"พระพุทธโกศัย สิริชัยมหาศากยมุนี" ให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวแพร่
พระวิหารมิงเมือง ซึ่งปัจจุบันได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์พระวิหารมิ่งเมือง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปูนปั้นพุทธศิลป์แบบล้านนาเมืองแพร่ และยังจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่น่าสนใจหลายอย่าง วัตถุที่โดดเด่นที่สุดคือพระคัมภีร์ที่ปักด้วยไหม ซึ่งปักถวายโดยแม่เจ้าบัวไหลชายาของพระพิริยเทพวงศ์เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้ายนำถวายไว้ให้แก่วัดพระบาทมิ่งเมือง
ข้อมูลจาก:
อดิศร ไชยบุญเรือง. https://www.facebook.com/phrae.tv/posts/1270075499677103
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
วัดพระบาทมิ่งเมือง
พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ
จ. แพร่
บ้านวงศ์บุรี
จ. แพร่
พิพิธภัณฑ์ร้านถ่ายรูปฉลองศิลป์
จ. แพร่