ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 13,12 (ต.ค. 2535)
ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 13 มีนาคม 2555
ชื่อผู้แต่ง: คมกฤช ราชเวียง | ปีที่พิมพ์: 09-05-2549(หน้า 2)
ที่มา: ข่าวสด
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 13 มีนาคม 2555
ชื่อผู้แต่ง: | ปีที่พิมพ์: 16-06-2540
ที่มา: ข่าวสด
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 13 มีนาคม 2555
ชื่อผู้แต่ง: พสุธิดา ยอดแก้ว | ปีที่พิมพ์: 16-06-2540
ที่มา: มติชนรายวัน
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 13 มีนาคม 2555
ชื่อผู้แต่ง: พัฐอร พิจารณ์โสภณ | ปีที่พิมพ์: 30 มีนาคม 2556
ที่มา: คมชัดลึก
แหล่งค้นคว้า:
โดย: ศมส.
วันที่: 01 เมษายน 2556
ชื่อผู้แต่ง: วรรณา ชัยภูธร | ปีที่พิมพ์: 16 มกราคม 2555;16-01-2012
ที่มา: ผู้จัดการ
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 06 ธันวาคม 2556
ชื่อผู้แต่ง: วีระ โพธาภิวัฒน์ | ปีที่พิมพ์: 29 มี.ค. 2556;29-03-2013
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
แหล่งค้นคว้า: ศมส.
โดย: ศมส.
วันที่: 14 กันยายน 2558
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
แต่เดิมนั้นพระตำหนักสวนจิตรลดา ผ่านการใช้งานในวาระต่างๆ อาทิ เป็นอาคารรับรองพระราชอาคันตุกะและจัดพระราชพิธีสำคัญๆ สืบมาจนถึงรัชกาลที่ 7 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ใช้เป็นสถานที่ทำการและที่พักของกลุ่มคณะราษฎร์ จากนั้นหน่วยงานราชการได้เข้ามาใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเมื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจจึงได้รับการบูรณะกลับมางดงามดังเดิม อาคารพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ Stile Liberty หรืออาร์ตนูโวแบบอิตาเลียน ความโดดเด่นคือการประดับลวดลายปูนปั้นทั้งที่กรอบหน้าต่างและใต้ชายคา ออกแบบโดยนายมาริโอ ตามานโญ ก่อสร้างปี พ.ศ.2446 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2448
ด้วยความงดงามและความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม นิทรรศการภายในจึงเป็นส่วนเสริม โดยในชั้นล่าง จะมีแบบจำลองพื้นที่ภายในทั้งหมดของวังปารุสกวัน แผนที่และผังบริเวณเดิมของปารุสกวัน ประวัติของผู้เป็นเจ้าของคือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ มีส่วนที่เป็นนิทรรศการหมุนเวียนในขณะนั้น คือนิทรรศการการสร้างชาติในสมัยรัชกาลที่ 6 ส่วนชั้นที่สองมีนิทรรศการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อตำรวจตระเวณชายแดน เช่น การเสด็จไปเยี่ยมตำรวจตระเวนชายแดน การเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดค่ายนเรศวร ซึ่งเป็นค่ายฝึกตำรวจพลร่ม ที่หัวหิน เมื่อปีพ.ศ. 2497 มีห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่จัดแสดงแท่นติดตั้งปืนกลอากาศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวพระราชดำริให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ประดิษฐ์แท่นสำหรับติดตั้งปืนกลอากาศกับเฮลิคอปเตอร์ และพระราชทานให้แก่หน่วยตำรวจตระเวนชายแดนไว้ใช้ การจัดแสดงลักษณะนี้ทำให้ผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับกรณีการวิพากษ์อย่างกว้างขวาง ของการจัดแสดงเครื่องบินอีโนลาเกย์(Enola Gay) ที่เคยใช้ทิ้งระเบิดเมืองฮิโรชิมา ในสงครามโลกครั้งที่สอง ของสถาบันสมิธโซเนียน
