รับสมัครอาสาสมัคร เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นระว่างวันที่ 23 - 27 พฤศจิกายน 2555 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กำลังเปิดรับสมัครอาสาสมัคร สนใจคลิ๊ก >> http://www.sac.or.th/databases/localmuseumfestival2012/?page_id=51

งาน “ไดโนเสาร์@ภูเก็ต”

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี โดยพิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ กำหนดจัดงาน “ไดโนเสาร์@ภูเก็ต” ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม-16 กันยายน 2555 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. เป็นต้นไป ณ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์-ธรณีวิทยา ซากดึกดำบรรพ์และประวัติการสำรวจไดโนเสาร์ในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้น และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการจัดแสดงนิทรรศการความรู้ในด้านที่แปลก และใหม่ในจังหวัดภูเก็ต (ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 21 สิงหาคม 2555)

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านวัดมะเกลือ จะเปิดแล้วแล้วจ้า!!

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านวัดมะเกลือ กลับมาแล้ว กลับมาครั้งนี้ รับรองว่าทุกคนจะพบกับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในรูปแบบใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมอย่างแน่นอน  สำหรับใครที่สนใจ วันที่ 30 ส.ค. 2555 นี้มาเจอกันที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านวัดมะเกลือ ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับรองว่างานนี้มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพียบ!!!!

ร่วมบุญสร้างพิพิธภัณฑ์วัดปราโมทย์

วัดปราโมทย์ อ.บางคณที จ.สมุทรสงคราม เขตติดต่อกับอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี โดยมีหลวงพ่อโตพระศรีอาริยเมตไตรย หรือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุกว่า 180 องค์ใหญ่ระดับประเทศ ตามประวัติหลวงพ่อตุ้ยอดีตเจ้าอาวาส องค์ที่ 3 ของวัดปราโมทย์เป็นผู้สร้างหลวงพ่อโต โดยมีพุทธศาสนิกชนคนไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานให้ความเคารพนับถือ การจัดสร้างพระองค์หลวงพ่อโตในแถบลุ่มแม่น้ำจะมีการจัดสร้างประดิษฐานอยู่หลายวัด แต่องค์หลวงพ่อโตวัดปราโมทย์จะมีความแตกต่างกับวัดอื่นๆ คือจะไม่มีพระเกียรติยศหรือเศียรองค์หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นองค์พระศรีอารย์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าและทุกปีในช่วงขึ้น 15 ค่ำและแรม 1 ค่ำเดือน 11 จะมีงานสักการะองค์หลวง พ่อโต เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะกราบไหว้ ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชนทั่วไปยังคงให้ความศรัทธา มีการขอพร ขอโชคขอลาภ เมื่อสมความปารถนาก็จะนำประทัดมาเซ่นไหว้ โดยเชื่อว่าหลวงพ่อโตชอบยิ่งนัก ปัจจุบันวัดปราโมทย์มี พระครูปลัดปริยัตวรวัฒน์ หรือที่เราเรียกท่านจนติดปากว่า หลวงพ่อเลิศ นอกจากนี้แล้วท่านยังได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอบางคนทีอีกด้วย ถึงแม้ว่าท่านจะมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอ ท่านก็ยังปฏิบัติตนเหมือนเดิม นอนดึกตื่นเช้าเพื่อปฏิบัติกิจของสงฆ์ ตรวจตราบริเวณวัด ปัดกวาดใบไม้เพื่อความสะอาดตาแก่ผู้พบเห็น ทำวัตรเช้า-เย็นเป็นกิจวัตร    ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าหลวงพ่อเลิศจะมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอ แต่ท่านก็ยังปฏิบัติตนเหมือนเดิม นอนดึกตื่นเช้าเพื่อปฏิบัติกิจของสงฆ์ ตรวจตราบริเวณวัด ปัดกวาดใบไม้เพื่อความสะอาดตาแก่ผู้พบเห็น ทำวัตรเช้า-เย็นเป็นกิจวัตร รวมทั้งจัดทำพิธี “ลอยเคราะห์ตัดกรรมรับโชค” ให้แก่ญาติโยมที่เดินทางไปถึงวัดจะกี่คนก็ตาม ถือว่าเป็นเจ้าคณะอำเภอต้นแบบของวงการปกครองคณะสงฆ์ หลวงพ่อเลิศได้ตั้งปณิธานไว้ก่อนที่ได้รับการตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอว่า มุ่งเน้นให้สอดคล้องกับคำว่า "บวร" ซึ่งเกิดจากการนำอักษร 3 ตัว ซึ่งล้วนมีความหมายในตัวเอง เป็นความหมายที่ผูกพัน และคุ้นเคยตลอดมา เริ่มจาก 1. บ.ใบไม้ แทนความหมายด้วยคำว่า "บ้าน" 2. ว. แหวน แทนความหมายด้วยคำว่า "วัด" และ 3. ร. เรือ แทนความหมายด้วยคำว่า "โรงเรียน" ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียน ผูกพันกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว ในฐานะที่ได้รับแต่ตั้งเจ้เาเจ้าคณะอำเภอ หลวงพ่อเลิศได้ส่งเสริมให้มีการสอบนักธรรม ธรรมศึกษา และสอบพระนวกะ โดยจัดให้วัดปราโมทย์เป็นสนามสอบ และโครงการหนึ่งที่ท่านกำลังดำเนินการก่อสร้างคือ อาคารทรงไทยด้วยงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้หลวงพ่อเลิศมีโครงการที่จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นโดยเฉพาะประวัติของวัดเมื่อครั้งยังชื่อ "วัดโรงหวี" พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่ วัดปราโมทย์ โทร. 08-1268-8903 และ 0-3239-9322 (คมชัดลึกออนไลน์ วันที่ 21 สิงหาคม 2555)

