ข่าวสารพิพิธภัณฑ์

เชิญร่วมงาน พื้นที่นี้ดีจัง บางนรา "ยิ้ม"

เชิญร่วมงาน พื้นที่นี้ดีจัง บางนรา "ยิ้ม" วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2555 เวลา 16.00 น. ณ ลานริมเขื่อน ถนนคนเดิน อ.เมือง จ.นราธิวาส ...... ร่วมชมการแสดง ดิเกร์ฮูลูรวมพลเยาวชนกว่า 80 ชีวิต มโนราห์เด็กรุ่นจิ๋ว เปิดตัวหนังสือ ตามรอย "บ้านพระราชา" ฟังดนตรีจากเจ๊ะเด สานิ ปราชญ์ชาวบ้านแห่งกะพ้อ การแสดงจากเครือข่ายพื้นที่นี้ดีจัง หนุ่ม สิมิรัน และ โฮป แฟมิลี่ ...... ปันยิ้ม กับลานกิจกรรม ทำเข็มกลัดกะลา ,เข็มกลัดอันเดียวในโลก ,ซุ้มเกลือสีดูแลโลก ทำไม้พายเรือกอและ ,ทำสมุนไพรใช้เอง ,ของเล่นพื้นบ้าน ทำของใช้จากใบลานและกระจูด  ชิมชาชักฝีมือตัวเอง ทำหน้ากาก และร่วมจัดรายการวิทยุเด็ก .... ชวนกันมา "ตะลอน ยิ้ม" ลงเรือกอและ ชมสองฟากฝั่งแม่น้ำบางนรา ฟังเรื่องราวจากชาว ประมงพื้นบ้าน และเรื่องราวของปลาหายากที่วันนี้กลับมาสู่ท้องทะเล ... เพลินชม นิทรรศการภาพถ่าย บางนรา "ยิ้ม"  ภาพวิถีชีวิต ทัศนียภาพ ความอบอุ่นและเรื่องราวต่างๆนานา จากช่างภาพที่มาเยือนบางนราและช่างภาพในพื้นที่ ... พื้นที่นี้ดีจัง พื้นที่แห่งการแบ่งปัน 1 ชุมชน 1 พื้นที่สร้างสรรค์ สร้างรอยยิ้มกันฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

