ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู


ที่อยู่:
ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู เลขที่ 74 หมู่ที่ 1 ถนนหนองสูง-นิคมคำสร้อย ตำบลบ้านเป้า อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร 49160
โทรศัพท์:
087-2301599
วันและเวลาทำการ:
กรุณานัดหมายล่วงหน้า
ค่าเข้าชม:
ไม่เสียค่าเข้าชม
ปีที่ก่อตั้ง:
2555
ของเด่น:
เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวผู้ไท ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภู สิมโบราณ
จัดการโดย:
ไม่มีข้อมูล

ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนบ้านภู...

โดย:

วันที่: 05 ตุลาคม 2563

ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนบ้านภู...

โดย:

วันที่: 05 ตุลาคม 2563

ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล

ไม่มีข้อมูล

ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู

          บ้านภู ตำบลบ้านเป้า อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เป็นชุมชนชาวผู้ไทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รับรู้ของบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งเริ่มต้นมาจากการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านเป้า ที่พื้นที่สาธารณะซึ่งเป็นที่ตั้งโรงเรียนเก่าใกล้กับวัดศรีนันทาราม บ้านภู ในปี พ.ศ.2549 และพัฒนามาเป็นศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภูในปี พ.ศ.2555

          ชาวบ้านเรียกตัวเองว่าเป็นชาวผู้ไท คุณถวัลย์ ผิวขำ ผู้บริหารศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู เล่าถึงชื่อผู้ไทว่า

          “ผู้ไท ครับ ผู้ไทนี่ใครๆ ก็เรียกผู้ไท   ส่วนคำว่าภูไทมันเกิดมาทีหลัง ว่าคนชออยู่ภูเขาเลยจะให้เป็นภู  มันเพี้ยนออกมา ในพจนานุกรมมันไม่มีภูไท มีแต่ผู้ไทครับ เราอพยพมาจากฝั่งซ้านขแม่น้ำโขงเมื่อปี พ.ศ. 2387 นะครับ เป็นส่วนหนึ่งของชาวเมืองหนองสูง”

          ชาวผู้ไทบ้านภูมีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานมาตั้งที่บ้านภูร่วมกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์เมืองหนองสูง ซึ่งระบุว่าก่อนที่ชาวผู้ไทบรรพชนชาวเมืองหนองสูงจะอพยพเข้ามาอยู่ที่เมืองหนองสูงนั้น เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นาน้อยอ้อยหนู เมืองแถน (แถง) ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองเดียนเบียนฟู อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ชาวผู้ไทอพยพจากเมืองดังกล่าวเพื่อหนีภัยความแห้งแล้งกันดาร มาตั้งเมืองใหม่ที่เมืองวัง เมืองคำอ้อ ปัจจุบันอยู่ในแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

          เมื่อรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ได้มีท้าวสีหนาม (สิงห์) เจ้าเมืองคำอ้อ เป็นผู้นำ ได้พาผู้คนชาวผู้ไทจากเมืองคำอ้อ จำนวน 806 คน และชาวผู้ไทยจากเมืองวัง จำนวน 952 คน รวม 1,658 คน อพยพหนีภัยความแห้งแล้งกันดาร ข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นทางฝั่งขวาที่ท่าสีดา (มุกดาหาร) เจ้าเมืองมุกดาหาร อนุญาตให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ดงบังอี่ แขวงเมืองมุกดาหาร อันเป็นพื้นที่ตั้งของอำเภอหนองสูงในปัจจุบัน

          ครั้นความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านหนองสูงเป็น “เมืองหนองสูง” แต่งตั้งให้ท้าวสีหนาม (สิงห์) เป็นพระไกรสรราช (สิงห์) เจ้าเมืองหนองสูง เมื่อ พ.ศ. 2387 ทำราชการขึ้นต่อเมืองมุกดาหาร

          ต่อมามีชาวผู้ไทส่วนหนึ่งโดยการนำของเจ้าสุโพสมบัติ เจ้ามหาสงคราม เจ้ากิตติราช และเจ้ามหาเสนา พาลูกบ้านประมาณ 20 ครัวเรือน ย้ายมาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งห้วยกระเบียน เมื่อราว พ.ศ. 2424  แล้วพากันเข้ามาจับจองพื้นที่ทำนาในบริเวณที่ราบหุบเขา ซึ่งมีเจ้าเมืองนนท์มาอยู่ก่อนแล้ว เรียกชื่อว่า ไทบ้านหลุบภูบริเวณบ้านหลุมภูนี้จะเป็นที่ลุ่มน้ำท่วมทุกปี จึงได้ย้ายบ้านเรือนมาตั้งถิ่นฐานที่ภูน้อย ในปี พ.ศ. 2445 โดยการนำของเจ้าสุโพสมบัติซึ่งเป็นที่ตั้งของ บ้านภูปัจจุบัน ครั้นถึงปี พ.ศ. 2450 เจ้าสุโพสมบัติถึงแก่กรรม เจ้าวรสาร (แสง) ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าสุโพสมบัติ ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของบ้านภู