ศึกษา"อาจารย์ใหญ่"แบบ3มิติ ผ่าน"พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์"

หากไม่ได้เรียนแพทย์ คงจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้  หรือสัมผัส "อาจารย์ใหญ่" แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ เพศไหน  กำลังศึกษาด้านอะไร เรียนจบสาขาใด ก็สามารถศึกษาเรียนรู้ ร่างที่ไร้ลมหายใจ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ของพวกท่านเหล่านี้ได้แล้ว ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วไปไม่ใช่น้อยหลังเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา  สำหรับ  "พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์"   1 ใน 11 พิพิธภัณฑ์ของโลก และเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้      จุดเริ่มต้น "พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์"  ในประเทศไทย ถือกำเนิดขึ้นจากการสนับสนุนของของคุณคัทสุมิ คาตามูระ ประธานบริษัทเมดิคัลด็อกเตอร์ซอฟท์เฮาส์ จำกัด  ภายใต้การแนะนำของ ศ.คัชสุฮิโร เอะโตะ อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทย์และทันตแพทย์แห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น   ซึ่งได้บริจาคร่างกายและชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 131 ชิ้น มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท มายังคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    "พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์" จัดแสดงการรักษาสภาพร่างกายหรือชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่เสียชีวิต โดยใช้พลาสติกเหลวเข้ามาแทนที่น้ำและไขมันในเนื้อเยื่อ ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นของน้ำยา ไม่มีการเน่าสลาย และคงสภาพอยู่ได้นาน  ภายใต้เทคนิคที่เรียกว่า  Plastinated human bodies  ที่เริ่มจากการนำร่างกายที่เสียชีวิตในทันทีไปแช่น้ำยาฟอร์มาลีน ทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี เมื่อครบกำหนด ก็มีการนำร่างที่เสียชีวิตไปแช่น้ำยา Acetonebath ซึ่งเป็นน้ำยาที่ดูดเอาน้ำต่างๆในร่างกายออกจนหมด จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการแช่ลงในพลาสติกเหลว เพื่อคงสภาพร่างกายไว้ไม่ให้เน่าเปื่อย ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงร่างกายและชิ้นส่วนของมนุษย์เป็นหมวดหมู่ ประกอบด้วย ร่างกายมนุษย์แบบเต็มร่าง จำนวน 13 ชุด ชิ้นส่วนอวัยวะภายใน จำนวน 50 ชิ้น ชิ้นส่วนอวัยวะ จำนวน 27 ชิ้น ชิ้นส่วนกล้ามเนื้อ จำนวน 23 ชิ้น ร่างกายมนุษย์ตัดแบ่งย่อย จำนวน 6 ชุด ชิ้นหล่อแสดงระบบหลอดเลือด จำนวน 5 ชิ้น และร่างกายทารกในครรภ์ จำนวน 7 ชุด อ.ทญ.ดร.พิไลพร วิวัฒน์บุตรสิริ กรรมการพิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ เผยขณะพาเข้าเยี่ยมชมว่า การได้ร่วมศึกษาอาจารย์ใหญ่ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะทำให้ทุกคนเห็นถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะต่างๆชัดเจน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนิสิต-นักศึกษาแพทย์ที่จากเดิมศึกษาอาจารย์ใหญ่ (ไดเส็ก) เพียงแค่ร่างกายที่นอนราบไปกับเตียง แต่ในพิพิธภัณฑ์นี้ ร่างกายไร้ลมหายใจที่นำมาจัดแสดง มีการจำแนกชิ้นส่วนอวัยวะ กล้ามเนื้อต่างๆออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในลักษณะ 3 มิติ ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจระบบการทำงานต่างๆ    ในอีกแง่ สำหรับคนทั่วไป นอกจากจะได้รับความรู้ระบบการทำงานต่างๆแล้วเมื่อเข้าชมแล้ว  หลายคนก็บอกว่า ทำให้รู้สึกปลงว่าชีวิตคนเราก็มีเท่านี้ เมื่อได้เห็นการลอกชิ้นส่วนเนื้อเยื่อต่างๆ ก็จะรู้ว่า กลไกลในร่างกายนั้นทำงานอย่างไร นับเป็นประโยชน์มากๆ ที่จะทำให้ทราบททันที เมื่อมีอาการเจ็บป่วย ว่าสาเหตุที่แท้จริงต่างๆ เป็นเพราะความผิดปกติจากอวัยวะใด  ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม   "พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์" ได้ที่ห้อง 909-910 ชั้น 9 อาคารทันตแพทยศาสตร์ เฉลิมนวมราช 80  คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ และศุกร์  ระหว่างเวลา 12.30 -18.30 น.  โดยจะเปิดให้เข้าชมฟรีถึงวันที่ 30 กันยายนนี้   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร. 0-2218-8635 แต่หากใครเข้าเยี่ยมชม "พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์" และอยากจะกดชัตเตอร์บันทึกภาพต่างๆ  ทางคณะทันตแพทย์ฯ เขาขอสงวนสิทธิในการบันทึกภาพทุกชนิด เพื่อเป็นการเคารพและให้เกียรติอาจารย์ใหญ่ทุกท่านที่จัดแสดงภายในนี้  (มติชนออนไลน์ วันที่ 17 สิงหาคม 2555)  

เสวนาเรื่อง "ยาแผนไทย 3 ตำรับ... 5 แผ่นดิน ต่อชีวิต สานภูมิปัญญา เพื่อดำรงอยู่"