ส่วนจัดแสดงจดหมายเหตุ มีเอกสารของกรมตำรวจจัดแสดงอยู่ไม่มาก ส่วนใหญ่ที่จัดแสดงเป็นหนังสือราชการต่างๆ อาทิ คำสั่งอธิบดีกรมตำรวจเรื่องการปกครองท้องถิ่นแผนใหม่และแผนกิจการภายในสถานีตำรวจนครบาล หนังสือราชการการขอกำลังตำรวจรักษาเหตุการณ์ของหน่วยงานอื่นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ดีทางหน่วยงานของพิพิธภัณฑ์กำลังรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อขยายงานด้านจดหมายเหตุ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจของพิพิธภัณฑ์ตำรวจที่อยู่ในระยะเริ่มแรก
อาคารหลังที่สองเป็นอาคารใหม่ที่สร้างภายในพื้นที่เขตวังปารุสกวัน ซึ่งเดิมเป็นที่ทำการของกองบัญชาการตรวจนครบาลและกองตำรวจสื่อสาร เนื่องจากอาคารของกองตำรวจสื่อสารมีสภาพทรุดโทรมมาก จึงให้รื้อออกและสร้างเป็นอาคารกระจกรูปแบบทันสมัย เพื่อใช้จัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีพื้นที่จัดแสดงบริเวณชั้น 1 และ 2
ส่วนแรกเป็นห้องชมวีดิทัศน์ นำเสนอประวัติและพัฒนาการของพื้นที่วังปารุสกวัน เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ จากนั้นแบ่งโซนการจัดแสดง 6 โซน โดยโซนแรก “จากอดีตถึงปัจจุบันของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นำเสนอประวัติความเป็นมาของตำรวจในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในยุคสมัยต่างๆ พร้อมกับจัดแสดงวัตถุประกอบ อาทิ เครื่องแต่งกายตำรวจในยุคสมัยต่างๆ เครื่องประดับยศ หมวก ตราหน้าหมวกตำรวจ นกหวีดตำรวจ แหวนอัศวิน ค้อนตอกหมุดธงชัยเฉลิมพล รถฮาร์เลย์เดวิดสัน ที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาท หุ่นจำลองพิธีถวายสัตปฏิญาณตนและสวนสนามของตำรวจ นอกจากนี้นำเสนอการเรียนการสอนของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งผู้ชมสามารถชมวิดีโอเพื่อให้เห็นบรรยาศจริงของการฝึก
โซนที่สอง นำเสนอให้เห็นว่าตำรวจคอยดูแลทุกข์สุขประชาชนตลอด 24 ชม. โดยแสดงถึงภารกิจอันหลากหลายของตำรวจในบทบาทหน้าที่ต่างๆ อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว หน่วยอรินธราช ตำรวจจราจร ตำรวจม้า ตำรวจตระเวณชายแดน
โซนที่สาม เป็นการสดุดีและเชิดชูวีรกรรมของตำรวจไทย โดยผนังทางเดินทั้งสองด้าน เต็มไปด้วยภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญๆ และภาพถ่ายนายตำรวจที่สละชีพเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ เช่น หมวดตี้ วีรบุรุษพลร่มบนสมรภูมิใต้