เจาะลึกรูปแบบการบริหารพิพิธภัณฑ์

พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ไทยในนครลอสแอนเจลิส  สะท้อนภาพชัดเจนถึงกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมกับงาน นิทรรศการแสดงผลงานจิตรกรรมของ 11 ศิลปินไทย ปี 2555 หรือ Thai Contemporary Artist Award 2012 ซึ่งจัดขึ้น ณ สถานกงสุลไทย นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-15 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาร่วมชื่นชมอย่างคับคั่ง นิทรรศการครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ถ่ายทอดงานศิลป์กับศิลปินแห่งชาติ ของ หออัครศิลปิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ที่เฟ้นหาศิลปินผู้มีความสามารถทางด้านทัศนศิลป์ 11 คน จากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นจำนวน 90 คน เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทางด้านศาสตร์และศิลป์ จากศิลปินแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิสาขาทัศนศิลป์ ทั้งเทคนิค วิธีการ ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ ในการผลิตผลงานให้ปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นคณะศิลปินแห่งชาติ ได้ทำการ เจียระไนและคัดศิลปินผู้มีความสามารถเหลือเพียง 11 คน เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยนำผลงานไปจัดแสดงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศิลปินทั้ง 11 คนที่ได้รับการคัดเลือกนี้ ยังได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐใกล้เคียงในแถบภูมิภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา  รวมถึงได้พบปะกับศิลปินระดับนานาชาติ ได้เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านศิลปะ ตลอดจนการรับฟังข้อมูลในการบริหารจัดการงานพิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลและเอกชน โดยมี นายกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ และประธานสภาศิลปกรรมไทยแห่งสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วย นายวิโชค มุกดามณี  เมธีวิจัยอาวุโส สาขาทัศนศิลป์  เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตลอดการเดินทาง ขณะที่ นายกมล กล่าวว่า “ประเทศไทยยังขาดการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งสร้างคนมาเรียนรู้ เรื่องการบริหารจัดการ ทำหน้าที่ภัณฑารักษ์ดูแลพิพิธ-ภัณฑ์และหอศิลป์ให้เป็นแบบสากล โดยผู้ทำหน้าที่นี้จะต้องมีความรอบรู้เรื่องงานศิลปะรอบด้าน ทั้งเรื่องการจัดวาง วิเคราะห์แสง สี และเทคนิคการนำเสนอ การตรวจสอบภาพผลงาน การวัดอุณหภูมิห้องจัดแสดง แสดงให้เห็นว่า เป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงเอกลักษณ์ของงานศิลป์ได้อย่างลึกซึ้ง” ทีมข่าววัฒนธรรม  เชื่อมั่นว่า  การเดินทางศึกษาดูงานของต่างประเทศเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานด้านศิลปะซึ่งสามารถหลอมรวมคนทุกชาติ ทุกภาษาไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการได้ไปเปิดโลกทัศน์ของศิลปินทั้ง 11 คน คือการนำความรู้ และประสบการณ์ ที่ไปร่วมกันเก็บเกี่ยวมาถอดเป็นบทเรียนเพื่อนำไปต่อยอดประยุกต์ ให้เข้ากับสิ่งที่มีอยู่ในประเทศ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะต่างๆ รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ในวิถีการสร้างสรรค์งานศิลปะ ซึ่งล้วนก่อประโยชน์ต่อตัวศิลปินทั้งสิ้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การทำให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะรัฐบาลตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของงานศิลปะของชาติ ซึ่งต้องการทั้งความจริงจัง จริงใจ และเม็ดเงินในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตลอดจนอนุรักษ์ผลงานของศิลปินในอดีตให้คงอยู่ เพราะนั่นคือคำตอบสุดท้ายของการต่อลมหายใจให้งานศิลปะ “อยู่อย่างยั่งยืน.” (ไทยรัฐ วันที่ 19 มิถุนายน 2555)

