หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งอยู่ที่วิทยาเขตวังท่าพระ ประกอบด้วยท้องพระโรงและพระตำหนักกลาง ปัจจุบันอาคารท้องพระโรง พระตำหนักกลาง ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีในฐานะอาคารประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2521 ท้องพระโรงและพระตำหนักกลาง ได้ปรับการใช้สอยเป็นหอศิลป์ เพื่อการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะร่วมสมัย ซึ่งได้จัดแสดงงานศิลปกรรมสำคัญ ๆ อย่างต่อเนื่อง
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยทีมงานและสมาชิก
รีวิวของหอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร
หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งอยู่ที่วิทยาเขตวังท่าพระเป็นสถาบันเพื่อการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะร่วมสมัยก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2522 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดหอศิลป์วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2522 โดยใช้กลุ่มอาคารอนุรักษ์ในบริเวณวังท่าพระเป็นสถานที่ทำการ วังท่าพระมีการซ่อมแซม ในปี พ.ศ. 2529 และในปีพ.ศ.2532 ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นจากสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร ประกอบด้วยท้องพระโรงและพระตำหนักกลาง เดิมเป็นส่วนหนึ่งของวังท่าพระ หรือวังท่าช้าง มีชื่อเดิมว่าวังถนนหน้าพระลานหรือวังตะวันตก สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิตหรือเจ้าฟ้าเหม็น พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและเจ้าครอกฉิม พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) เสด็จมาประทับเมื่อ พ.ศ.2352 พระองค์ได้ ทรงบัญชางานที่สำคัญ ณ วังท่าพระ โดยใช้อาคารท้องพระโรงเป็นที่ทรงงานด้วย หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2367 วังท่าพระก็ได้เป็นที่ประทับของเจ้านายพระองค์อื่นต่อมา ได้แก่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าลักขณานุคุณ และกรมขุนราชสีหวิกรม (พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าชุมสาย) ผู้กำกับช่างสิบหมู่
ในรัชกาลที่ 5 วังท่าพระเป็นที่ประทับของกรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติ และเจ้านายพระองค์สุดท้ายที่ประทับที่วังนี้คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ในยุคนี้มีการก่อสร้างพระตำหนักกลาง เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค สันนิษฐานว่าออกแบบโดยนายโยคิม แกรซี สถาปนิกชาวอิตาลี ต่อเนื่องกับพระตำหนักทิศตะวันตก หรือตำหนักพรรณราย
วังท่าพระในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปากร อาคารสำคัญทั้ง 3 หลัง ได้แก่ อาคารท้องพระโรง พระตำหนักกลาง และพระตำหนักพรรณรายนั้น ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีในฐานะอาคารประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2521 ท้องพระโรงและพระตำหนักกลาง ได้ปรับการใช้สอยเป็นหอศิลป์ ซึ่งได้จัดแสดงงานศิลปกรรมสำคัญๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ข้อมูลจาก :
http://www.art-centre.su.ac.th/main_th.htm [accessed 21-04-2006]
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์. 174 มรดกสถาปัตยกรรมในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พลับบลิชชิ่งจำกัด (มหาชน), 2547.
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสื่อออนไลน์
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยบล็อก
แนะนำพิพิธภัณฑ์โดยสารานุกรมไทย
จิตรกรรม ศิลปะและการแสดง วังท่าพระ
พิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ
จ. กรุงเทพมหานคร
พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
จ. กรุงเทพมหานคร
พิพิธภัณฑ์เรือไทย โรงเรียนมีนประสาทวิทยา
จ. กรุงเทพมหานคร