พิพิธภัณฑ์วัดบ้านด่าน


ชุมชนบ้านด่านเป็นชุมชนเก่าที่ตั้งอยู่ริมคลองหัวไทร เดิมเรียกว่า “บางด่าน” สันนิษฐานว่าวัดน่าจะสร้างในราวปี พ.ศ. 2437 วัดบ้านด่านเป็นวัดเก่าแก่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ห่างจากชายทะเลประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูสังฆรักษ์สมเกียรติ กิตฺติปัญโญ ท่านเป็นพระนักพัฒนา ภายในมีเสนาสนะเก่าแก่ที่ทางวัดอนุรักษ์ ได้แก่ หอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้หลังมุงด้วยกระเบื้องดินเผาทรงปั้นหยาและทรงจั่ว สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2470 สมัยพ่อท่านซ้วน อดีตเจ้าอาวาส กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติปี พ.ศ. 2562 ปัจจุบันอาคารหอไตรได้รับการบูรณะ และเจ้าอาวาสได้จัดทำเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์วัดบ้านด่าน โดยการจัดแสดงภายในอยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุสิ่งของ ยังไม่แล้วเสร็จ เรื่องราวและวัตถุสำคัญของวัดอาทิ ประวัติความเป็นมาของวัดและอดีตเจ้าอาวาสอันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในชุมชน ภาพถ่ายเก่าอดีตเจ้าอาวาสและภาพเก่าวัด คัมภีร์ใบลานเดิมที่อยู่ในหอไตร บาตรน้ำมนต์พระสมเด็จ เครื่องถ้วยกระเบื้องหลากหลายรูปแบบ ปิ่นโตทองเหลือง ถ้วยรางวัลการแข่งขันเรือเพรียว เป็นต้น ด้วยความที่วัดอยู่ติดริมน้ำ วัดบ้านด่านมีชื่อเสียงด้าน “เรือเพรียว” หรือเรือยาวสำหรับประเพณีแข่งเรือและใช้ในประเพณีลากพระในวัฒนธรรมภาคใต้ เรือเพรียววัดบ้านด่านมีสองคำ คือ เจ้าพายุหวน และเจ้าแม่แสงอุทัย หลังจากพ่อท่านซ้วนมรณภาพแล้วการแข่งขันเรือเพรียวได้หยุดไป ต่อมาในปีพ .ศ. 2553 เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ฟื้นฟูการแข่งขันเรือเพรียวขึ้นมาอีกครั้ง และใช้ศาลาเอนกประสงค์เป็นที่เก็บเรือเพรียว ทำเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับเรือเพรียวลุ่มน้ำปากพนังอีกด้วย

ที่อยู่:
66 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าซอม อำเภอหัวไทร จังหวัด นครศรีธรรมราช 80170
โทรศัพท์:
0862808066
วันและเวลาทำการ:
ทุกวัน กรุณาติดต่อล่วงหน้า
ค่าเข้าชม:
ไม่เสียค่าเข้าชม
ปีที่ก่อตั้ง:
2563
จัดการโดย:
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

ไม่มีข้อมูล

พิพิธภัณฑ์วัดบ้านด่าน

ชุมชนบ้านด่านเป็นชุมชนเก่าที่ตั้งอยู่ริมคลองหัวไทร เดิมเรียกว่า “บางด่าน”  ท่านอุปัชฌาย์ซ้วน องฆรตโน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “พ่อท่านซ้วน” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน  เคยเล่าไว้ว่า “วัดบ้านด่านเป็นวัดพวกเสนาของพระเจ้าศรีธรรมโศก  ท่านพระยาได้ส่งขุนนางมาตั้งด่านเก็บภาษีเรือสำเภา ตลอดถึงบ้านบางพูด บ้านสระนอก  พวกขุนนางเข้ามาทำหน้าที่รังวัด และเก็บภาษีด่านที่ย่านสามหลักนั้น  พวกพ่อค้าที่มาจากเมืองแขกได้แวะจอดทอดสมอเรียงรายอยู่ในย่านนี้ทั้งสองฝั่งคลองรวมแล้วเกือบ 10 วัด แต่เมื่อถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ทางบ้านเมืองมีการจัดระบบใหม่   ฝ่ายเมืองนครศรีธรรมราชเสื่อมอำนาจลง  พวกเมืองแขกทางใต้ไม่ค่อยไปมาหาสู่เหมือนแต่ก่อน เพราะตกไปเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ชุมชนวัดบ้านด่านจึงหมดหน้าที่ความเป็นด่าน เหลือร่องรอยคือวัดและชุมชน”  สันนิษฐานจากรายนามชื่อเจ้าอาวาสองค์แรกคือพระตาปอด (พ.ศ. 2437-2440) คาดว่าวัดน่าจะสร้างในราวปี พ.ศ. 2437 หรือก่อนหน้านั้น

