พิพิธภัณฑ์หินแปลก


พิพิธภัณฑ์หินแปลกเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่เจ้าของคุณยรรยง เลิศนิมิตร อดีตนักธุรกิจสิ่งทอ ได้เก็บสะสมหินที่มีรูปทรงแปลกโดยธรรมชาติ จากทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ แล้วนำมาจัดแสดงให้แก่บุคคลทั่วไปได้ร่วมชื่นชม โดยราวปี 2540 คุณยรรยง เลิศนิมิตร ได้มีโอกาสเที่ยวชมงานเกี่ยวกับหินและบอนไซ ที่ River City เกิดความประทับใจและเห็นคุณค่าเชิงศิลปะของหินธรรมชาติที่มีรูปร่างแปลกและมีความหลากหลายอยู่ในตัว จึงเริ่มสะสมหินแปลกตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากเข้า ก็คิดเผื่อแผ่ความงดงามตามธรรมชาติ แนวคิดทางปรัชญา และความรู้เชิงธรณีวิทยา ที่เกิดจากหินเหล่านี้ให้แก่คนอื่นได้ร่วมชื่นชม จึงคิดก่อตั้งพิพิธภัณฑ์หินแปลกขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

ที่อยู่:
29/2 ม.1 ริมถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
โทรศัพท์:
0-2581-4835, 08-7550-0803, 08-7015-6629
โทรสาร:
02-975-6943
วันและเวลาทำการ:
เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
เว็บไซต์:
อีเมล:
rarestonemuseum@gmail.com
ปีที่ก่อตั้ง:
2542
ของเด่น:
หินแปลกบริเวณแถวหน้าของพิพิธภัณฑ์ เป็นหินรูปนกสองตัวจุมพิตกัน หินภูมิทัศน์สวยงาม หินฟอสซิล
จัดการโดย:

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

โดย:

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

ไม่มีข้อมูล

พิพิธภัณฑ์หินแปลก

ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าที่ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ จากการสร้างถนนเพื่อพัฒนาสร้างเป็นถนนหนทางให้กับการคมนาคมขนส่งภายในประเทศ  ในอีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่มองโลกด้วยสุนทรียภาพอย่างสร้างสรรค์ ก้อนหินใหญ่น้อยที่แตกกระจายออกมา ก่อนที่จะถูกนำไปบดทำถนน  ด้วยสายตาแหลมคม มีบางชิ้นถูกคัดเลือกออกมาไว้  วางจำหน่ายในร้านต้นไม้สำหรับจัดสวน และที่เป็นหนึ่งในที่มาของหินแปลกนับหมื่นชิ้นของพิพิธภัณฑ์หินแปลกแห่งนี้
 
คุณบรรยง เลิศนิมิตร คนไทยเชื้อสายจีน เจ้าของพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันจัดแสดงหินสวยงามอยู่ที่บริเวณบ้านของตนเองที่จังหวัดปทุมธานี  ป้ายด้านหน้าติดถนนใหญ่เขียนชื่อพิพิธภัณฑ์ชัดเจนทั้งภาษาไทยและจีน คุณบรรยงเคยนำหินแปลกของไทยไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการหินนานาชาติหลายแห่ง และได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างกว้างขวาง ในด้านความงามเชิงศิลปะ จึงคิดว่าน่าจะจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และนำหินแปลกที่สะสมไว้มาจัดแสดง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะให้เป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านธรณีศึกษา ให้ได้ทราบถึงประวัติการก่อตัวของหิน ประเภทและอายุของหิน และสามารถเข้าถึงศิลปะความสวยงามมหัศจรรย์ของหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์หินแปลกได้เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2542  ก่อนหน้านี้เคยจัดแสดงอยู่ที่กรุงเทพฯ บริเวณตลาดน้อย  ถนนเจริญกรุง 26   เนื่องจากค่าใช้จ่ายการจัดแสดงในที่เดิมสูงมาก  จึงได้ย้ายมาจัดแสดงที่ปทุมธานีในปี พ.ศ.2552
 