          บ้านภูเป็นหมู่บ้านชาวผู้ไทที่อยู่ในที่ราบหุบเขา มีภูเขาแวดล้อมทุกด้าน ทำให้มีความเป็นลักษณะเฉพาะทางวัฒนธรรมท้องถิ่นค่อนข้างสูง ชาวผู้ไทบ้านภูเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ปรับตัวเข้ากับธรรมชาติของพื้นที่ค่อนข้างดี เนื่องจากมีลักษณะภูมิศาสตร์ที่ใกล้เคียงกับเมืองวังและเมืองคำอ้อซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม ก่อนที่จะอพยพมาตั้งเมืองหนองสูง  

ชุมชนมีความโดดเด่นเรื่องผ้าทอ ในปี พ.ศ. 2517 พี่น้องชาวบ้านภูจำนวน 150 คน ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถสิริกิติ์ ที่ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เพื่อถวายผ้าไหม และทั้งสองพระองค์ปฏิสันถารกับพี่น้องบ้านภูและ ชาวบ้านภูยังได้ทัศนศึกษาโครงการหลวงในวังสวนจิตรด้วย    

ชุมชนบ้านภูมีความน่าสนใจในประเด็นการศึกษาวิถีวัฒนธรรมของชุมชน ตอนจนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มาตั้งแต่ราว พ.ศ.2545 ราวปี พ.ศ. 2548 ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบในระดับจังหวัด ภาค และประเทศในเวลาต่อมา  เรียกได้ว่ากลายเป็นหมู่บ้านที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อาทิ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้าไทบ้านภู   กลุ่มทอผ้าฝ้ายลายขิดบ้านภู,  โครงการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม, ชุมชนต้องเที่ยวบ้านภู ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น

          ในปี พ.ศ.2549 กระทรวงวัฒนธรรมได้มีโครงการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนประจำตำบลขึ้น โดยชุมชนบ้านภูได้รับการคัดเลือกในระดับตำบลให้เป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านเป้า อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร บทบาทหน้าที่ของศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยมุ่งเน้นให้มีการบูรณาการโครงการและกิจกรรมที่สอดคล้องกับ 6 องค์ประกอบหลักของโครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ได้แก่ เป็นคลังสมองภูมิปัญญาท้องถิ่น, การส่งเสริมอาชีพด้านศิลปะและวัฒนธรรม, การส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม, ลานวัฒนธรรม, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน  และสารสนเทศและห้องสมุดประชาชน 

           ตามแนวคิดการดำเนินงานของศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านเป้า ได้ทำการประสานบูรณาการโครงการกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนจากทุกภาคส่วนในชุมชน ในการส่งเสริมสนับสนุนการทำกิจกรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ทางวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน จนทำให้ศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านเป้ามีชื่อเสียงในระดับจังหวัด  เป็นที่ดูงานเรื่องหมู่บ้านท่องเที่ยวและหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัด

          ในปี พ.ศ.2555 กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ดำเนินโครงการศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช โดยตระหนักถึงภารกิจและหน้าที่ที่จะต้องอนุรักษ์สืบสาน ส่งเสริมและเผยแพร่ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของไทยให้คงอยู่สืบไป ซึ่งการจัดทำโครงการศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์จากความทรงจำของพสกนิกรในพื้นที่นั้นๆ พร้อมทั้งจัดสร้างแหล่งเรียนรู้ ทางวัฒนธรรม ซึ่งรวบรวมฐานข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชาติพันธุ์และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น เพื่อยืนยันถึงความเป็นเจ้าของสิทธิในการครอบครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและนำองค์ความรู้เหล่านั้น มาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ ซึ่งช่วยในการสืบสาน ต่อยอด สร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น ให้เป็นผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์นำไปสู่การสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งถือเป็นการสร้างคุณค่าและมูลค่าให้แก่ชุมชนเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค

          โดยแนวทางหลักประการหนึ่งของโครงการศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชนั้น จะต้องมาจากความต้องการของประชาชนที่เป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ภายในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและภาคประชาชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินโครงการ และเปิดโอกาสให้แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน โครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน หอวัฒนธรรม ได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมทั้งได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นการพัฒนาแนวทางการดําเนินงานแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และพร้อมที่จะเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้ประชาชนในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป รวมทั้งเครือข่ายทางวัฒนธรรมอื่นๆ ที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลบ้านเป้า ได้รับการพิจารณาให้ให้เข้าร่วมโครงการศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชของจังหวัดมุกดาหาร และเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู”

          เมื่อได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชแล้ว คณะทำงานของศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภูก็ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ตามพันธกิจของโครงการ ได้แก่ การจัดเก็บรวมรวมข้อมูลพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์และข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น พัฒนาพื้นที่ทางวัฒนธรรมสำหรับเป็นแหล่งรวบรวม อนุรักษ์ถ่ายทอด สืบสาน และใช้ประโยชน์องค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เสริมสร้างความร่วมมือในการดําเนินงานทางวัฒนธรรมหลายฝ่ายแบบพหุภาคีระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน และส่งเสริมและพัฒนาการต่อยอดมรดกภูมิปัญญาและสร้างสรรค์ให้เป็นสินค้าและบริการในภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จึงนำไปสู่การเกิดศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภูขึ้น

          ภายในศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภูซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภูด้วยนั้น มีการแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกเป็นอาคารที่ทำการของศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภู ซึ่งเป็นอาคารใช้เดียวใช้เป็นห้องต้อนรับแขกผู้มาเยือน เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรมอบรมสัมมนาต่างๆ มีหุ่นจำลองแสดงเครื่องแต่งกายหญิงชายของชาวผู้ไทบ้านภู  ชั้นจัดแสดงถ้วยรางวัล และประกาศนียบัตรที่ได้รับ  แผนที่ชุมชน  ด้านนอกที่ตัดกับวัดที่ป้ายแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประเพณีการฟ้อนรำผู้ไท  ประเพณีการบายศรีสู่ขวัญ    ส่วนที่สองเป็นอาคารบ้านผู้ไทจำลอง เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างใช้เป็นที่เรียนรู้และสาธิตกิจกรรมของกลุ่มอาชีพต่างๆ ในชุมชนบ้านภู ชั้นบนเป็นที่จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งถือเป็นพันธกิจหนึ่งของศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู และส่วนที่สามเป็นเวทีแสดงด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นเวทีในร่วมและลานวัฒนธรรม

          นอกจากนี้ ภายในวัดศรีนันทารามซึ่งอยู่ติดกับศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภู  ยังมีสิมเก่าหรือโบสถ์เก่า ซึ่งเป็นงานฝีมือช่างญวน โดยเป็นการร่วมแรงร่วมใจและร่วมมือกันก่อสร้างชาวผู้ไทบ้านภู เมื่อ พ.ศ.2449 โดยด้านในได้ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ซึ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวผู้ไทบ้านภูอีกด้วย

          ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภูมีความสำคัญกับชุมชนบ้านภูมาก เพราะเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงข้อมูลของหมู่บ้าน ข้อมูลกลุ่มองค์กรชุมชน แผนชุมชน องค์ความรู้ชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนั้น ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านภู ยังเป็นศูนย์กลางที่คนในชุมชนเข้ามาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ตลอดจนเป็นสถานที่เชื่อมโยงการทำงานระหว่างกลุ่มองค์กรชุมชนบ้านภู เป็นอาคารสำหรับต้อนรับและให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่มาทัศนศึกษาดูงาน จึงได้มีการพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนที่สมบูรณ์แบบ และจะดำเนินการให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ICT ชุมชนต่อไป


เอกสารอ้างอิง

กลุ่มวิชาสารสนเทศศึกษา สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. “ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู”. ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. สืบค้นจาก http://it2.sut.ac.th/prj_is59_g4/ชาติพันธุ์-บ้านภู-01.html, วันที่ 23 กรกฎาคม 2563.

ศรายุทธ ธรเสนา และพิสิษฐ์ รัตนวารี (บรรณาธิการ). บันทึกความรู้ บ้านภูถิ่นแดนทอง. กรุงเทพฯ : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, 2560.

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร. “ประวัติอำเภอหนองสูง”. สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร. สืบค้นจาก https://district.cdd.go.th/ nongsung/about-us/, วันที่ 18 กรกฎาคม 2563.

 

สัมภาษณ์บุคคล

นายถวัลย์ ผิวขำ  ผู้บริหารศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชบ้านภู ตำบลบ้านเป้า อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร, สัมภาษณ์วันที่ 14 มิถุนายน 2563.

ชื่อผู้แต่ง:
ธีระวัฒน์ แสนคำ
คำสำคัญ: