เปิดบ้านศิลปากร “พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี แห่งเดียวในโลก”

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในกิจกรรมเปิดบ้านศิลปากร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เตรียมพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑสถานและศูนย์การศึกษาเรือพระราชพิธี เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้รองรับการจัดการศึกษาของชาติทุกระดับ ทุกรูปแบบ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสำคัญระดับโลก โดยมี พล.ร.ต.ทักษิณ ฤกษ์สังเกตุ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมกิจกรรม
 
นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางสังกัดสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเรือพระที่นั่งและเรือพระราชพิธีที่ใช้ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารคหรือทางน้ำของพระมหากษัตริย์ไทย จำนวน 8 ลำ จากเรือทั้งหมด 52 ลำ ซึ่งเรือพระราชพิธีเหล่านี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่ละลำทำด้วยฝีมือประณีตงดงาม ล้วนทรงคุณค่าสูงยิ่งทางศิลปกรรม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่าของชาติและของโลก ดังนั้น กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จึงเสนอโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมเรือพระราชพิธีทั้งที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และที่กระจัดกระจายอยู่ในที่อื่นๆ ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน ปรับปรุงพัฒนาการจัดแสดงให้มีมาตรฐานน่าสนใจ ในลักษณะศูนย์ศึกษาเรือพระราชพิธีของชาติ ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความเป็นระเบียบสวยงาม พัฒนาเส้นทางเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ให้มีความสะดวก ปลอดภัย และมีหลายทางเลือก เพื่อให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีเป็นพิพิธภัณฑสถานที่มีความสมบูรณ์ มีมาตรฐาน มีศักยภาพในการรองรับการขยายตัวทั้งในด้านศึกษาเรียนรู้และการท่องเที่ยวต่อไป
 
ทั้งนี้ จากการหารือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทุกหน่วยงานมีความยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับกรมศิลปากรในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งผลจากการดำเนินแผนพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี จะทำให้เรือพระราชพิธี มีการจัดแสดงและสถานที่เก็บรักษาที่เหมาะสม มีความสง่างาม สามารถเปิดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสำคัญระดับโลก มีกิจกรรมที่สามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนทั้งในระดับพื้นที่และการท่องเที่ยวระดับชาติ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่น้อยกว่า 1 แสนคนต่อปี โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่กรมศิลปากรดำเนินการตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว
 
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 14 กรกฎาคม 2557

เผยแพร่เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2557