ข่าวสารพิพิธภัณฑ์

คนนครปฐมฮือต้านอธิบดีกรมศิลป์สั่งย้าย"พิพิธภัณฑ์คู่เมือง"ไปสุพรรณบุรี

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม จำกัด ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม จำกัด ได้มีกลุ่มประชาชน และผู้นำกลุ่มแกนนำองค์กรต่างๆ รวมถึงผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ พ่อค้า เอกชน ครู อาจารย์ นักวิชาการ ได้ร่วมกันกว่า 100 คน โดยมีบุคคลสำคัญในจังหวัดนครปฐมเข้าร่วมหารือ กรณีมีหนังสือราชการ บันทึกข้อความ ส่วนราชการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ที่ วธ.041605/194 ลงวันที่ 17 เมษายน 2558 เรื่อง การเคลื่อนย้ายและจัดแสดงโบราณสิลปวัตถุจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ลงนามโดย นายพนมบุตร จันทรโชติ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง   ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี เพื่อเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ มาเก็บรักษา และจัดแสดงยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง โดยมีการจัดตั้งงบประมาณ 500,000 บาท และมีโบราวัตถุที่ต้องเคลื่อนย้ายไป จำนวน 1,873 รายการ   นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี นครปฐม ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน และโบราณวัตถุในจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวจากทางโลกโซเชียล จึงได้สอบถามไปยัง น.ส.ภัทรา เชาว์ปรัชญากุล ภัณฑารักษ์ชำนาญการ ผู้ดูแลพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ขององค์พระปฐมเจดีย์ ได้รับคำตอบว่า เป็นจริงตามเรื่องดังกล่าว ตนจึงได้สอบถามไปยังสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี        “หลังจากผมได้ทราบเรื่อง และได้สอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ เมื่อทราบว่าเป็นจริง จึงได้ทำหนังสือสอบถาม และร้องขอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อ นายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เนื่องจากนครปฐม เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยทวารวดี มีอายุหลายพันปี และโบราณวัตถุก็ควรอยู่ในพื้นที่ไม่ควรจะมีการนำออกไปนอกพื้นที่ เพื่อให้ลูกหลานได้มีการศึกษา และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ของตัวเอง คงเป็นเรื่องตลกหากเด็กนครปฐม จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในจังหวัดตัวเองต้องเดินทางไปดูที่อู่ทอง เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง และสังคมในจังหวัดนครปฐม ต้องการคำตอบเรื่องนี้จากอธิบกดีกรมศิลปากร” นายไพบูลย์ กล่าว        นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี นครปฐม กล่าวอีกว่า ทราบว่าการย้ายโบราณสถานในจังหวัดนครปฐมออกไปจะมีผลเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคมนี้ และกระบวนการดังกล่าวนั้นได้เดินหน้าไปอย่างเงียบๆ ทำไมไม่มีการสอบถามคนนครปฐมว่าจะยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นหรือไม่ จนวันนี้ก็เห็นแล้วว่า เมื่อทุกคนทราบข่าวต่างมารวมตัวแสดงความเป็นห่วง และเริ่มออกมาต่อต้านอีกมาก และคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และประชาชนก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางในการรณรงค์ให้มีการรักษาวัตถุโบราณอันล้ำค่าของคนนครปฐมไว้        ทั้งนี้ วันเดียวกันได้มี นายสุรชัย อนุตธโต และนายธนพันธ์ โชคดำรงสุข 2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครปฐม ที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง นำป้ายมาคัดค้านการย้ายพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ไปอยู่ที่อู่ทอง โดยบอกว่า หากจะย้ายโบราณสถานออกไปคนจังหวัดนครปฐม จะมอบผักตบชวาที่ติดแน่นในแม่น้ำท่าจีนให้แทน และยอมไม่ได้ต่อเรื่องนี้        นายสุรชัย อนุตรโต บอกว่า วันนี้มาในนามประชาชนที่ทราบข่าว และรู้ว่าวันนี้มีข้าราชการระดับสูงและผู้ใหญ่ในจังหวัดนครปฐม มารวมตัวเพื่อหาทางแก้ปัญหานี้จึงเดินทางมาเพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนในการคัดค้าน และชาวบ้านที่เริ่มทราบข่าวก็มีที่จะไม่ยอมอีกมากขึ้นด้วย        วันเดียวกัน ที่ประชุมได้ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการแสดงออกต่อต้านแนวคิดของกรมศิลปากรและได้มีการตั้งกลุ่มเพื่อจะขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มรักปฐมนคร” โดยมีข้าราชการระดับสูงร่วมเป็นแนวต่อต้านเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องนี้ โดยจะมีการขอล่ารายชื่อการคัดค้านในจังหวัดนครปฐมแล้วประมาณ 4 พันคน และคาดว่าจะมีอีกหลายหมื่นคน โดยสถานศึกษาต่างๆ ก็พร้อมแสดงออกในเรื่องนี้หลังมีการเปิดภาคเรียนอีกไม่กี่วัน คาดว่าจะเป็นการรวมครั้งใหญ่ในวันที่ 22 พ.ค.58 เวลา 14.00 น. ณ ลานร่มไม้ข้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม        ขณะเดียวกัน ได้มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นำเรื่องนี้ไปหารือกัน ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้ให้แนวทางว่า หากหน่วยงานของพิพิธภัณฑ์จะย้ายโบราณสถานออกไป และจะบอกว่าไม่มีสถานที่ปลอดภัย และเพียงพอ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ก็พร้อมจะหาสถานที่ และก่อสร้างสถานที่ให้ได้เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในจังหวัดนครปฐม ที่ต้องมีการเก็บของมีค่าของจังหวัดนครปฐมไว้        ทั้งนี้ กรณีกระแสการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุดังกล่าวมีการให้ข้อมูลว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมศิลปากร มาตรวจพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ แล้วพบว่า มีเจ้าหน้าที่ทำงานไม่รัดกุม และมีสถานที่ไม่ปลอดภัยต่อโบราณสถาน จึงเป็นที่มาของการสั่งย้ายโบราณวัตถุครั้งนี้   แต่มีหลายฝ่ายเห็นว่า น่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจของอธิบดีกรมศิลปากร หรือมีเรื่องการเมืองมาแอบแฝงที่ต้องการจะนำของมีค่าไปในสถานที่อื่นเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว และมีหลายคนที่เข้ามาร่วมในการประชุมให้ความเห็นว่า จะนำเรื่องดังกล่าวส่งถึง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรักมนตรี ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ และหลายคนต้องการให้ย้ายอธิบดีกรมศิลปากร ออกไปหลังจากมีการสั่งการในเรื่องนี้ด้วย        ขณะเดียวกัน ในจังหวัดนครปฐม ได้มีการเตรียมขึ้นป้ายคัดค้านทั้งจังหวัด โดยมีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งองค์การบริหารจังหวัดนครปฐม เทศบาลนครนครปฐม องค์การบริหารส่วนตำบลหลายแห่งมาสังเกตการณ์ และนับเป็นเรื่องใหญ่ในจังหวัดนครปฐมที่มีการพูดถึงใน 2 วันนี้   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 30 เมษายน 2558

ปิดเทอมเติมประสบการณ์ ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพฯ

นางสาวปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครเล็งเห็นความสำคัญในการมอบกิจกรรมดีๆ เนืองในโอกาสปิดภาคเรียน จึงได้จัดกิจกรรม "ปิดเทอมเติมประสบการณ์ ประจำปี 2558" ขึ้นเพื่อให้เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาส และประชาชนทั่วไปได้ทำกิจกรรมการเรียนรู้ภายในพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 (จตุจักร) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์สามารถรองรับการให้บริการได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อให้เป็น พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครที่จะส่งมอบความสุขให้กับชาว กทม. และเป็นแห่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ตอบรับนโยบายการพัฒนากรุงเทพมหานครแห่งการเรียนรู้ ที่มีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด "Learning for Young Creative Mind" สนุกเล่น สนุกคิด จิตสร้างสรรค์ ภายในงาน น้องๆ จะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมหลากหลาย เรียนฟรี เล่นฟรี และรับของรางวัลกลับบ้าน อาทิ สนุกเล่น กับเครื่องเล่นมากมาย ทั้งสวนน้ำและเครื่องเล่นเสริมสร้างทักษะ สนุกคิด กับการประดิษฐ์ และระบายสีเปเปอร์มาเช่ สนุกทำกับการประดิษฐ์เข็มกลัดทำเอง และครัวไทยวัยจิ๋ว สนุกเรียนรู้ กับการประดิษฐ์กล้องกล้องคาไลโดสโครป (กล้องสลับลาย) สนุกวาด กับ Art Studio จิตรกรตัวน้อย สนุกเพ้นท์ กับกระถางสร้างสรรค์ สนุกสุขหรรษา กับมายากลตัวจิ๋ว   ทั้งนี้ ผู้ปกครองสามรถพาบุตรหลานเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ณ. พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ทุกวัน (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-245-2547   ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 25 เมษายน 2558  

นิทรรศการศิลปกรรม “NEW-S”

หอศิลป์ริมน่านจัดนิทรรศการศิลปกรรม “NEW-S”  โดย ..กลุ่มครูศิลปะรุ่นที่ 1 ศิลปินกลุ่มครูสอนศิลปะต่างสถาบันซึ่งเคยได้รับเกียรติร่วมกันไปศึกษาดูงานในประเทศสหรัฐอเมริกา 10 คนรวบรวมผลงานศิลปะของตัวเองจัดแสดงเพื่อการเผยแพร่และเกิดการศึกษาเรียนรู้ให้กับสังคมนอกเหนือหน้าที่ประจำ ระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม – 21  กรกฎาคม 2558   “NEW-S” เป็นหัวข้อภายใต้แนวคิดที่แสดงนัยยะ 2 ความหมายคือ  new ในความหมาย “ใหม่”  และ news ในความหมายของคำว่า “ข่าว” และมุ่งที่จะตีความคำสองคำนี้ให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวตามทรรศนะและประสบการณ์ของศิลปินแต่ละคนที่มีต่อสภาพแวดล้อมทางสังคมและวัฒนธรรมจากความหมายดังที่กล่าวมา สมาชิกกลุ่มมีจำนวนทั้งหมด  10 คน คือ 1. ผ.ศ.ลิปิกร มาแก้ว 2. อ.ดนยา เชี่ยววัฒกี 3. ผ.ศ.พิสิษฐ์ พันธ์เทียน  4. ผ.ศ.ไพโรจน์ วังบอน  5. อ.ประสิทธ์ วิชายะ  6. อ.ทศพร สุธรรม  7. ผ.ศ.สมพร แต้มประสิทธิ์ 8. ผ.ศ.ธณฤษภ์ ทิพวารี   9. อ.อนุพงษ์ จันทร 10 .อ. ศิริชัย พุ่มมาก  ตัวอย่างผลงานของ อ.ดนยา เชี่ยววัฒกี   สอบถามรายละเอียดได้ที่ หอศิลป์ริมน่าน 122 หมู่ 2 ถ.น่าน – ทุ่งช้าง อ.เมือง จ.น่าน 55000  โทร. 081-989-2912 Email: Winai_nrg@hotmail.com/www. Facebook: Winai prabripoo เปิดบริการเวลา : 09.00 - 17.00 น . ปิดบริการเฉพาะวันพุธ ข้อมูลจาก หอศิลป์ริมน่าน

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เปิดเข้าชมฟรี!

ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ขอร่วมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งตรงกับวันที่21 เมษายน ของทุกปี เปิดให้เข้าชมนิทรรศการฟรี ตั้งแต่วันที่ 17,18,19 และ 21 เมษายน 2558โดยสามารถสำรองรอบเข้าชมทางโทรศัพท์ได้ วันต่อวัน ที่เบอร์ 02 621 0044 ต่อ 123   * กรุณาโทรสำรองรอบเข้าชมล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ในวันและเวลาทำการ **สิทธิ์การจองบัตร 2 ท่าน ต่อ 1 สายการจอง ***กรุณายืนยันสิทธิ์รับบัตรเข้าชมก่อนเวลา 30นาที และขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเข้าชมกรณี ผู้เข้าชมไม่มาในเวลาที่กำหนด ข้อมูลจาก Facebook-นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ วันที่ 16 เมษายน 2558

พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ โชว์เทคโนโลยีฉลอง 60 พรรษา “เจ้าฟ้ากุมารี”

พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานมหกรรม “60 พรรษา เจ้าฟ้ากุมารี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครบ 5 รอบ 60 พรรษา โชว์คุณค่าของพันธุกรรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเตรียมเปิดโซน 2 พิพิธภัณฑ์ใหม่ พิพิธภัณฑ์ วิถีน้ำ ผ่านภาพยนตร์ 4 มิติ จอจัดแสดง 270 องศา ผจญภัยแบบเสมือนจริง และ “พิพิธภัณฑ์ ดินดล” การผจญภัยในโลกใต้ดิน ด้วยนิทรรศการ 4 มิติ พร้อมจอจัดแสดง 360 องศา 4-6 เมษายน 2558   นางจารุรัฐ จงพุฒิศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2558 พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานมหกรรม “60 พรรษา เจ้าฟ้ากุมารี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โดยภายในงานจะเน้นนำเสนอคุณค่าของพันธุกรรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร พร้อมเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่เป็นครั้งแรก ได้แก่ “พิพิธภัณฑ์ วิถีน้ำ” เรียนรู้และเข้าใจวิถีน้ำ ผู้ให้และสร้างสรรพชีวิต ผ่านภาพยนตร์ 4 มิติ จอจัดแสดง 270 องศา ที่จะนำท่านร่วมผจญภัยแบบเสมือนจริง “พิพิธภัณฑ์ ดินดล” การผจญภัยในโลกใต้ดิน ด้วยนิทรรศการ 4 มิติ พร้อมจอจัดแสดง 360 องศา การเปิดให้เข้าชมภาพยนตร์ 3 มิติ เรื่องใหม่ล่าสุด “ไผ่รวกกับทานตะวัน ผู้ยโส” สร้างจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และภาพยนตร์ผจญภัย ตื่นเต้น เร้าใจ เรื่อง “เมล็ดพันธุ์เมล็ดสุดท้าย”   นอกจากนั้น ยังพบกับกิจกรรม “ปันรัก ปั่นรู้” ตามรอยเจ้าฟ้านักอนุรักษ์โดยการสนับสนุนของโครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น ร่วมปั่นจักรยานเพื่อเรียนรู้พรรณไม้ พันธุกรรมพืชที่พิพิธภัณฑ์ฯ สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดจนเรียนรู้ นิทรรศการ 60 เรื่องน่ารู้ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ โครงการในพระราชดำริ นิทรรศการด้านพันธุกรรมพืช ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง รวมมากกว่า 20 ฐานการเรียนรู้ การเรียนรู้ “วิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการ” ด้านพันธุกรรมและเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงมากกว่า 20 วิชาฟรี    ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 29 มีนาคม 2558

“มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ขอนแก่น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมนายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมจัดงาน “มหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น” ซึ่งงานจะจัดขึ้นที่บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 2-7 เมษายน 2558 นี้   นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างให้เยาวชนเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรณีและซากดึกดำบรรพ์ และส่งเสริมควบคู่กระตุ้นการเรียนรู้และอนุรักษ์ทรัพยากรธรณีและซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งหลังจากเสร็จการจัดงานทั้งหมดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น จะมาจัดแสดงต่อที่ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ อ.เวียงเก่า จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2558   ด้านนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ในการจัดงานครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ของจังหวัดขอนแก่น โดยปีนี้งานที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ ความเข้าใจ และกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนรักและหวงแหนทรัพยากรธรณี อันจะนำไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นอุทยานธรณีในระดับโลก   โดยงานนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 เมษายน 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ยังมีงานจัดกิจกรรมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งทางผู้จัดงานได้มีการขยายเวลาจัดกิจกรรมให้ประชาชนได้เข้าไปเที่ยวชมอีกกว่า 1 เดือนเต็ม ซึ่งอีกงานจัดอยู่ที่บริเวณศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-30 เมษายน 2558   สำหรับกิจกรรมภายในงานวันนั้นจะมีการแบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1Dinosaur Dig it up เป็นโซนกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ในการเรียนรู้ต้นกำเนิดแหล่งพำนักแกะรอยไดโนเสาร์ภูเวียงโกซอรัสสิรินธรเนและผองเพื่อนคอยาว โซนที่ 2 คือโซน Phuwiangosaurus Sirindhornae และผองเพื่อน จะมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 การลงนามถวายพระพร   พร้อมจัดแสดงกระดูกไดโนเสาร์เสมือนจริง และโชว์หุ่นไดโนเสาร์เสมือนจริง ส่วนโซนที่ 3 คือโซน Dinosaur 3D ART เป็นโซนกิจกรรมสำหรับการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับไดโนเสาร์ในรูปแบบ Dinosaur 3D Art in Paradise กับไดโนเสาร์ใหม่ทั้ง 4 สายพันธุ์ที่พบในจังหวัดขอนแก่น   ส่วนโซนสุดท้าย Dinosaur Camp เป็นการจำลองบรรยากาศการผจญภัยเสมือนจริงในถ้ำเขาวงกต เมื่อเดินเข้าไปในเขาวงกตจะพบไดโนเสาร์ในอิริยาบถต่างๆ เช่น ไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้, ไดโนเสาร์นอน, ฉายภาพยนตร์ไดโนเสาร์ด้วยการสวมแว่นสามมิติ และกิจกรรมเสริมต่างๆ ที่จะเสริมสร้างประสบการณ์การสังเกตการณ์แก้ไขปัญหาและความสนุกสนาน เป็นต้น   ทั้งนี้ ไฮไลท์ในงานจะมีการนำ AR Magic มาใช้เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อประกอบการท่องโลกเสมือนจริงในยุคไดโนเสาร์ เพื่อที่ผู้เข้าร่วมงานนำอุปกรณ์ smart phone ของระบบปฏิบัติการ IOS และ Andorid ให้ได้ร่วมสนุกกับการจำลองโลกยุคล้านปีให้เด็กๆ ได้ทดลองเข้าไปอยู่ในยุคที่ไดโนเสาร์ครองโลก พร้อมนำอุปกรณ์แว่นตา VR (Oculus Rift) มาใช้ในการผจญภัยในครั้งนี้ด้วย   ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 27 มีนาคม 2558

มิวเซียมสยามเปิดตัวแอพพลิเคชั่นชมนิทรรศการ

มิวเซียมสยามเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ที่จะทำให้การชมนิทรรศการแบบเดิมๆ สนุกยิ่งขึ้น   หากคุณมาเที่ยว “มิวเซียมสยาม” พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แนวใหม่ คุณพลาดไม่ได้ที่จะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น "Museum Siam” บน iPhone หรือ iPad แอพพลิเคชั่นที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การการชมนิทรรศการของคุณให้สนุกมากยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูล รูปภาพ เสียงบรรยาย และวีดีโอของนิทรรศการ “เรียงความประเทศไทย” ที่สรุปย่อมาให้อย่างครบถ้วน โดยสามารถเลือกได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ   อีกทั้งคุณจะยังไม่พลาดทุกข่าวสารกิจกรรมจากมิวเซียมสยามที่ส่งมาอัพเดตให้แบบเรียลไทม์ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ฟรี จาก App Store ในระบบปฏิบัติการ iOS ค้นหา “Museum Siam”   โหลดได้ที่ https://itunes.apple.com/us/app/museum-siam/id802739036?mt=8   ข้อมูลจาก Facebook-Museum Siam วันที่ 12 มีนาคม 2558

นิทรรศการ “หลงรัก”