ทันตแพทย์จุฬาฯ นำร่องเปิดพิพิธภัณฑ์มนุษย์แห่งแรกในอาเซียน

ทันตแพทย์จุฬาฯ เปิดพิพิธภัณฑ์มนุษย์ โชว์เทคนิคใหม่ๆ เก็บรักษาสภาพร่างกายที่เสียชีวิตไปแล้ว นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิด “พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์” เพื่อจัดแสดงการเก็บรักษาร่างกายและชิ้นส่วนของมนุษย์ด้วยเทคนิค plastinated human bodies ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นของน้ำยา ไม่เน่าสลาย และสามารถคงสภาพอยู่ได้นาน ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็น 1 ใน 11 พิพิธภัณฑ์ของโลก และเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดแสดงด้วยเทคนิคดังกล่าว ในการรักษาสภาพร่างกาย ชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ การเก็บรักษาตา แบ่งออกเป็นร่างกายมนุษย์แบบเต็มร่าง ชิ้นส่วนอวัยวะ ชิ้นส่วนอวัยวะภายใน ชิ้นส่วนกล้ามเนื้อ ร่างกายมนุษย์ตัดแบ่งย่อย ชิ้นหล่อแสดงระบบหลอดเลือด และร่างกายทารกในครรภ์ รวมทั้งสิ้น 131 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท (RYT9.COM วันที่ 15 สิงหาคม 2555)  

"จิบชา กินขนม กางร่ม ชมผ้าโบราณ"

เสวนา [ ของเล่น : คุณค่า ความหวัง และความหมายที่มากกว่า “การเล่น” ]

มิวเซียมสยาม จัดเสวนาหัวข้อ { ของเล่น : คุณค่า ความหวัง และความหมายที่มากกว่า “การเล่น” } ในวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2555 เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ห้องเบิกโรง ชั้น 1 อาคารมิวเซียมสยาม ฟรี!! ภายในงานมีกิจกรรมประดิษฐ์ของเล่นพื้นบ้านอย่างง่าย เช่น ลูกข่างสะบ้า, สานกังหัน นก ปลาตะเพียน, พญาลืมงาย เป็นต้น และนิทรรศการ "ของเล่นจากภูมิปัญญาไทย" โดยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จังหวัดเชียงราย  วิทยากรโดย : คุณวีรวัฒน์ กังวานนวกุล และทีมงาน จากพิพิธภัณฑ์เล่นได้ จังหวัดเชียงราย  คุณสุชาดา ตันศิริมาศ (เล็ก-แม่น้องภูมิ) คุณแม่นักประดิษฐ์ เจ้าของบล็อก BhoomPlay รับจำนวนจำกัด 50 ท่าน สำรองที่นั่งและสอบถามได้ที่ E-Mail : pusit@ndmi.or.th (ระบุจำนวนสำรองที่นั่ง ชื่อนามสกุล เบอร์โทร.ติดต่อกลับ) หรือ โทร. 02-225-2777 ต่อ 504, 505 (วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.30 – 17.30 น.)