ความคืบหน้า ยุบ-ไม่ยุบ โรงเรียนขนาดเล็ก

จากการที่ตัวแทนสภาการศึกษาทางเลือกพร้อมด้วยเครือข่ายโรงเรียนชุมชนทั่วประเทศได้ยื่นจดหมายคัดค้านการยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กและแผนการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กโดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ต่อนายวรวัจน์  เอื้ออภิญญกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่15 สิงหาคม พ.ศ.2554 แล้ว  หลังจากนั้นทาง ดร ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ก็ได้แถลงผ่านสื่อมวลชนว่าจะไม่ยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กโดยจะร่วมมือกับสภาการศึกษาทางเลือกจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กโดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเพื่อตอบโจทก์เรื่องคุณภาพของโรงเรียนขนาดเล็ก   จากนั้นจึงได้มีกระบวนการเสนอรายชื่อคณะกรรมการจากสภาการศึกษาทางเลือก ตัวแทนเครือข่ายโรงเรียนชุมชน และผู้ทรงคุณวุฒิไปยัง กพฐ. และทาง กพฐได้ออกจดหมายเชิญประชุมเตรียมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กฯ  แต่ก็มีอันต้องเลื่อนไปเพราะสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ ทางกระทรวงศึกษาธิการจำเป็นต้องไปดูแลโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมก่อน ในระหว่างนั้นเองได้มีการปรับคณะรัฐมนตรี  และแต่งตั้ง ศ ดร.สุชาติ  ธาดาธำรงเวช มาเป็นรมต.ศึกษาธิการคนใหม่  ท่านเข้ามาก็ประกาศนโยบายทันทีว่าโรงเรียนในประเทศมีทั้งหมดประมาณ 30,000 กว่าโรง นั้นมากเกินไป บริหารจัดการลำบากทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณ ควรจะมีการยุบ ควบรวมให้เหลือเพียง 20,000 โรงก็พอ  ทางสภาการศึกษาทางเลือกก็ทำจดหมายคัดค้านพร้อมทั้งเสนอแผนการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กโดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ต่อรัฐมนตรีคนใหม่และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ) อีกรอบไปเรียบร้อยแล้ว  ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานงานเพื่อเข้าพบและพูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ) เพื่อติดตามแนวทางการดำเนินนโยบายการยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่แน่ชัด  และปรึกษาหารือความร่วมมือในการทำโครงการพัฒนาคุณภาพขนาดเล็กโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร  คาดว่าจะได้พบปะกันในเร็วๆ นี้  ซึ่งทางสภาการศึกษาทางเลือกก็มีความกังวลใจเพราะขณะนี้ทราบข่าวว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตัว รมต.ศึกษาธิการใหม่อีกแล้ว ซึ่งอาจจะมีนโยบายใหม่ๆออกมาอีก เรื่อง:ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ   [ความคืบหน้าการยุบหรือไม่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ต่อเนื่องจากบทความ "โรงเรียนขนาดเล็ก: โรงเรียนชุมชน" ในจุลสารก้าวไปด้วยกันปี 8 ฉบับ1]

