ที่อยู่:
โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ 88 หมู่ 3 ถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
วันและเวลาทำการ:
เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 15.00 น. (กรุณาติดต่อล่วงหน้า และขอให้ทำหนังสือขอเข้าชมส่งให้กับทางโรงเรียนก่อน)
ค่าเข้าชม:
ไม่เก็บค่าเข้าชม
ของเด่น:
เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของโรงเรียน, ประวัติความเป็นมาของเมืองมีนบุรี, ภูมิปัญญาชาวบ้าน
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
รีวิวของพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก ร.ร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ
โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2454 ชื่อเดิมว่า “โรงเรียนวัดแสนแสบ” (ปัจจุบันคือวัดแสนสุข) แต่เนื่องจากที่ตั้งเดิมนั้นห่างไกลจากชุมชน การคมนาคมก็ยังไม่สะดวก นักเรียนที่ต้องการไปโรงเรียนต้องเดินลัดตามทุ่งนาหรือไปทางเรือเท่านั้น อีกทั้งอาคารเรียนเริ่มทรุดโทรม ทำให้ ใน ปี พ.ศ.2468 นายณรงค์ วีริยินทะ ครูใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากนายเลิศ เศรษฐบุตร หรือพระยาภักดีนรเศรษฐ เจ้าของบริษัทเรือเมล์ขาวที่วิ่งขึ้นล่องในคลองแสนแสบ ให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา ซึ่งก็ได้รับเงินบริจาคมาจากนายเลิศและภรรยา จนสามารถมาสร้างอาคารเรียนใหม่ได้ในบริเวณตัวเมืองมีนบุรี เมื่ออาคารหลังใหม่สร้างแล้วเสร็จก็เปิดสอนในฐานะโรงเรียนประจำจังหวัดเศรษฐบุตรบำเพ็ญ (ในเวลาดังกล่าวเมืองมีนบุรีมีสถานะเป็นจังหวัดหนึ่ง) ใน พ.ศ.2489 เมื่อจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้นกระทรวงศึกษาธิการจึงได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนสตรีขึ้นที่โรงเรียนแห่งนี้ แล้วแยกนักเรียนชายไปยังโรงเรียนที่สร้างใหม่ ซึ่งก็คือโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญในปัจจุบัน ส่วนโรงเรียนเดิมนั้นใช้ชื่อว่าโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญประวัติพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดยคณะผู้บริหารโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ด้วยเงินบริจาคทั้งสิ้น 3,392,511.39 บาท เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติปีกาญจนาภิเษกถวายเป็นพระราชกุศลแดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาคารแห่งนี้ได้รับการออกแบบจากกรมศิลปากรมีลักษณะเป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้น อาคารเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2537 แล้วเสร็จและเปิดให้เข้าชมได้ใน พ.ศ.2539 (สัมภาษณ์ อ.ไพฑูรย์ธีร ชินศรี, แผ่นพับแนะนำโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ)
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์นอกจากเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแล้วยังต้องการให้พิพิธภัณฑ์เป็นแหล่งสืบค้นภูมิปัญญาท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ของเมืองมีนบุรี ให้กับนักเรียนและผู้สนใจ
วัตถุและเนื้อหาจัดแสดง
อาคารจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับนิทรรศการของนายเลิศ เศรษฐบุตร ประวัติความเป็นมาของเมืองมีนบุรี วิถีชีวิตไทยด้านต่างๆ (ไม่เฉพาะแต่เมืองมีนบุรี) วัตถุจัดแสดงในชั้นนี้ได้รับการบริจาคมาจากคหบดีในเมืองมีนบุรีเอง และการสะสมของทางโรงเรียนและความสนใจของอาจารย์ไพฑูรย์ธีร ส่วนชั้นสอง วัตถุจัดแสดงเกือบทั้งหมดได้รับบริจาคมาจากเจ้าอาวาสวัดลาดปลาเค้า และเจ้าอาวาสวัดบางชัน ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องเคลือบจากจีน เครื่องสังคโลก พระพุทธรูป เทวรูป และตุ๊กตาหุ่นเชิดจากพม่า ทั้งนี้เนื้อหาที่ผู้ดูแลต้องการนำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นห้องจัดแสดงในชั้นล่าง ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
ส่วนจัดแสดงประวัติของผู้ก่อตั้งโรงเรียน ในที่นี้คือพระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) มีรูปแบบแท่นแท่นจัดดแสดงเนื้อหาประวัติ และการทำงาน ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับทางเข้า
