พิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ


พิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ แต่เดิมเป็นบ้านของมหาอำมาตย์เอก พระยาสุริยานุวัตร (เกิด บุนนาค) ท่านได้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส อิตาลี สเปนและรัสเซีย ในสมัยรัชกาลที่ 5 อีกทั้งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย บ้านสุริยานุวัตรจึงเป็นบ้านที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อตอบแทนคุณความดีในการปฏิบัติราชการ บ้านสุริยานุวัตรเป็นอาคารที่ทำงานถาวรหลังแรกของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ มาตั้งแต่ พ.ศ.2493 จนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นี้เกิดขึ้นมาจากการดำริของ ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วงเวลานั้น ท่านได้ตระหนักเห็นคุณค่าในคุณูปการของพระยาสุริยานุวัตร ที่มีต่อประเทศไทย และเห็นความสำคัญทางสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร

ที่อยู่:
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์:
0-2280-4085
โทรสาร:
0-2281-3938
วันและเวลาทำการ:
วันเวลาราชการ 08.30 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม:
ผู้สนใจติดต่อขอเข้าชมเป็นหมู่คณะได้ที่กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สศช.
เว็บไซต์:
อีเมล:
webmaster@nesdb.go.th, pr@nesdb.go.th
ปีที่ก่อตั้ง:
2550
จัดการโดย:

โดย: -

วันที่: 12 มีนาคม 2555

โดย: -

วันที่: 12 มีนาคม 2555

โดย: -

วันที่: 13 มิถุนายน 2555

ไม่มีข้อมูล

ตึกสุริยานุวัตร โบราณสถานแห่งชาติที่ควรอนุรักษ์ไว้

ชื่อผู้แต่ง: กฤษณา | ปีที่พิมพ์: 9, 11 (พ.ย. 35)

ที่มา: กินรี

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

อาคารสุริยานุวัตรที่ชาวสภาพัฒน์ฯ ภาคภูมิใจ.

ชื่อผู้แต่ง: สุวรรณี สำโรงวัฒนา | ปีที่พิมพ์: 13, 5 (มี.ค. 2535)

ที่มา: ศิลปวัฒนธรรม

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555

พิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ

ชื่อผู้แต่ง: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | ปีที่พิมพ์: 2552

ที่มา: กรุงเทพฯ:สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

แหล่งค้นคว้า: ศมส.

โดย: ศมส.

วันที่: 13 มีนาคม 2555


ไม่มีข้อมูล

รีวิวของพิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ

มหาอำมาตย์เอก  พระยาสุริยานุวัตร (เกิด  บุนนาค) ท่านได้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส  อิตาลี  สเปนและรัสเซีย  ในสมัยรัชกาลที่ 5  อีกทั้งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย  บ้านสุริยานุวัตรจึงเป็นบ้านที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระราชทานเพื่อตอบแทนคุณความดีในการปฏิบัติราชการด้วยความสามารถ  ความเพียร  และซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด
           
บ้านสุริยานุวัตร  ได้สถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่อ มาริโอ ตาปัญโญ (Mario Tamangno) เป็นผู้ออกแบบ  และเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม   นับอายุของบ้านหลังนี้คือ 105 ปี  บ้านหลังนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานในปีพ.ศ.2549  การบูรณะครั้งล่าสุดก่อนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ.2550  ได้มีการทำสีของอาคารใหม่จากสีขาวให้เป็นสีดั้งเดิมคือสีเหลืองจำปา 
           
พิพิธภัณฑ์นี้เกิดขึ้นมาจากการดำริของ ดร.อำพน  กิตติอำพน  เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วงเวลานั้น  ท่านได้ตระหนักเห็นคุณค่าในคุณูปการของพระยาสุริยานุวัตร  ที่มีต่อประเทศไทย  และเห็นความสำคัญทางสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร
           