”เรือนศิลปิน”ยกระดับพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดนตรีแห่งแรกในประเทศไทย

   บนพื้นที่ประมาณ 19,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 4.5 ไร่ เป็นอาคาร 7 ชั้น อยู่ในผืนน้ำทางทิศเหนือของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นน้ำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ และแสดงภูมิทัศน์ที่สวยงามเพื่อให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยมหิดล    พิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์น้องใหม่ของมหาวิทยาลัยมหิดล มีหลายท่านยังไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้มากนัก แต่เชื่อได้ว่าถ้าคุณได้มาเยือนเรือนศิลปิน จะทำให้คุณหลงรักสถานที่นี้ ถึงแม้ว่าตัวพิพิธภัณฑ์ยังไม่แล้วเสร็จก็ตาม ทางวิทยาลัยดุริยางค์ศิลป์ได้เปิดตัวเรือนศิลปินให้เป็นที่รู้จักก่อนตัวพิพิธภัณฑ์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป้าหมายของพิพิธภัณฑ์ดนตรี เพื่อสร้างให้เป็นประวัติศาสตร์ของชนชาติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี เป็นเรื่องราวในอดีตที่จะสร้างภูมิปัญญาให้กับคนปัจจุบัน และเป็นพลังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับอนาคตพิพิธภัณฑ์ดนตรีเป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง (ดนตรี) เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเครื่องดนตรี บทบาทของดนตรีที่เกี่ยวข้องกับสังคม รวบรวมเสียงของเครื่องดนตรี ทั้งดนตรีไทย ดนตรีพื้นบ้าน และดนตรีในภูมิภาคอุษาคเนย์                รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า วิทยาลัยมีแผนจัดสร้างอาคารมิวเซียมดนตรีอุษาคเนย์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอุษาคเนย์อย่างมีรสนิยม การจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ดนตรีจะถือเป็นเครื่องหมายบอกความเจริญของสังคมเป็นการนำอดีตมารับใช้ปัจจุบันและมองเห็นอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์ดนตรีทั้งยังแสดงศักยภาพของประเทศในฐานะศูนย์กลางความเจริญด้านดนตรีแห่งภูมิภาคอุษาคเนย์                "การจัดตั้งมิวเซียมดนตรีอุษาคเนย์นั้นจะมีความแตกต่างกับมิวเซียมอื่นๆในประเทศไทย ตรงที่ว่าเป็นมิวเซียมที่มีชีวิต ไม่ตาย ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ จะไม่ตั้งโชว์เครื่องดนตรีแล้วติดเพียงป้ายชื่อให้คนได้รู้จักเท่านั้น แต่จะแสดงให้เห็นว่าเครื่องดนตรีชนิดนี้เล่นอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร มิวเซียมดนตรีนี้จะเป็นแหล่งรวบรวมเสียงทุกชนิดในภูมิภาคอุษาคเนย์ ด้วยความคิดที่ว่า เราพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ แต่เราไม่เคยภูมิใจในความเป็นเรา เราไม่เคยเรียนรู้ในความเป็นเรา ขนาดมหาวิทยาลัยในอเมริกา ยังมีปริญญาเอกภาษาไทย แล้วเราต้องไปเรียนที่นั่นหรือ? ทำไมเราไม่เรียนที่ประเทศไทย ให้เค้ามาศึกษาในประเทศไทย วัฒนธรรมของภูมิภาคเราเค้าต้องมาศึกษาในประเทศเรา"   พิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ หรือ มิวสิคมิวเซียม มีลักษณะเป็นแบบ Living Museum คือ มีลักษณะเป็นพิธีกรรมทางดนตรีของชุมชน เผ่าพันธุ์ วงดนตรี ในฤดูกาลต่าง ๆ ของ southeast asia เช่น ในฤดูกาลนี้เราจะแนะนำดนตรีลาว ก็เชิญผู้เชี่ยวชาญมาสอนดนตรีลาว เชิญนักดนตรีลาวมาสาธิตเกี่ยวกับดนตรีลาว นอกจากนี้เราทำเป็นวิชาการหน่วยกิตละ3 หน่วยกิต โดยให้นักเรียนดนตรีทั่วโลก มาเรียน 10 วัน หน่วยกิตละ 500 ยูโร 100 คน เราได้ 150,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทย7-8 ล้านบาท เราจ่ายเงินให้กับผู้เชี่ยวชาญประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อให้มิวสิคมิวเซียมมีสีสันและมีชีวิตชีวา เช่นวันนี้มีการแสดงดนตรีของชนเผ่าม้ง วันต่อไปมีการแสดงดนตรีของชวา บาหลี ดนตรีพื้นบ้านของเขมร หรือดนตรีพม่า สร้างความตื่นเต้นได้ตลอด ผู้ฟังมีความสุขกลับบ้าน ประเด็น คือทำสิ่งที่เป็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมดนตรีให้เป็นความรู้ โดยให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นศูนย์กลาง                พื้นที่พิพิธภัณฑ์ดนตรี ประกอบไปด้วยหมู่เรือนกลางน้ำ ห้องพักคอย ห้องสมุดดนตรี ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องซ่อมเครื่องดนตรี (เก่า) ห้องสาธิตดนตรี ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องพิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงเครื่องดนตรี ห้องแสดงดนตรี เวทีแสดงดนตรีในพิพิธภัณฑ์ เวทีแสดงดนตรีหน้าพิพิธภัณฑ์ ห้องขายของที่ระลึก ห้องอาหาร และเรือนรับรองแขกกลางน้ำโดยภายอาคารพิพิธภัณฑ์ดนตรีจะมีทั้งหมด 7 ชั้น [คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม] (ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 12 มิถุนายน 2555)

