พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ (บ้านไหพันใบ)


ตลาดน้ำบางน้อย อยู่บริเวณปากคลองบางน้อยที่มาบรรจบกับแม่น้ำแม่กลอง สันนิษฐานว่าเริ่มมีและเฟื่องฟูในช่วงที่ชาวจีนอพยพมาอาศัยและสร้างร้านค้าริมน้ำเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว คุณธวัชชัย พิเสฎฐศลาศัย เจ้าของพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ ทายาทรุ่นที่สองของครอบครัวจีนที่เข้ามาค้าขายในตลาดบางน้อยรุ่นแรก เล่าว่าเตี่ยอพยพมาจากเมืองจีน มาอาศัยและค้าขายนนเรือนแพ ต่อมายกแพขึ้นบกบริเวณปากคลองบางน้อย หน้าวัดเกาะแก้ว ทำเป็นเรือนแถวริมน้ำค้าขายผ้าและเครื่องบวชที่รับมาจากกรุงเทพฯ ตั้งชื่อร้านว่า "ตั้งเซียมฮะ" แรกเริ่มพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ ตั้งอยู่ในตึกแถวหน้าวัดเกาะแก้ว ของสะสมมาจากความชื่นชอบของท่านเจ้าของ ที่ตั้งแต่วัยเยาว์บ้านอยู่ริมน้ำเห็นการประดาน้ำหาของเก่าใต้แม่น้ำมาโดยตลอด วัตถุส่วนใหญ่ได้จากทางหน้าค่ายบางกุ้ง และตามแม่น้ำในเขตบางคนทีและอัมพวา สิ่งของจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มีมากกว่า 3,000 ชิ้น ส่วนใหญ่จะเป็นหม้อตาล และเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ อาทิ ไหสี่หูขนาดใหญ่ เครื่องสังคโลก กระปุกชนิด ต่างๆ  หม้อทะนน หม้อปูน เป็นต้น ต่อมาเมื่อตลาดน้ำบางน้อยได้รับการฟื้นฟูเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอัมพวา พิพิธภัณฑ์จึงได้ย้ายวัตถุมาจัดแสดงไว้ที่ห้องแถวเดิมที่เคยเป็นร้านค้าของครอบครัวในตลาดน้ำบางน้อย เพื่อให้สาธารณชนเข้าถึงและรองรับผู้ชมกลุ่มนักเรียนที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในแถบแม่กลอง

ที่อยู่:
เลขที่ 90 หมู่ 8 ตำบลกระดังงา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
โทรศัพท์:
034-761098, 086-6153127
วันและเวลาทำการ:
การเข้าชมควรติดต่อล่วงหน้า 2 วัน
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม (ตั้งกล่องรับบริจาคเงินหากต้องการสนับสนุนพิพิธภัณฑ์)
ปีที่ก่อตั้ง:
2538
ของเด่น:
เครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่สมัยทวารวดี-รัตนโกสินทร์ตอนต้น
จัดการโดย:

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ (บ้านไหพันใบ)

จังหวัดสมุทรสงคราม เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ปรากฏมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ก่อนนี้ชื่อว่า เมือง “แม่กลอง” ซึ่งก็หมายถึงตัวอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม จนแม้ปัจจุบันประชาชนก็ยังเรียกตัวอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสงครามว่า แม่กลอง ทั้งตลาด ทั้งสถานีรถไฟก็ยังติดอยู่ในความทรงจำว่า แม่กลอง   ส่วนอำเภออื่นของจังหวัดเช่น อำเภออัมพวา นั้น แต่ก่อนก็ชื่อว่า “บางช้างสวนนอก บางกอกสวนใน” ที่ทราบกันมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ อีกทั้ง บางช้าง (อัมพวา) นั้น ยังเป็นเมืองราชินิกูลอีกด้วย 
 
ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ตลาดบางน้อยเคยเป็นตลาดที่พลุกพล่าน มีการค้าขายระหว่างชาวเรือที่ล่องเรือค้าขายจากราชบุรี  สมุทรสงครามกันมาอย่างยาวนาน  ในสมัยคลองบางน้อยเป็นหนึ่งในเส้นทางคมนาคมสายหลักในแม่น้ำแม่กลอง – ท่าจีน มีการตั้งถิ่นฐานของชาวสวนริมคลองมาแต่เดิม และยังเป็นเส้นทางเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในปะวัติศาสตร์นั้น ในวันขึ้น-แรม 3 ค่ำ 8 ค่ำและ 13 ค่ำ นัดบางน้อยนั้นถือว่าเป็นนัดที่ใหญ่มากมีเรือมาติดตลาด (อาการของการเป็นตลาดนัดที่เป็นที่นิยม: ผู้เขียน) มีเรือหลายร้อยลำมาทำการค้าขายกันที่นี่ทั้งจากชาวสวนในละแวกนี้และชาวสวนจากสุพรรณบุรี นครปบม กรุงเทพฯ ราชบุรี ปทุมธานี และเลยไปจนถึงอยุธยา ที่วัดบางน้อย(เลยจากปากคลองบางน้อยเข้าไปไม่ไกลนัก) ก็มีชื่อเสียงของการเล่นมหรสพ คือ หนังใหญ่เป็นที่โงดังแต่ด้วยอัคคีภัยทำให้หนังใหญ่ของวัดถูกไฟเผ่าวอดเหลืออยู่เพียงสองตัวเท่านั้น กล่าวกันว่ากองทัพพม่าเมื่อครั้งเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 นั้น ได้มาตั้งกองทัพอยู่ที่วัดเกาะแก้วและยังมีหลักฐานปรากฏอยู่คือ เสาภายในวัดเกาะแก้วที่หัวเสาเป็นรูปกินรีเดิมหัวเสาเป็นรูปหงส์ตอนนี้ถุกเก็บเอาไว้แล้ว
 
หลังจากที่เส้นทางถนนหนทางสะดวกขึ้นการค้าขาย  หรือการเดินทางๆ เรือก็ค่อยๆ ลดความสำคัญลงอาจจะด้วยเหตุผลหลายประการเช่น ระยะเวลาในการเดินทาง  ประสิทธิภาพของการขนส่งที่รถยนต์สามารถทำได้มากกว่า  การเดินทางๆ เรือจึงกลายเป็นเพียงระยะใกล้ๆไปมาหาสู่กันนิดหน่อยเท่านั้น ความเงียบเหงาของตลาดบางน้อยในปัจจุบันจึงค่อนข้าวห่างไกลจากภาพในอีดตเป็นอย่างมาก แต่ชีวิตของชาวตำบลกระดังงา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามก็ยังสงบและไหลเอื่อยไปตามสายน้ำเช่นเดียวกับน้ำในแม่น้ำแม่กลอง
 
ในวันศุกร์เงียบวันนี้  ก่อนที่ตลาดบางน้อยจะได้รับการพลิกฟื้นให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เราได้มีโอกาสเข้ามาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ หรือ บ้านไหพันใบ  ที่เคยชมในโทรทัศน์ว่า มีไหมากมายหลายพันใบ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในวันนี้ได้ทำการติดต่อกับคุณธวัชชัยและคุณประพีร์ภัทร พิเสฏฐศลาศัย ไว้แล้ว สามารถเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ได้สองทางคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เพชรเกษม ผ่านจังหวัดนครปฐม  เข้าเขตราชบุรี ก็เลี้ยวซ้ายที่แยกเข้าอำเภอบางแพ จะเลี้ยวตั้งแต่ดำเนินสะดวกหรือว่ามาเลี้ยวตอนถึงอัมพวาก็ได้ ตลาดบางน้อย(วัดเกาะแก้ว) อยู่ห่างจากตัวตลาดอัมพวาประมาณ 2 กิโลเมตร 
 
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นห้องแถวริมน้ำ บริเวณปากคลองบางน้อย จากลานจอดรถของวัดเมื่อเดินมายังเขื่อนริมแม่น้ำนั้น ห้องแถวห้องแรกก็จะเป็น “พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ” หรือ “บ้านไหพันใบ” ตั้งเซียมฮะ เป็นชื่อที่ได้มาจาก บรรพบุรุษของคุณธวัชชัย ที่อพยพมาจากประเทศจีน มาตั้งรกรากตรงที่นี่และเปิดร้านขายของชำ ด้วยแซ่หรือนามสกุลที่ติดตัวมาจากเมืองจีน คือ “แซ่ตั้ง” จึงตั้งชื่อร้านว่า “ตั้งเซียมฮะ” ตามแซ่ของตระกูล  “เซียมฮะ” แปลว่า เจริญดี และชื่อ “ตั้งเซียมฮะ”นี้ ก็เป็นชื่อของร้านลูกหลานตระกูลนี้ต่อมาอีกหลายคน โดยร้านที่ตั้งอยู่ติดกับตัวพิพิธภัณฑ์นี้ก็ชื่อร้านตั้งเซียมฮะ  ร้านขายเครื่องไฟฟ้าของคุณธวัชชัยก็ชื่อร้านตั้งเซียมฮะอยู่ในตลาดบริเวณสี่แยกวัดเกาะแก้วนี่เอง 

การเริ่มขึ้นของพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะนั้น ก็เมื่อประมาณ 20-30 ปี ก่อนนี้ ในช่วงที่คุณธวัชชัยยังอยู่ในวัยเยาว์บ้านยังตั้งอยุ่ที่ร้านตั้งเซียมฮะหัวมุมริมน้ำแม่กลองนี้เอง บ้านอยู่ริมน้ำก็จะเห็นกิจกรรมทางน้ำหลายอย่างที่เกิดขึ้นในแม่น้ำแม่กลอง กิจกรรมหนึ่งที่เห็นและให้เกิดความสนใจ รวมทั้งคุณพ่อของธวัชชัยก็เห็นความสำคัญและสนใจด้ย ก็คือ กิจกรรมการประดาน้ำหาของเก่าใต้ท้องน้ำแม่กลอง  

“เมื่อก่อนขึ้นจากน้ำเมื่อไหร่เป็นได้ของมาทุกครั้ง เล็กบ้างใหญ่บางก็ต้องมีได้มา”

จากนั้นมาคุณธวัชชัยก็เฝ้าดูการประดาหาของเก่าและเริ่มที่จะซื้อ – ขาย สะสมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนใหญ่ของที่งบมาได้นั้นจะได้จากทางหน้าค่ายบางกุ้ง และตามแม่น้ำในเขตบางคนทีและอัมพวานี่เอง จนทุกวันนี้สิ่งของจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มีมากกว่า 3,000 ชิ้น ส่วนใหญ่จะเป็นหม้อตาล มีทั้งขนาดเล็กไปจนเป็นหม้อดินทรงสูง ในบางครั้งก็งมได้มาเป็นไหสี่หูขนาดใหญ่ คุณธวัชชัยก็ซื้อเอามาเก็บไว้ มากๆเข้าใครก็เลยเรียกที่นี่ว่าเป็น “บ้านไหพันใบ” จนคุณธวัชชัยย้ายบ้านไปอยู่ข้างบน คือขยับไปอยู่บริเวณสี่แยกวัดเกาะ ก็ได้ขนเอาหม้อตาล และไห รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาต่างๆที่เก็บเอาไว้ในโกดังหลังบ้านมาจัดวางให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น  การจัดวางหม้อ –ไหที่มีก้นกลมนั้นถ้าจะวางเฉยๆโดยไม่มีฐานก็อันตรายของจะเสียหาย พอดีกับธุรกิจที่บ้านของคุณธวัชชัยนั้น เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า มีชิ้นส่วนของโฟมอยุ่เป็นจำนวนมากจึงได้ดัดแปลงมาเป็นฐานรองหม้อตาลและไหต่างๆและยังใช้มาจนทุกวันนี้

จากการสังเกตุนั้นหม้อตาลทั้งเล้กใหญ่แต่ละใบมีลวดลายที่ต่างๆกับก็ได้รับการบอกเล่าจากคุณธวัชชัยว่า ที่ลวดลายต่างกันนั้นก็หมายถึงเป็นหม้อดินเผาหรือว่าเป้นหม้อตาลคนละเจ้า คนละยี่ห้อกันนั่นเอง ผู้ขายก็ทำลายของตนเองเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้จะได้มาซื้อกันอีก  และทำไมถึงเจอหม้อตาลเยอะนักในแม่น้ำแม่กลอง เหตุหนึ่งก็อาจจะมาจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำแม่กลองพอใช้น้ำตาลหมดหม้อเล็กก็โยนลงน้ำไป หม้อตาลก็ถูกพัดพาตามกระแสน้ำมาเรื่อยๆก็เลยทำให้นักล่าสมบัติทั้งหลายเจอหม้อตาลมากมายอย่างที่เห็น

