กรมศิลป์เปิดพิพิธภัณฑ์ให้สักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ต้น มี.ค.นี้
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากกรณีประชาชนทราบว่าพระพุทธรูปไม้ศิลปะพม่าอายุกว่า 200 ปี ถ้าเข้าไปขอพรในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก อ.คลองห้า จ.ปทุมธานี จะสมหวังได้รับโชคและมีการบอกต่อกันปากต่อปาก รวมถึงมีการโทรศัพท์มาสอบถามยังกรมศิลปากร เพื่อขอเข้าสักการะพระพุทธรูปดังกล่าวนั้น ได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเห็นว่าจะนำโบราณวัตถุที่เก็บไว้ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางพุทธศิลป์ในแต่ละยุคสมัย ทั้งศิลปะสุโขทัย ลพบุรี อยุธยา และมีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านต่างๆ มาจัดแสดงและเปิดให้ประชาชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว
นายเอนกกล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่ประชาชนจะได้ศึกษาอัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของพุทธศิลป์ในยุคต่างๆ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษกจัดเตรียมพื้นที่แสดงบริเวณห้องโถง คาดว่าเปิดให้สักการะได้ช่วงต้นมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้เข้าไปสักการะห้ามสัมผัส ปิดทองหรือนำสิ่งของมาบนบานสานกล่าว อนุญาตให้นำเพียงพวงมาลัยมาสักการะเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโบราณวัตถุ ขณะเดียวกันจัดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น
"การเปิดให้ประชาชนสักการะโบราณวัตถุมรดกอันล้ำค่านั้น เป็นเรื่องที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่ สงกรานต์หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษกครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งหวังทำให้ประชาชนคนเกิดความงมงาย คิดว่าเมื่อเข้าไปขอพระแล้วจะได้รับโชคลาภตามที่มุ่งหมายทุกประการ แต่ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ คนไทยจำนวนมากต้องการที่พึ่งและเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อันเนื่องมาจากเหตุหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ ทั้งจากเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงสิ่งที่ไม่เป็นมงคลเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคล ดังนั้น คิดว่าการชักชวนคนมาไหว้พระเป็นเรื่องที่ดีเป็นมงคลและทำให้คนไทยสบายใจ" นายเอนกกล่าว
ข้อมูลจาก
มติชนอนนไลน์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557