เรือรบยักษ์ “ยูเอสเอส ไอโอวา” เดินทางเที่ยวสุดท้ายก่อนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์

เรือประจัญบาน ยูเอสเอส ไอโอวา ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยร่วมรบทั้งในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเย็น ออกเดินทางเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน สู่ท่าเรือนครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งเรือรบประวัติศาสตร์ลำนี้จะถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เรือในเดือนหน้า             ประชาชนหลายร้อยคน รวมถึง อันโตนิโอ วิลลาไรโกซา นายกเทศมนตรีนครลอสแองเจลิส และอดีตทหารเรือที่เคยประจำการบนเรือรบขนาดความสูง 53 เมตร ยาว 270 เมตรลำนี้ ก่อนที่มันจะปลดประจำการลงครั้งแรกเมื่อปี 1959 ต่างมารอต้อนรับ ยูเอสเอส ไอโอวา สู่บ้านพักถาวรของมัน              ยูเอสเอส ไอโอวา เป็นเรือรบขนาดยักษ์ปรเภท "เรือประจัญบาน" (battleship) เข้าประจำการในกองทัพเรือเมื่อปี 1943 และเคยพาประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปพบกับนายกรัฐมนตรี วินสตัน เชอร์ชิล แห่งอังกฤษ และอดีตผู้นำสหภาพโซเวียต โจเซฟ สตาลิน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว        เรือรบลำนี้ยังเคยพ่นกระสุนจากปืนขนาด 16 นิ้วของมัน ถล่มชายหาดแปซิฟิก ก่อนที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะยกพลขึ้นบก และอยู่ร่วมเหตุการณ์ขณะที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกที่อ่าวโตเกียว เมื่อปี 1945        ยูเอสเอส ไอโอวา ยังมีบทบาทสำคัญในสงครามเกาหลี เมื่อทศวรรษที่ 1950             หลังปลดประจำการครั้งแรกเมื่อปี 1959 เรือรบลำนี้ถูกนำออกใช้งานอีกครั้งในปี 1984 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามเย็นใกล้จะสิ้นสุดลง           ยูเอสเอส ไอโอวา ซึ่งทอดสมอชั่วคราวอยู่ที่นอกอ่าว ถูกลากจูงเข้าไปยังท่าเทียบเรือ 87 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ท่ามกลางเสียงเชียร์ของชาวเมืองและวงโยธวาทิตจากโรงเรียนมัธยมที่มาบรรเลงเพลงต้อนรับ โดยเรือลำนี้จะถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้สาธารณชนเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมเป็นต้นไป         สุดยอดเรือรบความยาว 270 เมตรลำนี้ ถูกส่งไปบูรณะซ่อมแซมที่เมืองริชมอนด์เป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่คณะกรรมการอ่าวลอสแองเจลิสจะลงมติเมื่อเดือนพฤษภาคมให้เปิดเรือลำนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ถาวร (ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 10 มิถุนายน 2555)