ปัจจุบันคุณบรรยงอายุ 80 ปี ยังสุขภาพดี เขาเริ่มสะสมหินแปลกมาตั้งแต่อายุ 30 ปี หินส่วนใหญ่เป็นการซื้อหามาในราคาแตกต่างกันไป  รวบรวมมาจากทั่วโลก ช่วงที่เขาเป็นนักธุรกิจสิ่งทอ  ถ้าพบหินในต่างประเทศ  หินก้อนใหญ่จะลำบากในการขนส่ง บางทีก็แตกเสียหาย ดังนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหินก้อนเล็กที่นำกลับมา  แหล่งหินแปลกมีวางขายอยู่ตามร้านต้นไม้สำหรับนำไปจัดสวน เมื่อคัดเลือกหินได้ตามความชอบของตนเองแล้ว  คุณบรรยงจะนำมาทำความสะอาด  โดยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ทำให้ส่วนที่เป็นเศษๆหลุดออกจนหมด เหลือเป็นเนื้อหินที่คงตัวมีความสวยงามคงทน ประเภทของหินมีหินตะกอน หินอัคนี หินชั้น หินแกรนิต
 
หินที่จัดแสดงประกอบด้วยหินฟอสซิลไม้ จากภาคอีสาน หินจากภาคเหนือของประเทศไทย ฟอสซิลหอยทะเลจากเพชรบูรณ์ แต่หินส่วนใหญ่เป็นหินจากภาคกลาง เช่น จังหวัดสระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี อุทัยธานี เป็นต้น หินเหล่านี้มีอายุอย่างน้อย 200-300 ล้านปีขึ้นไป
 
การจัดแสดงในห้องมีประมาณ 3000 ชิ้น จากทั้งหมดประมาณหมื่นชิ้น  ราคาซื้อเริ่มตั้งแต่ 20 บาทจนถึงราคาเป็นแสน   ซึ่งมีการผลัดเปลี่ยนนำมาจัดแสดง  ส่วนที่เห็นเป็นป้ายราคาติดไว้  เป็นความเห็นชอบของคุณบรรยง  ที่ยินดีจำหน่ายของสะสมแสนรักให้กับนักสะสมรุ่นใหม่  เนื่องจากตนองอายุมากแล้ว  ลูกหลานที่มีอยู่ก็ไม่มีใครมีใจรักทางด้านนี้  เพราะการรักในการสะสมเป็นความชอบเฉพาะบุคคลจริงๆ
 
ในจำนวนของสะสมทั้งหมด ยังมีของสะสมอื่นๆของคุณบรรยง ได้แก่ ภาพวาดสีน้ำจากเมืองจีน กระดานหมากรุกจีน  ที่เขี่ยบุหรี่  ไฟแช็ก  ที่เปิดขวด เครื่องทองเหลืองลงยา  เครื่องดินเผา เครื่องเคลือบทั้งของประเทศไทยและประเทศต่างๆ เป็นต้น
 
คุณสุชาดา โสดาวิชิต ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เล่าให้ฟังถึงความประทับใจกับผู้เข้าชมครอบครัวหนึ่ง  เด็กน้อยอายุประมาณ 3 ขวบคือนักสะสมรุ่นเด็กที่สุดเท่าที่เคยเจอมา  แม่ของเด็กบอกว่าลูกชอบเก็บหินมาสะสมมาศึกษา เมื่อทราบว่าที่นี่มีพิพิธภัณฑ์  จึงขับรถพาลูกมา ซึ่งความชอบของเขาไม่ได้เกิดมาจากการอบรมชี้แนะแต่อย่างใด การย้ายมาจัดแสดงที่นี่  มีความชัดเจนของจำนวนผู้เข้าชมที่ลดน้อยลงมาก 
 
ชื่อหินที่อ่านแล้วเพลิดเพลินเมื่อดูสลับไปมากับรูปทรงของหิน  คุณบรรยงเป็นผู้ตั้งชื่อให้  ป้ายบรรยายในชิ้นเด่นๆมีเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาจีน ใกล้กันมีป้ายความรู้วิชาการ บอกชนิดของหิน ชื่อทางวิชาการ ลักษณะการเกิด แหล่งที่มา อายุ  การให้ชื่อของหินหลายๆชิ้นเป็นไปตามจินตนาการ 
 