ประวัติความเป็นมาของท้องถิ่นมีนบุรี ผู้ดูแลให้ความหมายความเป็นมีนบุรีไว้ว่าเป็นเมืองปลา ชีวิตของชาวมีนบุรีผูกพันกับสายน้ำ โดยเฉพาะคลองแสนแสบ แต่ในส่วนของวิถีชีวิตกลับไม่ได้เน้นที่การเป็นสังคมเกษตรกรรม ชาวมีนบุรีส่วนใหญ่เป็นเจ้าของโรงสีข้าว ในขณะที่ชาวทุ่งบางกะปิคือลูกค้าหลัก หรือก็คือชาวนาที่มักจะเอาข้าวมาขายและมาสีที่เมืองมีนบุรี ดังนั้น วัตถุจัดแสดงในส่วนนี้จึงเป็นข้าวของเครื่องใช้มีราคาที่คหบดีชาวมีนบุรีมักจะมีไว้ครอบครอง อาทิ นาฬิกาตั้งพื้นขนาดใหญ่จากฝรั่งเศส ชุดโต๊ะรับแขกประดับมุก (บริจาคโดยเจ้าของตลาดมีนบุรี) โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกๆ และเครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณ เป็นต้น
ในด้านของการผูกพันกับคลองแสนแสบจะเห็นแทรกอยู่กับตู้จัดแสดง เช่น เครื่องของเรือหางยาวที่วิ่งขึ้น-ล่องอยู่ในคลองแสนแสบ และวิถีชีวิตในการอยู่กับน้ำผ่านเครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบต่างๆ (ลอบ, สุ่ม,อีจู๊ดักปลาไหล ฯลฯ) และที่สำคัญอีกประการคือการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไก่ชนที่มีชื่อเสียง จึงได้เห็นมุมหนึ่งของห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับไก่ชน เช่น สุ่มครอบไก่ กรงไก่ชนพร้อมมุ้งกันยุง ตะกร้าใส่ไก่ชนสำหรับหิ้วไปสนามแข่ง และหุ่นไก่ชน เป็นต้น
เรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
วัตถุจัดแสดงที่เล่าเรื่องส่วนนี้มีทั้งป้ายนิทรรศการเล่าประวัติของโรงเรียน เครื่องโรเนียวเอกสารที่ตามโรงเรียนมักจะมีไว้สำหรับโรเนียวข้อสอบและเอกสารแจก เครื่องอัดหนังสือ (ในห้องสมุด) ตู้ใส่ธงเกียรติยศ (เป็นธงสีเขียว-ขาว ในอดีตมีตรามัจฉานุอยู่ตรงกลาง ภายหลังเปลี่ยนเป็นตรารูปขนมกง ปัจจุบันธงไม่ได้จัดแสดงอยู่ในตู้แล้วแต่ยังมีตู้อยู่) โต๊ะไม้ของผู้บริหาร เป็นโต๊ะ 16 ลิ้นชัก สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ด้าน ทำจากไม้สัก (ผู้ดูแลค่อนข้างภูมิใจและนำเสนอโต๊ะตัวนี้เพราะเป็นโต๊ะตัวเดียวที่มีและเห็นว่าเป็นของหายาก)
เรื่องภูมิปัญญาและวิถีชีวิตไทย
เครื่องมือเครื่องใช้ที่สะท้อนความหมายในส่วนนี้คือเครื่องมือเกี่ยวกับการทำนา (สีฝัด, แอก, กระบุง, ถังตวงข้าว) เครื่องจักสานหลากหลายประเภท ทั้งที่เป็นของที่ใช้ในท้องถิ่นภาคกลาง และเครื่องจักสานจากภาคอื่นๆ เครื่องปั้นดินเผา (จากเกาะเกร็ด) เครื่องใช้ในครัวเรือนอื่นๆ เช่น ตาชั่งแบบต่างๆ เตารีดแบบใช้ถ่าน ตะเกียงลาน ตะเกียงเจ้าพายุ และตะเกียงฟู่น้ำมันก๊าด เป็นต้น
การบริหารจัดการ
การบริหารจัดการทั้งเรื่องงบประมาณและเนื้อหาในการจัดแสดงอยู่ในความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งหมด แต่ก็อาจจะเรียกได้ว่าทางพิพิธภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนทางอ้อมมาจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งในช่วงของการก่อสร้างที่ได้จากงบบริจาคของคณะผู้ปกครองและคหบดีในท้องถิ่น และการดูแลบางส่วนจากการเป็นที่ตั้งของหอสมุดประชาชน (บริหารงานโดยกรุงเทพมหานครที่มาขอใช้พื้นที่ภายในโรงเรียนติดกับพิพิธภัณฑ์)
ปัญหาของพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องไม่หนักหนา อาทิ การทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากอาคารมีขนาดใหญ่และจำนวนวัตถุมาก เรื่องของทะเบียนวัตถุที่ยังไม่ได้จัดทำอย่างเป็นระบบ และการนำชมที่ผู้ดูแลมีภาระในด้านการสอนและการบริหารโรงเรียน จึงไม่สามารถเปิดให้เข้าชมได้ตลอดเวลา ต้องให้ผู้สนใจติดต่อมาล่วงหน้า
การเดินทาง
เดินทางโดยรถยนต์ใช้ทางด่วนศรีรัช มุ่งหน้าไปทางออกสู่ถนนรามคำแหง/รามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งตรงไปจนพบทางออก ถ.รามอินทรา/หลักสี่-วัชรพล-มีนบุรี เมื่อลงทางจากพิเศษเข้าสู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะพบทางแยกต่างระดับเลือกช่องทางถนนวัชรพลซึ่งเป็นทางต่างระดับเพื่อเลี้ยวขวาไปมีนบุรี เมื่อลงจากทางแล้วเบี่ยงซ้ายเพื่อออกสู่ถนนรามอินทรา วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 9 กิโลเมตร จะพบรั้วโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญอยู่ทางด้านซ้ายมือ
พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ / เขียน
ข้อมูลจาก การสำรวจภาคสนามเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556
อ้างอิง
สัมภาษณ์ อาจารย์ไพฑูรย์ธีร ชินศรี ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารงานบุคคล โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง จัดการแสดงของพิพิธภัณฑ์ และรับผิดชอบดูแลหลักมากระทั่งถึงปัจจุบัน, วันที่ 10 กันยายน 2556
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
ประวัติศาสตร์และโบราณคดี เครื่องปั้นดินเผา
พิพิธภัณฑ์การพยาบาลไทย คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
จ. กรุงเทพมหานคร
แบทแคทมิวเซียม แอนด์ ทอยส์ไทยแลนด์
จ. กรุงเทพมหานคร
พิพิธภัณฑ์ศาลไทย
จ. กรุงเทพมหานคร