”เรือนศิลปิน”ยกระดับพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดนตรีแห่งแรกในประเทศไทย

 
 บนพื้นที่ประมาณ 19,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 4.5 ไร่ เป็นอาคาร 7 ชั้น อยู่ในผืนน้ำทางทิศเหนือของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นน้ำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ และแสดงภูมิทัศน์ที่สวยงามเพื่อให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยมหิดล

   พิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์น้องใหม่ของมหาวิทยาลัยมหิดล มีหลายท่านยังไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้มากนัก แต่เชื่อได้ว่าถ้าคุณได้มาเยือนเรือนศิลปิน จะทำให้คุณหลงรักสถานที่นี้ ถึงแม้ว่าตัวพิพิธภัณฑ์ยังไม่แล้วเสร็จก็ตาม ทางวิทยาลัยดุริยางค์ศิลป์ได้เปิดตัวเรือนศิลปินให้เป็นที่รู้จักก่อนตัวพิพิธภัณฑ์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป้าหมายของพิพิธภัณฑ์ดนตรี เพื่อสร้างให้เป็นประวัติศาสตร์ของชนชาติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี เป็นเรื่องราวในอดีตที่จะสร้างภูมิปัญญาให้กับคนปัจจุบัน และเป็นพลังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับอนาคตพิพิธภัณฑ์ดนตรีเป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง (ดนตรี) เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเครื่องดนตรี บทบาทของดนตรีที่เกี่ยวข้องกับสังคม รวบรวมเสียงของเครื่องดนตรี ทั้งดนตรีไทย ดนตรีพื้นบ้าน และดนตรีในภูมิภาคอุษาคเนย์


       
       รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า วิทยาลัยมีแผนจัดสร้างอาคารมิวเซียมดนตรีอุษาคเนย์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอุษาคเนย์อย่างมีรสนิยม การจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ดนตรีจะถือเป็นเครื่องหมายบอกความเจริญของสังคมเป็นการนำอดีตมารับใช้ปัจจุบันและมองเห็นอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์ดนตรีทั้งยังแสดงศักยภาพของประเทศในฐานะศูนย์กลางความเจริญด้านดนตรีแห่งภูมิภาคอุษาคเนย์
       
       "การจัดตั้งมิวเซียมดนตรีอุษาคเนย์นั้นจะมีความแตกต่างกับมิวเซียมอื่นๆในประเทศไทย ตรงที่ว่าเป็นมิวเซียมที่มีชีวิต ไม่ตาย ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ จะไม่ตั้งโชว์เครื่องดนตรีแล้วติดเพียงป้ายชื่อให้คนได้รู้จักเท่านั้น แต่จะแสดงให้เห็นว่าเครื่องดนตรีชนิดนี้เล่นอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร มิวเซียมดนตรีนี้จะเป็นแหล่งรวบรวมเสียงทุกชนิดในภูมิภาคอุษาคเนย์ ด้วยความคิดที่ว่า เราพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ แต่เราไม่เคยภูมิใจในความเป็นเรา เราไม่เคยเรียนรู้ในความเป็นเรา ขนาดมหาวิทยาลัยในอเมริกา ยังมีปริญญาเอกภาษาไทย แล้วเราต้องไปเรียนที่นั่นหรือ? ทำไมเราไม่เรียนที่ประเทศไทย ให้เค้ามาศึกษาในประเทศไทย วัฒนธรรมของภูมิภาคเราเค้าต้องมาศึกษาในประเทศเรา"



  พิพิธภัณฑ์ดนตรีอุษาคเนย์ หรือ มิวสิคมิวเซียม มีลักษณะเป็นแบบ Living Museum คือ มีลักษณะเป็นพิธีกรรมทางดนตรีของชุมชน เผ่าพันธุ์ วงดนตรี ในฤดูกาลต่าง ๆ ของ southeast asia เช่น ในฤดูกาลนี้เราจะแนะนำดนตรีลาว ก็เชิญผู้เชี่ยวชาญมาสอนดนตรีลาว เชิญนักดนตรีลาวมาสาธิตเกี่ยวกับดนตรีลาว นอกจากนี้เราทำเป็นวิชาการหน่วยกิตละ3 หน่วยกิต โดยให้นักเรียนดนตรีทั่วโลก มาเรียน 10 วัน หน่วยกิตละ 500 ยูโร 100 คน เราได้ 150,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทย7-8 ล้านบาท เราจ่ายเงินให้กับผู้เชี่ยวชาญประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อให้มิวสิคมิวเซียมมีสีสันและมีชีวิตชีวา เช่นวันนี้มีการแสดงดนตรีของชนเผ่าม้ง วันต่อไปมีการแสดงดนตรีของชวา บาหลี ดนตรีพื้นบ้านของเขมร หรือดนตรีพม่า สร้างความตื่นเต้นได้ตลอด ผู้ฟังมีความสุขกลับบ้าน ประเด็น คือทำสิ่งที่เป็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมดนตรีให้เป็นความรู้ โดยให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นศูนย์กลาง
       
       พื้นที่พิพิธภัณฑ์ดนตรี ประกอบไปด้วยหมู่เรือนกลางน้ำ ห้องพักคอย ห้องสมุดดนตรี ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องซ่อมเครื่องดนตรี (เก่า) ห้องสาธิตดนตรี ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องพิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงเครื่องดนตรี ห้องแสดงดนตรี เวทีแสดงดนตรีในพิพิธภัณฑ์ เวทีแสดงดนตรีหน้าพิพิธภัณฑ์ ห้องขายของที่ระลึก ห้องอาหาร และเรือนรับรองแขกกลางน้ำโดยภายอาคารพิพิธภัณฑ์ดนตรีจะมีทั้งหมด 7 ชั้น [คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม]
(ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 12 มิถุนายน 2555)

เผยแพร่เมื่อ: 13 มิถุนายน 2555