บ้านสุริยานุวัตรหรือตึกสุริยานุวัตร  เป็นอาคารที่ทำงานถาวรหลังแรกของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์  มาตั้งแต่ พ.ศ.2493 จนถึงปัจจุบัน  การจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์อยู่บริเวณชั้นล่าง  แบ่งออกเป็น 7 ห้อง ได้แก่  ห้องพระยาสุริยานุวัตร  ห้องแผน 1-7  ห้องแผน 8-10  หอเกียรติยศ  ห้องเศรษฐกิจพอเพียง  ห้องปัจจุบัน สศช.และบริการข้อมูล  ห้องประวัติอาคาร  ส่วนชั้นบนของบ้านแต่เดิมเป็นห้องนอนของพระยาสุริยานุวัตรกับครอบครัว  ปัจจุบันทำเป็นห้องประชุมของผู้บริหารระดับสูง
           
ผู้นำชมพิพิธภัณฑ์ในวันนี้คือ คุณวรารัตน์  ดุลยพิทักษ์  ในการชมพิพิธภัณฑ์ทุกห้องจะมีวีดีทัศน์ประกอบ  กลุ่มผู้เข้าชมส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา  คุณวรารัตน์บอกว่าชื่อของพระยาสุริยานุวัตรได้เงียบหายไปจากประวัติศาสตร์อยู่ช่วงหนึ่งจากการที่ท่านวิพากษ์วิจารณ์ระบบเศรษฐกิจและการเงินการคลังในยุคสมัยนั้น  จนกระทั่งได้มีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ชื่อของท่านจึงกลับมาอีกครั้งในฐานะนักเศรษฐศาสตร์คนแรกของประเทศไทย
           
ในห้องสุริยานุวัตร  เราจะได้รู้จักกับท่านมากขึ้น  ผลงานที่โดดเด่นคือตำรา “ทรัพย์ศาสตร์” ปัจจุบันเป็นหนังสือ 1 ใน 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน  ตามโครงการวิจัยเพื่อคัดเลือกและแนะนำหนังสือดีในศตวรรษ  ที่นี่เราจะได้เห็นตำราเล่มนี้แบบต้นฉบับเดิม  ในห้องนี้มีภาพถ่ายของท่านกับครอบครัว  ภาพหนึ่งคือภรรยาของท่านคุณลิ้นจี่กับลูก 6 คน  และภาพระหว่างปฏิบัติราชการ  พร้อมด้วยบอร์ดแสดงความก้าวหน้าในชีวิตการรับราชการ
           
การจัดแสดงประวัติของเจ้าพระยาสุริยานุวัตรมีความสมบูรณ์ขึ้นได้  มาจากนางประชงค์  บุญนาค  บุตรสะใภ้ของท่าน  นางประชงค์ได้มอบภาพเหมือนพระยาสุริยานุวัตร  เขียนด้วยสีน้ำมันขนาดใหญ่  วาดโดยจิตรกรชาวอิตาเลียนเมื่อ พ.ศ.2441  พร้อมกับเครื่องใช้ส่วนตัวเมื่อครั้งที่นำติดตัวกลับมาจากต่างประเทศในครั้งดำรงตำแหน่งเป็นอัครราชทูต  ได้แก่  แจกันฐานทอง  ชุดน้ำชาเครื่องเงินของเยอรมัน  ชุดจานกระเบื้องสำหรับรับประทานอาหารค่ำ ฯลฯ  โดยเครื่องใช้ส่วนใหญ่มีตราประจำตัวชื่อของพระยาสุริยานุวัตรพิมพ์หรือสลักไว้
           
ถัดจากนั้นเป็นห้องแผน 1-7  จัดแสดงเรื่องความเป็นมาของสศช. และการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1-7  ประกอบด้วยบอร์ดและวีดีทัศน์สรุปเนื้อหาและแนวคิด  ต่อมาเป็นห้องแผน 8-10 มีจุดเด่นตรงที่ทำเป็นโดม  นำเสนอภาพจากการเสวนา ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน  จากนั้นเป็นหอเกียรติยศ  แสดงภาพผู้ก่อตั้งสศช.และผู้นำองค์กรจากอดีตถึงปัจจุบัน  ส่วนของห้องเศรษฐกิจพอเพียง  ได้มีการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาประดิษฐานอยู่กลางห้อง  โดยมีคำนิยมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชวาทจัดแสดงอยู่ทั้งสองด้าน 
           