รู้ยัง?! ชาวเอเชียเค้าหลง “รัก” กัน เพราะอาเซียนไม่ได้เพิ่งเกิด!! แต่กลุ่มประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสัมพันธ์กันมาแสนนาน เริ่มจากรู้จัก เรียนรู้ และต่อยอดทั้งความแตกต่าง-คล้ายคลึงกลมกลึงเป็นวัฒนธรรมร่วม จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของในแต่ละพื้นที่ “หลงรัก” นิทรรศการประสานอาเซียน ได้หยิบยกเรื่องราวของ “วัฒนธรรมรัก” ที่ได้จาก “ต้นรัก” พืชไม้ใหญ่ในวงศ์เดียวกับมะม่วง มะปราง มะกอกป่า มาเป็นตัวอย่างการเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ ผ่านการค้าขายหรือแม้การทำสงคราม และยังเปิดมุมมองใหม่ที่ได้นำความรู้ดั้งเดิมจากรุ่นต่อรุ่นมาสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ เพราะ “รัก” เติบโตและเบ่งบานได้ดีในแถบนี้ จนเกิดเป็นวัฒนธรรมหลง “รัก” ขึ้นที่จีนและญี่ปุ่น ก่อนจะแพร่หลายมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะแถบคาบสมุทรซึ่งลุ่มหลงใน “รัก” ไม่แพ้กัน เมื่อ “รัก” เดินทางจากป่าลึกผูกพันสายใยวัฒนธรรมรัดรึงยึดโยงไปทั่วเอเชีย คนบนดอยเก็บ “รัก” ป้อนเข้าสู่หัวเมือง คนเมืองส่งขายต่อเป็นสินค้ามีค่า เพราะเป็นที่ต้องการของผู้คนใกล้ไกล บ้างส่งเป็นส่วยบรรณาการแด่เมืองหลวง ฝ่ายช่างฝีมือจากต่างสำนักและชาติพันธุ์ก็ถ่ายเทเทคนิค ถ่ายทอดทักษะการทำเครื่อง “รัก” กันไปมา อย่างไม่รู้จบ...เป็นเช่นนี้มาต่อเนื่องยาวนาน พูดแบบภาษารักรักได้ว่าวัฒนธรรมหลง “รัก” ช่วยประสานผู้คนในประชาคมอาเซียนให้เข้ามา “รัก” กัน ลองมาดูซิว่า เรื่อง “รัก” ของผู้คนทั้งสิบชาติพันธุ์ มีอะไรน่ารักน่ารักบ้างดีไม่ดี คุณอาจจะ “หลงรัก” โดยไม่รู้ตัว... นิทรรศการ “หลงรัก” เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่ 3 มีนาคม จนถึง 28 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00 - 18.00 น. มิวเซียมสยาม (ท่าเตียน) เข้าชมฟรี!! สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-225-2777 หรือ www.facebook.com/museumsiamfan ข้อมูลจาก Facebook-Museum Siam วันที่ 5 มีนาคม 2558

ศธ.ทำพิพิธภัณฑ์การศึกษา ฉลอง 123 ปี

ศึกษาธิการ"ณรงค์" ปิ๊งไอเดีย สร้างพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทยใน ศธ. โดยใช้ตึกราชวัลลภจัดแสดง หวังเยาวชนสนใจและให้ความสำคัญกับการศึกษาเร่งดำเนินการภายใน 1 เม.ย.นี้ ฉลองครบรอบ 123 ปี   นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมองค์กรหลักของ ศธ. เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. มีแนวคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทยขึ้น โดยจะปรับปรุงห้องทำงานของกลุ่มบริหารงานกลาง อาคารราชวัลลภ ให้เป็นห้องพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย โดยพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทยนี้จะถูกตกแต่งในรูปแบบใหม่ให้เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการผลงานที่แสดงประวัติความเป็นมาของ ศธ. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาไทย รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และปลัดกระทรวงศึกษาธิการคนแรกไล่มาจนถึงยุคปัจจุบัน พร้อมกับนิทรรศการประวัติการศึกษาไทยตั้งแต่สมัยที่มีการเรียนการสอนแบบใช้กระดานชนวนจนถึงยุคของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการบรรยายเรื่องราวของระบบศึกษาไทยที่เริ่มจากการเรียนในวัดจนกระทั่งก่อตั้งเป็นโรงเรียนด้วย   "รมว.ศธ.เห็นว่า ศธ.ก่อตั้งมาอย่างยาวนานแล้ว จึงอยากให้มีการแสดงประวัติศาสตร์การก่อตั้งของ ศธ.ขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษาประวัติศาสตร์เหล่านี้ และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าการศึกษามีความสำคัญอย่างไร ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการหารือกับกรมศิลปากร เนื่องจากอาคารราชวัลลภเป็นอาคารเก่าแก่ และกรมศิลป์ได้มีการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องวางรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ให้เกิดความเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์การศึกษาไทยจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 123 ปีของการก่อตั้งกระทรวงด้วย" ปลัด ศธ.กล่าว.   ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558