วัดบ้านด่านเป็นวัดเก่าแก่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ห่างจากชายทะเลประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูสังฆรักษ์สมเกียรติ กิตฺติปัญโญ ท่านเป็นพระนักพัฒนา  ภายในมีเสนาสนะเก่าแก่ที่ทางวัดอนุรักษ์  ได้แก่ หอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้ หลังมุงด้วยกระเบื้องดินเผาทรงปั้นหยาและทรงจั่ว ยอดจั่วประดับด้วยอกไก่และมีเสาสาระไนหรือเสากระโดงลักษณะคล้ายลักษณะเจดีย์ที่มีปล้องไฉนยาว เป็นสถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่นผสมผสานอาคารเนื่องในพุทธศาสนา   สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2470 สมัยพ่อท่านซ้วน  กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติปี พ.ศ. 2562  ปัจจุบันอาคารหอไตรได้รับการบูรณะ   และเจ้าอาวาสได้จัดทำเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์วัดบ้านด่าน   นอกจากนี้ยังมีศาลาเอนกประสงค์รูปแบบสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นศาลาไม้ยกพื้นสูงเปิดโล่ง

พิพิธภัณฑ์วัดบ้านด่าน  ริเริ่มโดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูสังฆรักษ์สมเกียรติ กิตฺติปัญโญ  โดยหลังจากร่วมกับกรมศิลปากรบูรณะหอไตรในปี พ.ศ. 2563  แล้วเสร็จ ท่านจึงตั้งใจใช้อาคารเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้  จึงได้ปรับอาคารหอไตรกลางน้ำเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยการจัดแสดงภายในอยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุสิ่งของ  ยังไม่แล้วเสร็จ   

เรื่องราวและวัตถุสำคัญของวัดอาทิ  ประวัติความเป็นมาของวัดและอดีตเจ้าอาวาสอันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในชุมชน   ภาพถ่ายเก่าอดีตเจ้าอาวาสและภาพเก่าวัด  คัมภีร์ใบลานเดิมที่อยู่ในหอไตร   บาตรน้ำมนต์พระสมเด็จ   เป็นบาตรน้ำมนต์โบราณของวัดแต่ดั้งเดิม   รอบบาตรน้ำมนต์ประดับด้วยพระสมเด็จวัดระฆังเนื้อผง  เครื่องถ้วยกระเบื้องหลากหลายรูปแบบ เช่น เครื่องลายคราม  เครื่องเบญจรงค์  ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ยังไม่ได้จัดแบ่งเป็นหมวดหมู่   ปิ่นโตทองเหลือง  ถ้วยรางวัลการแข่งขันเรือเพรียว เป็นต้น

ด้วยความที่วัดอยู่ติดริมน้ำ  วัดบ้านด่านมีชื่อเสียงด้าน “เรือเพรียว”  หรือเรือยาวสำหรับประเพณีแข่งเรือและใช้ในประเพณีลากพระในวัฒนธรรมภาคใต้   ผู้ริเริ่มการแข่ขันเรือเพรียวของวัดบ้านด่านคือพ่อท่านซ้วน เรือเพรียววัดบ้านด่านมีสองคำ คือ เจ้าพายุหวน และเจ้าแม่แสงอุทัย  หลังจากพ่อท่านซ้วนมรณภาพแล้วการแข่งขันเรือเพรียวได้หยุดไป  ต่อมาในปีพ .ศ. 2553 เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ฟื้นฟูการแข่งขันเรือเพรียวขึ้นมาอีกครั้ง และใช้ศาลาเอนกประสงค์เป็นที่เก็บเรือเพรียว ทำเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับเรือเพรียวลุ่มน้ำปากพนังอีกด้วย

ที่มา :
ดำรงค์  หนูทอง.(2563). “ศูนย์เรียนรู้เรือเพียววัดบ้านด่าน”.สารนครศรีธรรมราช” 50(7), 23-28.

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำข้อมูลพิพิธภัณฑ์ภาคใต้ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคใต้ สนับสนุนโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน) 2564.

ชื่อผู้แต่ง:
ปณิตา สระวาสี