ส่วนของห้องปัจจุบันสศช.และบริการข้อมูล  ผู้เข้าชมสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงกลับไปใช้ประโยชน์ได้   ในการจัดทำหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง  ได้มีการจัดทำออกมาหลายเล่ม  สำหรับห้องสุดท้ายคือห้องประวัติตึกสุริยานุวัตร มีตั้งแต่เรื่องของท่านชีปะขาวผู้เคยพำนักอยู่ในบริเวณนี้  ท่านจึงเปรียบเสมือนเป็นเจ้าที่ของบ้าน แล้วก็เรื่องราวการได้รับพระราชทานบ้าน เรื่องความคิดแบบคนหัวก้าวหน้าของท่านพระยาฯ  เมื่อท่านถึงแก่อนิจกรรม  ทายาทได้มอบบ้านกลับคืนตามเจตนารมย์ของท่าน  นอกจากนี้ยังมีภาพจำลองการก่อสร้างปรับปรุงจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์  และบอร์ดเล่าความสัมพันธ์ของสภาพัฒน์กับบ้านหลังนี้
           
โดยรูปแบบของบ้าน  ทางขึ้นชั้นบนของบ้านนี้มีสองด้าน  บันไดใหญ่เป็นของเจ้าของบ้าน  ส่วนบันไดเล็กอีกด้านเป็นของคนรับใช้  คุณวรารัตน์เล่าว่าบันไดเล็กอีกด้านในสมัยก่อนจะมีทางเชื่อมกับเรือนของข้าทาสบริวารที่รายล้อมอยู่  ปัจจุบันชั้นบนได้จัดทำเป็นห้องประชุม  ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้เคยมาประชุมกันที่นี่  ใกล้กันมีโต๊ะทำงานของเลขาธิการสภาพัฒน์ซึ่งเปลี่ยนกันไปตามวาระ
           
ในการเข้ามาเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ  คุณวรารัตน์เล่าว่าบางกลุ่มจะมีหัวข้อขอให้บรรยาย  ซึ่งที่นี่ยินดีจัดวิทยากรและพานำชมพิพิธภัณฑ์  นอกจากเรื่องราวที่จัดแสดงดังกล่าว  สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์นี้คือเรื่องราวลึกลับที่ได้แสดงผ่านออกมาทางสถาปัตยกรรมของบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นห้องขังบริเวณชั้นใต้ดิน  หรือจะเป็นห้องใต้หลังคา  ซึ่งช่วงเวลาหนึ่งมีค้างคาวมาอาศัยบินเข้าออกเป็นจำนวนมาก  จนชาวบ้านพากันเรียกว่า “วังค้างคาว” หรือจะเป็นกระจกกรอบไม้บานใหญ่ที่ติดอยู่บริเวณทางขึ้นชั้นบน  กระจกบานนี้คุณยายประชงค์เป็นผู้มอบให้พร้อมกับบอกว่าหลังบานกระจกมีภาพของคุณลินจง   ธิดาของเจ้าพระยาสุริยานุวัตร  ครั้นมาวันหนึ่งกรอบไม้ถูกปลวกกินจึงได้มีการถอดกระจกออกมา  จึงได้พบกับภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบขนาด 70 คูณ 130 เซนติเมตรคาดว่าจิตรกรคือ กาลิเลโอ คินี (Galilro Chini) จิตรกรที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เข้ามาวาดภาพจิตรกรรมบนฝาผนังทั้งหมดภายในพระที่นั่งอนันตสมาคม      
               
หลังจากได้เดินชมบ้านของพระยาสุริยานุวัตร  ความรู้สึกหนึ่งได้เกิดขึ้นคือ  บ้านที่งามสง่าที่ทรงคุณค่าด้วยสถาปัตยกรรมและเรื่องราวสำคัญของประวัติศาสตร์ประเทศไทย  ไม่น่าถูกบดบังล้อมรอบด้วยตึกสำนักงาน  ทำให้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้  ทางสภาพัฒน์เองก็ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้  และมีความคิดที่จะทุบตึกบางส่วนออกหลังจากที่บางหน่วยงานได้ย้ายออกไปยังที่ทำการใหม่
 