โซนที่สี่ จำลองบรรยากาศของการกระทำผิดและมีจุดรับแจ้งเหตุ พยายามให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับการจัดแสดง โดยจำลองการแจ้งเหตุร้ายให้ผู้ชมสามารถยกหูโทรศัพท์เพื่อเรียนรูลักษณะการการรับแจ้งเหตุ ตวมถึงคำถามของตำรวจเมื่อประชาชนแจ้งเบาะแส ถือเป็นการสร้างให้ผู้ชมตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย
โซนที่ห้า เรียกว่าสน.ราชดำเนิน นำเสนอการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวน เพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ แสดงให้เห็นส่วนงานต่างๆ ภายในสถานีตำรวจ และจัดแสดงข้าวของต่างๆ ที่ยึดได้จากการกระทำความผิด อาทิ ไพ่ เตาหลอมโลหะทำสตางค์ปลอม แผ่นหน้ากากสำหรับใช้โจรกรรม บล็อกพิมพ์ทำธนบัตรปลอม สนับมือ มีดพกปลายแหลม ปืนคาร์ไบน์ที่ยึดได้จากโจรปล้นตลาดท่าเรือเมื่อปี พ.ศ. 2508 เป็นต้น
โซนที่หก เป็นสถานีทดสอบสำหรับผู้เยี่ยมชม มีมุมเล่นเกมทดสอบทักษะความรู้และการจดจำรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเพื่อที่จะแจ้งตำรวจได้ถูกต้อง
อย่างไรก็ดีจริงๆ แล้วพิพิธภัณฑ์ตำรวจก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 เมื่อกระทรวงมหาดไทยจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ตำรวจเป็นครั้งแรกโดยขึ้นกับกรมตำรวจภูบาล มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมวัตถุของกลางทุกชนิด เพื่อให้ตำรวจใช้ในการศึกษาค้นคว้า ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชม แต่มาเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมจริงๆ เมื่อราวปี พ.ศ. 2496 ในสมัย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นอธิบดีตำรวจ โดยย้ายที่ทำการไปรวมกับกองทะเบียนรถยนต์ใกล้กับสนามมวยราชดำเนิน และ ราวปี พ.ศ. 2499 ได้ย้ายที่ทำการไปที่กรมตำรวจ ปทุมวัน มีการปรับปรุงลักษณะงานพิพิธภัณฑ์ให้ก้าวหน้าขึ้น มีการจัดแสดงงานอาชญากรรมที่บริเวณกรมตำรวจ ปทุมวัน จัดประกวดภาพถ่ายเกี่ยวกับคดีอาชญากรรม เป็นต้น จนปี พ.ศ. 2533 พิพิธภัณฑ์ตำรวจได้ย้ายจากอาคาร 18 กรมตำรวจ ปทุมวัน ไปอยู่ที่วังปารุสกวัน โดยขึ้นกับสำนักงานสารนิเทศ กรมตำรวจ
ความก้าวหน้าของพิพิธภัณฑ์ตำรวจ ขึ้นลงตามความสนใจและยุคสมัยของผู้บังคับบัญชา จนปี พ.ศ. 2550 พิพิธภัณฑ์ได้รับอนุมัติงบประมาณให้ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติหลังใหญ่ และปรับปรุงซ่อมแซมตำหนักจิตรลดา และงานภูมิทัศน์ภายในพื้นที่เขตวังปารุสกวัน
การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ตำรวจนอกเหนือการได้รู้จักบทบาทผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของตำรวจแล้ว ยังเห็นอีกบทบาทของตำรวจที่ไม่ใช่หน้าที่จับโจรผู้ร้าย แต่เป็นหน้าที่การอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม ส่งต่อประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของตำรวจให้ประชาชนได้ระลึกถึงและจดจำคุณงามความดี ท่ามกลางเรื่องราวด้านลบของตำรวจที่ปรากฎในหน้าข่าวอยู่เนืองๆ
ปณิตา สระวาสี /เขียน
ข้อมูลจาก:
การสำรวจภาคสนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558
พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ตำรวจ,มปป.
