รวบพิพิธภัณฑ์จัดกิจกรรมเสริมความรู้ทั่วประเทศรับเด็กปิดเทอม

      บูรณาการศูนย์การศึกษา-พิพิธภัณฑ์ครั้งใหญ่จัดโครงการ "ปิดเทอมนี้ สนุกคิด สนุกเรียนรู้ สู่อนาคต" ผุดกิจกรรมเด็ดช่วงปิดเทอมทั่วประเทศ รับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ห้ามพลาดค่ายวิทยาศาสตร์ 1 วัน-กิจกรรมฝึกทำหุ่นยนต์-เรียนรู้ดูแร่ดูหิน-กล้องโทรทรรศน์ราคาประหยัดดูสุริยุปราคา วาดฝันขั้นต่อไปให้ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์
      
       คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ จับมือ 18 พันธมิตรเปิดตัวโครงการ "สานพลังพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้สู่สังคมไทย" โครงการบูรณาการศูนย์การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ครั้งใหญ่แห่งยุค พร้อมเปิดตัวโครงการย่อยเฟสแรกกระตุ้นเด็กคิดวิทยาศาสตร์ช่วงปิด" เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 59 ณ อุทยานการเรียนรู้ทีเคพาร์ค ชั้น 8 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
      
       นายราเมศ พรหมเย็น ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวว่า โครงการสานพลังพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้สู่สังคมไทย เกิดจากการที่รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับคุณภาพพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของประเทศ อันจะเป็นการส่งเสริมคุณภาพเยาวชนและประชาชนทุกระดับในการพัฒนาอาชีพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นประธาน และให้ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้จำนวน 18 หน่วยงานเป็นคณะทำงาน
      
       ภายใต้แนวคิดหลัก คือ การบูรณาการความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนให้สอดคล้องกับนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของรัฐบาล โดยใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆที่เหมาะสม, การส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย โดยพัฒนาและจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และการส่งเสริมให้คนไทยมีจิตสำนึกรู้รักสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว จากการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของชาติไทย
      
       สำหรับโครงการย่อยที่จัดขึ้นเป็นงานแรกคือโครงการ “ปิดเทอมนี้ สนุกคิด สนุกเรียนรู้ สู่อนาคต” ที่เป็น 1 ใน 5 โครงการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้นำร่อง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้โดยตรงจากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ที่เป็นคลังความรู้ในช่วงปิดเทอมปีการศึกษา 2558 ภาคเรียนที่ 2 ซึ่งในครั้งนี้มี 9 หน่วยงานมาร่วมจัดกิจกรรม ได้แก่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.), พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ กองทัพอากาศ, องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ , องค์การสวนพฤกษศาสตร์, ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา, สำนักหอสมุดแห่งชาติ, กรุงเทพมหานคร, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้
      
       โดยจะแบ่งกิจกรรมออกเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่
       กลุ่มที่ 1 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 5กิจกรรม
       กลุ่มที่ 2 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ (6 กิจกรรม)
       กลุ่มที่ 3 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านความคิดสร้างสรรค์ (5 กิจกรรม)
       กลุ่มที่ 4. ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม (1 กิจกรรม)
       กลุ่มที่ 5 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (3 กิจกรรม)
       กลุ่มที่ 6 ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และทักษะชีวิต (4 กิจกรรม)
      
       สำหรับกิจกรรมน่าสนใจที่แต่ละหน่วยงานนำมาจัดแสดงก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ เริ่มจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ที่นำชุดของเล่นสำหรับการเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ 1 วันมาเรียกน้ำย่อยซึ่งน่าจะเป็นสวรรค์ของเด็กๆหลายๆคนได้เลยทีเดียวเพราะภายในประกอบไปด้วยโมเดลดาว แผนที่ดาว และของเล่นประลองปัญญาต่างๆ อัดแน่นมากว่า 20 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีกรวยฝืนกฎ ที่ไม่ยอมไหลลงไปตามความลาดเอียงของรางโลหะแต่กลับกันยังสามารถเคลื่อนที่ขึ้นไปยังที่สูงได้เองแบบอัตโนมัติ
      
       หน่วยงานต่อมาอย่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ก็ได้นำแว่นส่องปรากฏการณ์สุริยุปราคามาจัดแสดง พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ผลงานการประดิษฐ์คิดค้นของนักเรียนโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่สามารถประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์อย่างง่ายในราคาไม่ถึง 500 บาทเพื่อให้สำหรับการสังเกตสุริยุปราคา
      
       ด้านศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาก็ได้นำแผนที่ดาวมาแจกให้กับเยาวชนที่สนใจ แต่ที่ได้รับความสนใจยิ่งกว่าคือหุ่นยนต์เก็บของที่พัฒนาขึ้นด้วยกลไกง่ายๆ ให้ผู้สนใจได้มาลองบังคับและสัมผัสด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับกรมทรัพยากรธรณีที่ขนบรรดาหินสีและแร่ต่างๆ มาจัดแสดงเพื่อให้เด็กๆ ได้รู้จักจากการสัมผัสด้วยของจริงส่วนองค์การสวนสัตว์และองค์การสวนพฤกษศาสตร์ แม้จะยกสัตว์และป่าของจริงมาจัดแสดงไม่ได้แต่ก็นำแผ่นความรู้และวิดีโอเชิญชวนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์มาจัดแสดงแทน
      
       พร้อมกันนี้ยังได้ช่องทางสำหรับอัพเดทข้อมูลกิจกรรมได้แก่ เว็บไซต์สำหรับอัพเดทกิจกรรมทั้งหมดสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.okmd.or.th/MLICThailand หรือ www.facebook.com/MLICThailand สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-105 6524

ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559

เผยแพร่เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2559