สิ่งของจัดแสดงภายในนั้น ประกอบด้วย  เครื่องสังคโลก มีทั้ง ไห ชาม และกระปุกชนิด  ต่างๆ  หม้อทะนนเป็นภาชนะที่ใช้สำหรับหุงต้ม มีใช้ในสมัยอยุธยา หม้อตาลเป็นภาชนะสำหรับใส่น้ำตาลมะพร้าว มีใช้ในสมัยอยุธยาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น  หม้อปูนเป็นภาชนะสำหรับใส่ปูนแดงกินกับหมาก มีใช้ในสมัยอยุธยาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เตาเชิงกราน เป็นเตาฟืนสำหรับหุงหาอาหาร มีใช้ในสมัยอยุธยา นอกจากนี้ ยังมี ไหกระเทียมเป็นภาชนะที่ใส่เหล้ามาจากประเทศจีน แต่คนไทยใช้ดองกระเทียม มีใช้ในสมัยอยุธยาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น  และยังมีโอ่ง ถ้วยชาม  กระถาง เรือบดไม้สัก ขวดน้ำมะเน็ต  และอื่นๆอีกมากมายที่ถ้าสนใจหรือมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องถ้วยชามโบราณในสมัยต่างๆก็จะสนุกสนานกับการค้นหาดูว่ามีศิลปะหรือเครื่องดินเผายุคไหนมาบ้าง

สภาพภายในพิพิธภัณฑ์ในวันที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมนั้น ปิดเอาไว้ คุณธวัชชัยจะเป็นผู้มาเปิดประตูให้เข้าชม การจัดเรียงภายในเป็นไปอย่างง่ายๆ คือ คุณธวัชชัยจะจัดโต๊ะไม้ยาวประมาณ 1.5 x 1 เมตร  เรียงต่อกันสองตัวความยาวตามขนาดห้อง 3 แถว แต่ละแถวจะจัดวางหม้อตาลขนาดต่างๆ อีกแถวหนึ่ง ก็จะจัดวางไหเหล้าจีนที่คนไทยดัดแปลงไปเป็นไหน้ำปลา  กระถางที่ด้านในเคลือบสีเขียวไขกา  ส่วนด้านผนังก็จะทำชั้นไม้เพื่อวางหม้อตาลเป็นชั้นๆประมาณ 3-4 ชั้น ด้านล่างก็วางเครื่องฟั่นดินเผาขนาดใหญ่ไว้ เช่น โอ่งตีนช้างที่มีไว้ใช้ในเรือต้องมีฐานที่กว้างกว่าโอ่งปรกติเพื่อความมั่นคงเวลาเดินเรือเรือโครงเครงจะน้ำได้ไม่หกเสียหายไป  การดูแลทำความสะอาดภายในนั้นคุณธวัชชัยก็จะมาทำความสะอาดเรื่อยๆ เนื่องจากว่าไม่ได้เปิดให้เข้าชมทุกวันจึงไม่ค่อยสกปรกรกรุงรังมากนัก เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการดูแลอย่างดี

พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะไม่เก็บค่าเข้าชม แต่ก็มีกล่องรับบริจาคเพื่อนำเงินของผู้เข้าชมทุกท่านที่บริจาคให้มาใช้ในการทำนุบำรุงพิพิธภัณฑ์และสิ่งจัดแสดงภายในต่อไป  แต่จำนวนเงินที่ได้รับบริจาคจากนักท่องเที่ยวนั้นก็ไม่ได้มากมายนัก ส่วนใหญ่งบประมาณในการทำนุบำรุงก็มาจากเจ้าของเองทั้งหมด

ในขณะนี้ชาวบ้านในตำบลกระดังงา รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆร่วมมือกันเพื่อปลุกตลาดบางน้อยขึ้นมาอีกครั้ง ในวันเสาร์ – อาทิตย์ ตลาดน้ำบางน้อยจะกลับมาคึกคักอีกครั้งและเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่อยากเที่ยวตลาดน้ำที่ไม่แออัดและอากาศปลอดโปร่งอีกแห่งหนึ่งในสมุทรสงคราม

เมธินีย์ ชอุ่มผล เรื่องและภาพ
สำรวจวันที่ 6 มีนาคม 2552

หมายเหตุ  ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ ได้ย้ายจากตลาดน้ำบางน้อยมายังอาคารพาณิชย์ริมถนน บริเวณสี่แยกวัดเกาะแก้ว ก่อนถึงตลาดน้ำบางน้อย
ชื่อผู้แต่ง:
-