ประกวดเรื่องสั้น “ผู้คน-พลเมือง อารมณ์ความรู้สึก และชีวิตทางวัฒนธรรมในชายแดนใต้”

การประกวดเรื่องสั้น ในหัวข้อ “ผู้คน-พลเมือง อารมณ์ความรู้สึก และชีวิตทางวัฒนธรรมในชายแดนใต้”          ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร โดยโครงการวิจัยชุด “ผู้คน ความรู้สึกไม่มั่นคง พื้นที่สาธารณะ และปฏิบัติการทางวัฒนธรรมในชายแดนใต้” ได้จัดทำโครงการประกวดเรื่องสั้น ขึ้น  มีเงื่อนไขและข้อกำหนด ดังต่อไปนี้   ก.    เนื้อหาสาระ ให้เป็นการประกวดในหัวข้อ “ผู้คน-พลเมือง อารมณ์ความรู้สึกและชีวิตทางวัฒนธรรมในชายแดนใต้” มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ ชีวิต ความคิด และวัฒนธรรมของประชาชนกลุ่มต่างๆ (ชาติพันธุ์ ศาสนา สถานภาพทางสังคม ชนชั้นทางเศรษฐกิจ คนนอกพื้นที่ที่อพยพมาอาศัยหรือทำงาน)ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส) อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเป็นภาพรวม  โดยให้ตั้งชื่อเรื่องใหม่ของตนเอง   ข.    คุณสมบัติงานเขียน ๑. ให้เขียนเป็นเรื่องสั้น (short story) กำหนดความยาวดังนี้ ประเภทประชาชนทั่วไป                     -ความยาวไม่เกิน ๑๑ หน้า ประเภทอายุ  ๑๙-๒๒ ปี                     -ความยาวไม่เกิน  ๘  หน้า ประเภทอายุ  ๑๕-๑๘ ปี         -ความยาวไม่เกิน  ๕  หน้า ประเภทอายุ  ๑๐- ๑๔ ปี                     -ความยาวไม่เกิน  ๓ หน้า             ๒. ให้เขียนเป็นภาษาไทย  ๓. สร้างสรรค์ขึ้นเอง   ไม่แปล  หรือแปลงจากงานเขียนของผู้อื่น   กรณีที่มีการลอกเลียนผลงานของผู้อื่น  คณะกรรมการผู้จัดประกวดฯ จะดำเนินการตามกฎหมายลิขสิทธิ์ทันที  ๔. เป็นงานที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่เคยตีพิมพ์หรือรวมเล่มมาก่อน และระหว่างที่ส่งเข้าประกวดห้ามส่งให้นิตยสาร หนังสือพิมพ์หรือสำนักพิมพ์เพื่อการตีพิมพ์              ค.    ประเภทการประกวดและเงินรางวัล แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑.ประเภทประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดอายุ รางวัลชนะเลิศ                                       ๒๐,๐๐๐.-  บาท รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับหนึ่ง                  ๑๕,๐๐๐.-  บาท รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง                  ๑๒.๐๐๐.-  บาท ๒.ประเภทเยาวชน  แบ่งออกเป็น ๓ ระดับ             ๒.๑     ประเภทอายุ  ๑๙-๒๒ ปี             รางวัลชนะเลิศ                                        ๑๕,๐๐๐.- บาท             รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง                   ๑๐.๐๐๐.-บาท             รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง                  ๘,๐๐๐.-บาท             ๒.๒     ประเภทอายุ  ๑๕-๑๘ ปี รางวัลชนะเลิศ                                        ๑๒,๐๐๐.- บาท             รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง                   ๘.๐๐๐.-บาท             รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง                  ๖,๐๐๐.-บาท             ๒.๓     ประเภทอายุ  ๑๐- ๑๔ ปี              รางวัลชนะเลิศ                                        ๑๐,๐๐๐.- บาท             รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง                   ๗,๐๐๐.-บาท             รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง                  ๕,๐๐๐.-บาท             ง.      คุณสมบัติผู้ส่งประกวด ๑. ต้องเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้(จังหวัดปัตตานี  ยะลา และนราธิวาส)   โดยมีหลักฐานเป็น สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา หรือหลักฐานการประกอบอาชีพ ๒. ผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ในวันส่งงานเข้าพิจารณารับรางวัล       จ.    เงื่อนไขการส่งประกวด             ๑.ให้พิมพ์ หรือเขียนด้วยลายมือตัวบรรจงหน้าเดียว ส่งประกวดจำนวน ๑ ชุด   และผู้เขียนต้องทำสำเนาเก็บไว้เอง  คณะกรรมการผู้จัดประกวดฯไม่ส่งต้นฉบับคืน ๒. ใส่ชื่อจริง  นามสกุลพร้อมที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้  และเบอร์โทรศัพท์(ถ้ามี) ไว้ในต้นฉบับด้วย ๓. ส่งผลงานทางอีเมล  ที่   poonsook.kh@gmail.com    หรือ   ส่งลงทะเบียนทางไปรษณีย์ ถึง                                                        พูนสุข ขันธาโรจน์ (co. สายพิณ ศุพุทธมงคล)       โครงการบัณฑิตศึกษา (มานุษยวิทยา)       คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา       มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์       กรุงเทพมหานคร 10200        หรือ    ส่งด้วยตัวเอง ที่   ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ถนนบรมราชชนนี                                       ตลิ่งชัน  กทม.๑๐๑๗๐     ฉ.     ระยะเวลาส่งผลงานและประกาศผล สิ้นสุดการรับเรื่องที่ส่งเข้าประกวด   วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕                  ในกรณีส่งทางไปรษณีย์ จะดูตราประทับวันที่ส่ง ประกาศผลการตัดสิน        ภายในเดือน สิงหาคม ๒๕๕๕           กำหนดจัดงานรับรางวัล     จะประกาศให้ทราบภายหลัง    ช.     ลิขสิทธิ์และการเผยแพร่ผลงาน ผลงานที่ได้รับรางวัล  ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรขอลิขสิทธิ์จัดพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกภายในกำหนดเวลา  ๓ ปี  หลังจากนั้นลิขสิทธิ์วรรณกรรมจึงตกเป็นของผู้เขียน

