"บอสเนีย"ปิดพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เพราะไร้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบอสเนีย ซึ่งรอดจากสงครามโลกทั้งสองครั้งมาได้ รวมถึงเหตุโจมตีกรุงซาราเยโวในช่วงยุค 1990 ต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดเงินทุนสนับสนุนและความแตกแยกทางการเมือง
พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1888 ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออสโทร-ฮังกาเรียน
เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนมานานกว่าหนึ่งปี โดยได้เข้าร่วมการประท้วงร่วมกับนักศึกษาหลังรัฐบาลประกาศปิดเมื่อวันที่ 4 ต.ค.
กลุ่มเชื้อชาติต่างๆของบอสเนียไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ในการจัดหาเงินทุนสนับสนุนด้านวัฒนธรรม นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงเมื่อปี 1995
หนึ่งในนิทรรศกาลสำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ "ซาราเยโว ฮัคกาดาห์" ซึ่งแสดงเอกสารตัวเขียนที่นำมายังบอสเนียโดยครอบครัวชาวยิวที่ถูกขับออกจากสเปนในระหว่างการสอบสวน และได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพฮิตเลอร์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
องค์กรด้านวัฒนธรรมอื่นๆรวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกแห่งชาติของบอสเนีย ประสบปัญหาในการอยู่รอดด้วยเงินอุดหนุนเพียงน้อยนิดจากหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ
นายอัดนาน บูซูลาซิค ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ไม่สามารถอยู่ได้เพียงเพราะการพูดลอยๆเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีรายได้ และรัฐต้องอุดหนุนเงินบำรุงรักษาด้วย ซึ่งต้องใช้เงินราว 60,000 ยูโรต่อเดือน เพื่อเป็นค่าดูแลและจัดกิจกรรมต่างๆ
ทั้งนี้ บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา ไม่มีกระทรวงวัฒนธรรม ตามข้อตกลงเดย์ตัน หลังได้รับเอกราชในสงครามยูโกสลาเวียในช่วงทศวรรษ 90 ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา แบ่งเขตการบริหารหลักออกเป็นสหพันธรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และสาธารณรัฐเซิร์ปสกา (มติชนออนไลน์ วันที่ 6 ตุลาคม 2555)