-----------------------------------------------------
สาวิตรี  ตลับแป้น /ผู้เขียน /ถ่ายภาพ
ข้อมูลจาก  :  สำรวจภาคสนามเมื่อวันที่  22  เดือนกรกฎาคม  พ.ศ. 2554
----------------------------------------------------
การเดินทาง :พิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ  คือสถานที่เดียวกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  อยู่ใกล้กับวัดโสมนัส  เขตป้อมปราบศตรูพ่าย  การเดินทางโดยรถยนต์ให้ไปตามถนนกรุงเกษม  เลียบแนวคลอง
-----------------------------------------
อ้างอิง  : แผ่นพับของพิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ.
สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ.http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=319  [Accessed  27/08/2011]
              สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. พิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตร เพื่อการพัฒนาประเทศ,ม.ป.ป.
ชื่อผู้แต่ง:
-

รีวิวของพิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศ

มหาอำมาตย์เอกพระยาสุริยานุวัตร (เกิด บุนนาค) มีชีวิตอยู่ในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงต้นสมัยรัชกาลที่ 8 ระหว่าง พ.ศ.2405-2479 เป็นนักเศรษฐศาสตร์คนแรกของประเทศไทย เป็นผู้เขียนตำราเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของไทยและเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าหลายด้าน 

อาคารสุริยานุวัตรเดิมเป็นบ้านพักอาศัยของมหาอำมาตย์เอกพระยาสุริยานุวัตรและครอบครัว ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในราว พ.ศ.2448 มีรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ออกแบบโดยนายมารีโอ ตามัญโญ (Mario Tamagno) สถาปนิกชาวอิตาลี คนเดียวกับที่ออกแบบก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม บ้านหลังนี้ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องด้วยคุณงามความดีของพระยาสุริยานุวัตรในการปฏิบัติราชการในสมัยที่ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และรัสเซีย ได้มีโอกาสถวายการดูแลพระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 หลายพระองค์ด้วยกัน

บ้านหลังนี้ยังเคยใช้เป็นที่ประชุมก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะผู้ก่อการ พ.ศ.2475 เนื่องจากนายประจวบ บุนนาค บุตรชายคนสุดท้องของพระยาสุริยานุวัตรร่วมเป็นผู้หนึ่งในคณะก่อการด้วย ภายหลังคุณหญิงลิ้นจี่ ภรรยาของพระยาสุริยานุวัตรได้ขายบ้านหลังนี้ให้แก่รัฐบาลในช่วงประมาณปี 2483-2484 

อาคารสุริยานุวัตรแห่งนี้ เคยใช้เป็นที่ตั้ง สำนักงานเทศบาลนครกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน และกรมโลหะกิจ ตามลำดับ และต่อมาได้ใช้เป็นสถานที่ตั้งของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตั้งแต่ปีพ.ศ.2493 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนอาคารแห่งนี้เป็นโบราณสถานแห่งชาติที่ต้องอนุรักษ์ โดยในปี พ.ศ.2533 ได้ร่วมกับกรมศิลปากรดำเนินการบูรณะอาคารแห่งนี้เป็นครั้งแรก ได้มีการรวบรวมเครื่องใช้ส่วนตัวโดยได้รับบริจาคจากนางประชงค์ บุนนาค ญาติใกล้ชิดของท่านเพียงคนเดียมที่ยังมีชีวิตอยู่ และในปี พ.ศ.2550 ได้จัดทำพิพิธภัณฑ์สุริยานุวัตรเพื่อการพัฒนาประเทศขึ้น เพื่อรำลึกถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งในแง่ของสถานที่ บุคคล ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้วิวัฒนาการของการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสืบไป 

พิพิธภัณฑ์แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 7 ห้อง ได้แก่ ห้องประวัติพระยาสุริยานุวัตร ห้องประวัติตึกสุริยานุวัตร ห้องแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 - 7 ห้อง แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 - 10 ห้องเศรษฐกิจพอเพียง ห้อง Hall of Fame และห้องปัจจุบันของ สศช.ฯ