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราชินี “แม่ของแผ่นดิน งานศิลป์บนแสตมป์”

พิพิธภัณฑ์แสตมป์จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราชินี ในหัวข้อ “แม่ของแผ่นดิน งานศิลป์บนแสตมป์” เชิญสัมผัสแสตมป์จริงที่เกี่ยวเนื่องกับพระองค์รวมกว่า 50 แบบ ในช่วงเกือบกึ่งศตวรรษ และร่วมเป็นเจ้าของคอลเลคชั่นล่าสุดได้ทุกชุด 10-31 ส.ค.นี้ นางปริษา ปานะนนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า วันที่ 12 สิงหาคมนี้ นอกจากเป็นวันแม่แห่งชาติแล้ว ยังเป็นวันแรกจำหน่ายตราไปรษณียากรที่ระลึกชุดพิเศษของปีนี้ ในวโรกาสมหามงคล 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถด้วย พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน กรุงเทพฯ จึงจัดนิทรรศการ “แม่ของแผ่นดิน งานศิลป์บนแสตมป์” ระหว่างวันที่ 10 — 31 สิงหาคม 2555 เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจผ่านดวงแสตมป์แต่ละชุดที่เกี่ยวเนื่องกับพระองค์ “นับตั้งแต่แสตมป์ชุดแรกที่ออกเมื่อปี 2508 ในชุดราชาภิเษกสมรสปีที่ 15 เรื่อยมาจนถึงชุดที่จะออกในวันที่ 12 นี้ รวมเกือบ 50 ปี มีแสตมป์ที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทั้งสิ้น 21 ขุด 53 แบบ จำนวนพิมพ์ 111,125,000 ดวง ในงานนี้นับเป็นโอกาสเดียวที่จะได้พบกับแสตมป์จริงทุกชุดที่เคยออกมา รวมทั้งมีคอลเลคชั่นทุกรายการของวันที่ 12 ส.ค.นี้เป็นเจ้าของอย่างครบครันด้วย” โปรโมชั่นพิเศษภายในงาน ซื้อสินค้าครบ 800 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อแสตมป์ชุดหายาก “แม่แห่งแผ่นดิน” ในราคาเพียง 199 บาท จากราคาปกติ 350 บาท และพลาดไม่ได้กับคอลเลคชั่นพิเศษแพคแสตมป์ชุด “๘๐ พรรษา สองพระบารมีคู่ฟ้าไทย” รวมแสตมป์ที่ระลึก 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีเลขหมายกำกับตรงกันบรรจุในแพคเกจพิมพ์ทองสุดหรู พร้อมสัญลักษณ์งานพระราชพิธีมหามงคลทั้งสองพระองค์ชุดละ 299 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร โทร 0 2271 2439 และ 0 2831 3722 หรือคลิกที่ www.thailandpost.co.th (ThaiPR.net วันที่ 12 สิงหาคม 2555)  