สหรัฐย้าย"เอนเทอร์ไพรส์"เข้าพิพิธภัณฑ์หลังปลดประจำการ

ยานอวกาศเอนเทอร์ไพรส์ ได้ถูกนำลงเรือขนาดใหญ่ ออกเดินทางมาจากเมืองเจอร์ซีย์ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ ล่องไปตามแม่น้ำฮัตสัน เพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในนครนิวยอร์ก โดยขบวนเรือขนส่งยานอวกาศได้รับความสนใจจากประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเป็นจำนวนมาก         ทั้งนี้ ยานเอนเทอร์ไพรส์ เป็นยานที่ไม่ได้เดินทางขึ้นไปบนอวกาศจริงๆ แต่เป็นยานต้นแบบสำหรับทำการทดลองการบินในอวกาศ และการทดลองภาคพื้นดิน         การนำยานเอนเทอร์ไพรส์ไปเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา ในการปลดประจำการยานอวกาศหลายลำ หลังใช้งานมานานถึง 30 ปี         สำหรับยานเอนเทอร์ไพรส์ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ (ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 7 มิถุนายน 2555)

จิม ทอมป์สัน เปิดตัววอลล์เปเปอร์คอลเลคชั่นแรก “House on the Klong”

จิม ทอมป์สัน เปิดตัววอลล์เปเปอร์คอลเลคชั่นแรก ในชื่อ “House on the Klong” รำลึกถึงสุนทรียะทางศิลปะของ มร. จิม ทอมป์สัน ที่อบอวลอยู่ในบ้านริมคลอง หรือพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ในปัจจุบัน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์วอลล์เปเปอร์ชิ้นงาม นำ 7 ลวดลายผ้าไหมคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ JIM’S DREAM ลวดลายที่นำมาจากภาพเขียนชิ้นโปรดภาพหนึ่งของ มร. จิม ทอมป์สัน บอกเล่าถึงขั้นตอนต่างๆ ในการผลิตผ้าไหมซึ่งประดับอยู่ในบ้านริมคลองหลังนี้ BYZANCE รวบรวมความเป็นตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันเป็นลวดลายดามาสค์ซึ่งเป็นลายเถาดอกไม้ยุโรปที่ดูเหมือนกับทอขึ้นด้วยเทคนิคการทอมัดหมี่ IMARI เรื่องราวที่ว่าด้วยมิติและพื้นผิวจากการแต่งแต้มด้วยโทนสีเงินเมทัลลิคซึ่งทำให้กิ่งก้านของลายเฟิร์นดูสมจริงดุจมีชีวิต NEW KHMER และ MEKONG แรงบันดาลใจจากผ้าไหมทอมือที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของจิม ทอมป์สัน MONSOON นำเสนอผิวสัมผัสของ Mekong ให้ตัดกับลายริ้วเด่นชัดของผ้าซาติน และลาย IKAT ลายมัดหมี่รูป “ดอกไม้ในแจกัน” ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นลวดลายที่สามารถพบได้ในรูปแบบผ้าไหมจากคอลเลคชั่น Caravans ของจิม ทอมป์สัน ทั้ง 7 ลวดลายถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นวอลล์เปเปอร์สุดวิจิตรที่สามารถนำไปใช้ตกแต่งบ้านได้อย่างสวยงาม มีรสนิยม ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ผลิตโดยบริษัทวอลล์เปเปอร์ชื่อดัง ในเมืองเลสเตอร์ไชร์ (Leicestershire) ประเทศอังกฤษ ผู้ที่สนใจสามารถเลือกชมวอลล์เปเปอร์ชุด “House on the Klong” ได้ทุกวัน ที่ร้าน จิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ ระหว่างเวลา 9.00 — 21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-632-8100, homeproject@jimthompson.com และ www.jimthompson.com  (ThaiPR.net  วันที่ 7 มิถุนายน 2555)

JAS-39 Gripen ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและใกล้แล้วเสร็จได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ SAAB JAS-39 Gripen A เครื่องบินขับไล่ โจมตี ลำโชว์ที่อยู่ในขั้นตอนของการทำสี พร้อมจัดแสดงภายในเดือนมิถุนายนนี้ ผู้ที่รักการบินไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง... วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555  พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ รับมอบ สมุดประวัติประจำเครื่องบิน (LOG BOOK) เครื่องบิน GRIPEN 39A หมายเลข 39178 จาก Major General Micael Bydn ผู้บัญชาการทหารอากาศสวีเดน อากาศยานโจมตี ขับไล่ลำดังกล่าว รัฐบาลสวีเดน มอบให้เพื่อตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ทางการของสวีเดนมอบเครื่องบินขับไล่ GRIPEN 39 A เพื่อตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เนื่องในโอกาส ครบรอบ 100 ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ และเพื่อมิตรภาพอันแนบแน่นของกองทัพอากาศ และกองทัพอากาศสวีเดน ในปี 2555 นี้ รัฐบาลสวีเดน โดยกองทัพอากาศสวีเดน ได้มอบเครื่องบินขับไล่ GRIPEN 39 A ซึ่งเป็นเครื่องบิน GRIPEN รุ่นเก่า (เวอร์ชั่นแรก) ที่ประจำการในกองทัพอากาศสวีเดน ให้กับกองทัพอากาศไทย เพื่อนำมาตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ในเดือนมีนาคม 2555 นี้  ซึ่งขณะนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ได้มีการปรับปรุงให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านการบิน คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม (ไทยรัฐ วันที่ 1 มิถุนายน 2555)