ห้องประวัติพระยาสุริยานุวัตรจัดแสดงเรื่องราวประวัติ ภาพถ่าย ผลงานในด้านต่างๆของพระยาสุริยานุวัตรในยุคสมัยต่างๆ โดยในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ดูแลการศึกษาพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 แต่งตำราทูตชื่อว่า "ขนบธรรมเนียมราชการต่างประเทศ" ซึ่งถือเป็นตำรากฎหมายและการปฏิบัติระหว่างประเทศเรื่องการทูตภาษาไทยเล่มแรก ขณะดำรงตำแหน่งได้ดำริทำโค้ดโทรเลขเพื่อใช้ในการทูตของไทยเป็นครั้งแรกชื่อ "สุริยาโค้ด" และ "สยามมาคูโต" นอกจากนี้ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาให้ฝรั่งเศสถอนทหารจากสยาม เสนอความคิดในการเปลี่ยนระบบเงินตราจากระบบมาตราเงินเป็นระบบมาตราทองคำ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ มีบทบาทในการปฏิรูปการจัดเก็บภาษีอากรโดยโอนกิจการฝิ่นมาเป็นของรัฐบาล พัฒนาระบบเงินตรา และท่านยังเป็นสามัญชนคนแรกที่ได้ลงนามในธนบัตร คือได้ลงนามธนบัตรแบบหนึ่งชนิดราคา 5 บาท รุ่นสอง ประกาศออกใช้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2449 ช่วงต้นรัชกาลที่ 6ได้แต่งตำรา"ทรัพย์สาตร์" (สะกดตามอักขรวิธีสมัยจัดพิมพ์ครั้งแรก ต่อมาสะกด "ทรัพยศาสตร์") ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นตำราเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของประเทศไทย เป็นองคมนตรีในรัชกาลที่ 7 เป็นรัฐมนตรีที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐบาลในสมัยที่พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ.2476 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2479

ห้องประวัติตึกสุริยานุวัตร จัดแสดงเรื่องราวประวัติในด้านต่างๆของอาคารสุริยานุวัตร ประวัติการจัดสร้าง การบูรณะและการเปลี่ยนแปลงการใช้สอยอาคารในยุคสมัยต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน

ห้องต่อไปคือ ห้องแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 – 7 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นที่รุ้จักกันโดยทั่วไปว่า "สภาพัฒน์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2493 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในระยะแรกใช้ชื่อว่า "สภาเศรษฐกิจแห่งชาติ" มีหน้าที่เสนอความเห็นและคำแนะนำ ตลอดจนข้อชี้แจงต่อรัฐบาลในเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ ในห้องจัดแสดงนี้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหน่วยงาน กรอบความคิดในการวางแผน กระบวนการวางแผน และวิวัฒนาการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 1-ฉบับที่ 7 จากนโยบายน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี การกระจายความเจริญสู่ชนบท นอกจากนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองของคนทำแผนฯ เช่น มุมมองของนายสุนทร หงส์ลดารมภ์ เลขาธิการฯผู้วางรากฐานการจัดทำแผนชาติ ไปจนถึงนายพิสิฐ ภัคเกษม เลขาธิการฯผู้จัดทำแผนฯ 7 เป็นต้น

ห้องที่ 4 คือ “ห้องแผนฯ 8-10” เล่าเรื่องวิวัฒนาการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 - ฉบับที่ 10 ปรัชญาและแนวคิดในการทำแผนฯ ก้าวสู่กระบวนทัศน์ใหม่ในการพัฒนาประเทศ ไปจนถึงการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน

ห้องถัดมา “ห้องเศรษฐกิจพอเพียง” นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง องค์ประกอบของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการน้อมนำหลัก "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" มาปฏิบัติ

ห้อง Hall of fame นำเสนอเรื่องราวประวัติ และภาพถ่าย บุคคลสำคัญได้แก่ ผู้ก่อตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ผู้ริเริ่มการวางแผนพัฒนาประเทศ ประธานกรรมการฯ เลขาธิการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตข้าราชการ สศช.ที่เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี

ห้องสุดท้ายคือ "ห้องปัจจุบันของ สศช.และบริการข้อมูล" นำเสนอวิสัยทัศน์ สศช. บทบาทและภารกิจ ความหมายของตรา สศช. เป็นต้น 

พิพิธภัณฑ์เปิดในวันเวลาราชการ ผู้สนใจเข้าชมสามารถติดต่อได้ที่กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สศช. โทรศัพท์ 0-2280-4085

ข้อมูลจาก: http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=319 [accessed 20081111]
ชื่อผู้แต่ง:
-