นิทรรศการ "ศิลปะร่วมสมัยของศิลปินกลุ่มธรรมครั้งที่ 12"

นิทรรศการ       ศิลปะร่วมสมัยของศิลปินกลุ่มธรรมครั้งที่ 12  จัดแสดง          ณ หอศิลป์ริมน่าน   ระหว่างวันที่      6  ตุลาคม  - 4  ธันวาคม  2555 สอบถามรายละเอียดได้ที่ หอศิลป์ริมน่าน  โทร. 08-1989-2912 เปิดบริการเวลา :  09.00 น. – 17.00 น. /ปิดบริการ  :  เฉพาะวันพุธ   นิทรรศการครั้งนี้สร้างสรรค์ผลงานด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับปรัชญาชีวิตทั้งแบบสัญลักษณ์และแบบเหนือจริง (Symbolism and Surrealism) รองลงมาคือความงามของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ  อาทิ ทิวทัศน์ ดอกไม้ สถาปัตยกรรมและอื่นๆตามประสบการณ์ของศิลปินแต่ละคน และที่สำคัญก็คือศิลปินกลุ่มธรรมจำนวนไม่น้อย ได้นำเสนอผลงานแนวนามธรรมทั้งแบบที่แสดงอารมณ์แบบอิสระ ความพลิ้วของสีและรอยแปรงอย่างอิสระ (Lyrical Abstraction)และปรัชญาการสร้างสรรค์โดยมี “ธรรมชาติ” เป็นแรงบันดาลใจโดยมีรูปแบบและเนื้อหา แสดงลักษณะเฉพาะของศิลปินกลุ่มธรรมแต่ละคนสมกับคำยืนยันของ ประเทือง เอมเจริญ ที่เคยกล่าวไว้สูจิบัตร นิทรรศการศิลปะของกลุ่มธรรม ครั้งที่4 ว่า …..  “ การมองเห็นธรรมชาติตามความเป็นจริงจะรู้สึกได้ถึงความเป็นปกติของธรรมชาติ   ความเป็นปกตินั้นดำเนินไปอย่างงดงามและนำมาซึ่งความสงบสันติ ข้าพเจ้าวาดรูปตามความเชื่อเหล่านั้น”  

พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ เปิดชมฟรี ตลอดเดือนสิงหาคม

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ขอเชิญผู้ที่สนใจ ร่วมชม พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ฟรีตลอดเดือนสิงหาคม ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะเป็นการให้ความรู้ทางด้านอัญมณีอย่างครบวงจร ตั้งแต่จุดกำเนิดจนถึงการเป็นเครื่องประดับอันล่ำค่า และเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดให้มีการร่วมลงร่วมลงนามถวายพระพรแด่ พระราชินี เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พิพิธภัณฑ์จะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 - 17.00 น. ณ อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 2 ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 0 2634 4999 ต่อ 312 (ThaiPR.net วันที่ 9 สิงหาคม 2555)