รีวิวของพิพิธภัณฑ์ตำรวจ
วังปารุสกวัน ประกอบด้วยอาคารสำคัญ 2 หลัง ได้แก่ พระตำหนักสวนปารุสกวัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก เดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น ต่อมาต่อเติมเป็นอาคาร 3 ชั้น การใช้สอยแต่เดิมชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่ ใช้เป็นท้องพระโรง มีห้องรับแขก ห้องเสวย และห้องชุดสำหรับรับรองแขก มีเฉลียงใหญ่สำหรับเป็นที่ประทับพักผ่อน ชั้น 2 และ 3 เป็นที่ประทับพระตำหนักสวนปารุสกวัน เป็นพระตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ในวโรกาสที่ทรงสำเร็จวิชาการทหารจากประเทศรัสเซียและเสด็จนิวัติประเทศไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามแก่พระตำหนักใหม่นี้ว่า "พระตำหนักสวนปารุสกวัน" (แปลว่า "สวนมะปราง") และจัดการพิธีขึ้นพระตำหนักใหม่ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2449
พระตำหนักอีกหลังหนึ่งคือ พระตำหนักสวนจิตรลดา เดิมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ ต่อมาทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ เพื่อแลกเปลี่ยนกันที่ดินบริเวณท่าวาสุกรี พระตำหนักนี้เป็นอาคาร 2 ชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรม Stile liberty หรืออาร์ตนูโวแบบอิตาลี ผนังด้านนอกประดับลวดลายปูนปั้นอย่างงดงาม หลังคาทรงปั้นหยาหลายระนาบมุงกระเบื้องว่าว กันสาดหน้าต่างเป็นรูปโค้ง หน้าต่างตอนบนเป็นช่องแสงไม้ฉลุลายทุกบาน พระตำหนักนี้นอกจากการตกแต่งที่ละเอียดประณีตแล้ว ยังมีลักษณะเด่นคือมีมุขสำหรับเทียบรถยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เริ่มมีใช้ กันในยุคนั้น ส่วนการใช้สอยดั้งเดิมนั้น ชั้นล่างเป็นท้องพระโรง ชั้นบนเป็นที่ประทับ
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ได้ประทับ ณ วังปารุสกวันจนตลอดพระชนมายุ ต่อมา เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ทางการได้เวนคืนวังปารุสกวันเพื่อเป็นที่ทำการของทางราชการ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพระตำหนักสวนปารุสกวันใช้ เป็นที่ทำการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และพระตำหนักสวนจิตรลดาใช้เป็นพิพิธภัณฑ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข้อมูลจาก : สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์. 174 มรดกสถาปัตยกรรมในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พลับบลิชชิ่งจำกัด (มหาชน), 2547.
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
พาทัวร์ "พิพิธภัณฑ์ตำรวจ" บันทึกประวัติศาสตร์ตำรวจไทย
นับเป็นพระกรุณาธิคุณในการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด "พิพิธภัณฑ์ตำรวจ" วังปารุสกวัน เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กราบบังคมทูลรายงาน และผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมพิธี พิพิธภัณฑ์ตำรวจแห่งนี้ บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ตำรวจไทย อันควรค่าแก่การศึกษา หลังพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เหยี่ยวข่าว "มติชน" ขันอาสาเป็นแถวหน้าพาชมย้อนตำนานผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เที่ยวชม"พิพิธภัณฑ์ตำรวจไทย"
พิพิธภัณฑ์ตำรวจไทย บริเวณวังปารุสกวัน ที่ตั้งอยู่ถนนราชดำเนินนอก ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถือเป็นจุดศูนย์รวมของประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการตำรวจไทยตั้งแต่สมัยการก่อตั้งกรมตำรวจในอดีต จนถึงปัจจุบัน โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวตั้งอยู่ภายในบริเวณวังปารุสกวัน ถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตั้งอยู่ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบันมีประวัติศาสตร์ความเป็นมา พิพิธภัณฑ์ตำรวจไทย เริ่มมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5'พิพิธภัณฑ์ตำรวจ'รากเหง้าตร.ไทย
"พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน" แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ตำรวจไทย !! เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมเสด็จฯ ทอดพระเนตรสิ่งของจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. และพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามเสด็จแนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
วังปารุสกวัน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตำรวจ
พิพิธภัณฑ์และห้องสมุด บ้านจิรายุ-พูนทรัพย์
จ. กรุงเทพมหานคร
พิพิธภัณฑ์กรมที่ดิน
จ. กรุงเทพมหานคร
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งชาติ ท้องฟ้าจำลอง
จ. กรุงเทพมหานคร