คุณบรรยงบอกว่าคนอื่นอาจมองเป็นอย่างอื่นก็ได้  ยกตัวอย่าง หินรูปนกเพนกวินสองตัวหันหน้าจุมพิตกัน “สุดแสนดีใจที่ได้พบ”หินที่มองดูแล้วเป็นธารน้ำไหลผ่านเกาะแก่งหิน “สองฟากฝั่งลิงร้องเสียงไม่สิ้น เรือน้อยคล้อยผ่านหมื่นช่องผา” หินสีขาวเป็นก้อนเป็นเกล็ด ให้ชื่อว่า “ยอดเขาน้ำแข็ง”อีกชิ้นหนึ่ง “น้ำแข็งเสียดฟ้า”  หินสีขาวที่มีช่องโพรงตรงกลาง “ประตูศตวรรษ”หินสีดำที่มีรูปร่างเป็นแผนที่ประเทศไทย “แหลมทอง”ชื่อหินอื่นๆ ได้แก่ ลอยมาจากเขาคิชฌกูฏ เซียนในถ้ำ บันไดสู่สวรรค์  มนุษย์หิมะ ซูโม่ จากฟากฟ้ามากำเนิด พนมไพรสุดสงัดวังเวง 
 
หินที่คุณบรรจงซื้อมาจากต่างประเทศ  ชิ้นเด่นๆอยู่บนชั้นแถวหน้าของพิพิธภัณฑ์ มีหินฟอสซิลหอยแอมโมไนต์จากมอรอคโค  หินฟอสซิลหอยแอมโมไนต์จากเยอรมันนี  ชิ้นที่ดูแปลกตากว่าหินก้อนอื่นๆ มีลักษณะเป็นก้อนสีขาวกลมๆเป็นลายสานติดเทินกันไปเป็นจำนวนมาก ให้ชื่อว่า “กุหลาบหินจากซาอุดิอารเบีย”
 
หลังการเยี่ยมชม หากต้องการซื้อของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆ ส่วนด้านหน้ามีจำหน่ายเป็นสินค้าชิ้นเล็ก นอกจากหินแปลกยังมีที่เขี่ยบุหรี่โบราณ  ผลิตภัณฑ์อีกประเภทที่คุณบรรจงได้สะสมไว้เป็นจำนวนมาก กับงานอดิเรกอีกประเภทคือการเขียนบทกวีจีน และได้มีการรวมเล่มไว้  ใกล้กันมีบอร์ดภาพของคณะผู้เข้าชม  เป็นภาพถ่ายของนักเรียนนักศึกษาระดับชั้นต่างๆ เข้ามาเยี่ยมชม นั่นเป็นอีกกำลังใจที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังคงอยู่ต่อไป
 
----------------------------------------------------
สาวิตรี  ตลับแป้น / ผู้เขียน
ข้อมูลจาก  :  สำรวจภาคสนาม วันที่ 18 กรกฎาคม 2556
----------------------------------------------------
การเดินทาง: จากฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต วิ่งมาทางเส้นรังสิต-ปทุมธานี เมื่อผ่านทางขึ้นทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) จนผ่านสะพานข้ามคลองประปา จะอยู่ซ้ายมือตรงหัวโค้ง หากมาจากทางด่วนบางปะอินให้ลงที่ช่องศรี
-----------------------------------------------
อ้างอิง : 
ข้อมูลการสัมภาษณ์ วันที่ 18 กรกฎาคม 2556
สารานุกรมวิกิพีเดีย.(2556).ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2556,จาก http://th.wikipedia.org/wiki
พิพิธภัณฑ์หินแปลกแห่งประเทศไทย.(2556).ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2556.จาก http://www.rangsitcity.com
มหัศจรรย์หิน “พิพิธภัณฑ์หินแปลก”แห่งแรกของไทย จ.ปทุมธานี”(2556). ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2556,จาก http://www.kaejiarjan.com/kaeji-jewelry/959-tour.html
 
ชื่อผู้แต่ง:
-

รีวิวของพิพิธภัณฑ์หินแปลก

ถ้าจะบอกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดจากความหลงใหลของเจ้าของที่มีต่อความสวยงามมหัศจรรย์ของหินก็คงไม่ผิดนัก พิพิธภัณฑ์หินแปลกเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่เจ้าของคุณยรรยง เลิศนิมิตร อดีตนักธุรกิจสิ่งทอ ได้เก็บสะสมหินที่มีรูปทรงแปลกโดยธรรมชาติ จากทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ แล้วนำมาจัดแสดงให้แก่บุคคลทั่วไปได้ร่วมชื่นชม
 
ถอยหลังกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน คุณยรรยง เลิศนิมิตร ได้มีโอกาสเที่ยวชมงานเกี่ยวกับหินและบอนไซ ที่ River City เกิดความประทับใจและเห็นคุณค่าเชิงศิลปะของหินธรรมชาติที่มีรูปร่างแปลกและมีความหลากหลายอยู่ในตัว จึงเริ่มสะสมหินแปลกตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากเข้า ก็คิดเผื่อแผ่ความงดงามตามธรรมชาติ แนวคิดทางปรัชญา และความรู้เชิงธรณีวิทยา ที่เกิดจากหินเหล่านี้ให้แก่คนอื่นได้ร่วมชื่นชม จึงคิดก่อตั้งพิพิธภัณฑ์หินแปลกขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 21 ธันวามคม 2542 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนอาคารพาณิชย์หรือห้องแถวบนปากซอยเจริญกรุง 26 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 
 
ของที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์เป็นของที่คุณยรรยงสะสมเองทั้งหมด ได้แก่ หินที่มีรูปร่างแปลก ไม่ว่าจะเป็นหินตะกอน หินแร่ หินแปร หรือหินฟอสซิล ส่วนใหญ่เป็นหินตะกอนมาจากภูเขาภาคกลาง เช่น จังหวัดกาญจนบุรี สระบุรี และราชบุรี เป็นต้น ปัจจุบันคุณยรรยงมีหินในครอบครองประมาณหมื่นชิ้น โดย 90% เป็นหินภายในประเทศ อีก 10% เป็นหินจากต่างประเทศที่คุณยรรยงได้มีโอกาสไปติดต่อธุรกิจในอดีต ได้แก่ จีน ไต้หวัน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย เป็นต้น นอกจากนอกจากหินแล้วคุณบรรยงยังมีความสุขกับของสะสมอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ ไฟแช็ค กล้องยาสูบ ฉลากยาสูบ ฉลากไม้ขีดไฟ และรองเท้าของผู้หญิงจีนโบราณ เป็นต้น 
 
แต่เดิมพิพิธภัณฑ์หินแปลกตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้นจำนวน 10 ห้อง โดยชั้น 1 และ 2 จัดแสดงหิน ส่วนชั้น 3 จัดแสดงของสะสมอื่น ๆ เป็นที่น่าเสียดาย ปัจจุบันเนื่องจากเจ้าของทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว เมื่อราว 6 เดือนที่ผ่านมาพิพิธภัณฑ์นี้ก็ต้องลดขนาดลงมาเหลือเพียง 3 ห้อง และจัดแสดงเพียงชั้นล่างของอาคารเท่านั้น ด้วยขนาดของพื้นที่จัดแสดงได้ลดลงเหลือเพียง 1 ใน 10 ของขนาดพื้นที่เดิม ทำให้พิพิธภัณฑ์ในวันนี้แออัดไปด้วยของที่จัดแสดงและไม่เป็นสัดส่วนเหมือนเดิม ป้ายที่อธิบายของที่แสดงมีเพียงบางชิ้นเท่านั้น อีกทั้งไม่สามารถจัดแสดงของสะสมทั้งหมดที่มี โดยจัดแสดงเพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือใส่กล่องเก็บไว้ที่บ้านของคุณยรรยงเอง ดังนั้นคงไม่แปลกที่ผู้เขียนรู้สึกว่าตอนนี้สถานที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนร้านขายหินมากกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เหมือนในอดีต
 
จากการพูดคุยกับคุณศุภนิจทำให้ทราบว่าคุณบรรยงเป็นผู้จัดเรียงของที่เแสดงด้วยตัวเอง โดยการจัดเรียงไม่ได้จัดตามชนิดของหิน แต่จัดวางตามความรู้สึกและจินตนาการของคุณยรรยงเอง ในตอนแรกคุณบรรยงหวงของสะสมเหล่านี้มาก แทบจะไม่ให้ใครแตะเลย
 
เมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสเดินชมและได้มีเวลาพิจารณาชิ้นงานแต่ละชิ้น ก็อดทึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้สร้างหินเหล่านี้มา และประทับใจในจินตนาการของคุณยรรยงที่ได้บรรจงคัดสรรหินเพื่อมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ คุณศุภนิจเล่าให้ฟังว่า หินทุกชิ้นที่จัดแสดงคุณยรรยงเป็นผู้เลือกสรร และจินตการว่าจะจัดแสดงอย่างไร แล้วจึงดูแลให้คนทำความสะอาดและจ้างช่างให้ทำฐานโชว์เพื่อให้เข้ากับหินที่จัดแสดง
 
หินที่แสดงมีรูปร่างแปลก ๆ ตามธรรมชาติ สามารถจินตนากรเป็นสัตว์หรือสิ่งของต่าง ๆ เช่น หินรูปนกเค้าแมว หินรูปเหยี่ยวหิมะ หินรูปมนุษย์ต่างดาว และหินรูปนกกีวี เป็นต้น ส่วนหินที่ผู้เขียนชอบเป็นการส่วนตัวคือ หินที่บางคนบอกว่ามีรูปร่างเหมือนหมูกรอบ แต่ผู้เขียนคิดว่าเหมือนเบคอนมากกว่า เห็นแล้วทำให้หิวข้าวขึ้นมาทันที ส่วนหินที่มีความโดดเด่นถือว่าเป็น Highlight ของพิพิธภัณฑ์คือ หินตะกอนแทรกด้วยแคลไซด์รูปนกเพนกวิน มีป้ายอธิบายว่า “สุดแสนดีใจที่ได้พบ” สามารถจินตนาการเป็นรูปนกเพนกวินสองตัวกำลังจูจุ๊บกัน เห็นแล้วก็น่ารักดี
 
เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน เจ้าของต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วยทุนของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าสถานที่ ถึงแม้จะลดขนาดสถานที่จาก 10 ห้องเหลือเพียง 3 ห้องแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ตกแสนกว่าบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเข้าชมที่คุณศุภนิจบอกว่าเก็บได้ไม่ถึงหมื่นบาทต่อเดือน ด้วยความรักที่มีต่อพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณยรรยงจึงต้องควักทุนส่วนตัวเพื่อรักษาพิพิธภัณฑ์ไว้ แต่ปัจจุบันเงินทุนดังกล่าวหมดลง แม้คุณยรรยงจะรักพิพิธภัณฑ์นี้เพียงใด แต่ถ้าไม่มีเงินทุนในการดำเนินการ พิพิธภัณฑ์ก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นคุณบรรยงจึงมีโครงการปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในอนาคตอันใกล้
 
ถึงแม้ผู้เขียนเข้าใจในกฎธรรมชาติที่ว่า ทุกสิ่งต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่ก่อนที่จะหันหลังกลับออกมาผู้เขียนหวังว่าจะมีหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เห็นคุณค่าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้พิพิธภัณฑ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวและให้ความรู้แก่เด็ก ๆ และผู้สนใจต่อไป อย่าให้ต้องปิดไปเหมือนพิพิธภัณฑ์เอกชนหลาย ๆ แห่งในประเทศไทยที่ขาดเงินทุนเลย
 
ข้อมูลจาก: สำรวจภาคสนาม วันที่ 14 ธันวาคม 2550
 
หมายเหตุ พิพิธภัณฑ์หินแปลก ได้ย้ายที่ตั้งใหม่ไปที่  29/2 ม.1 ริมถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ชื่อผู้แต่ง:
-

พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก - พิพิธภัณฑ์หินแปลก

วันนี้เบื่อๆอยากออกไปเดินเที่ยว หลังจากอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่เนื่องจากวันก่อนไปเที่ยวงานสัปดาห์หนังสือมา เจ้ารองเท้าใหม่ กัดเท้า lunar ซะแผลผุพอง ทำให้ออกไปไหนไม่ได้ วันนี้ค่อยยังชั่วขึ้นละ ก็เลยว่าวันนี้จะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกกับพิพิธภัณฑ์หินแปลก ดีกว่า เห็นว่าอยู่ใกล้ๆกันแถวเจริญกรุง ก็ไปซะทีเดียว
ชื่อผู้แต่ง:
-