Total : 57 pages , Total amount : 1,815 Records , Total amount : 2 Resources.
Advance Search
การส่งเคราะห์ สะเดาะเคราะห์
ทะเบียนของหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ คือ (23) สบ. 23.1.4/82 นายทองอ่อน สิทธิไกรพงษ์ได้มอบให้หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติเก็บรักษา หมายเหตุ ใบลานมาจากคนละผูก
สมุดไทยบันทึกเรื่อง บทสวดมนต์ต่างๆ, ปัญจอันตรธาน, สถานที่ประดิษฐานพระธาตุ, คำส่งเคราะห์ ฯลฯ
คำสวดกรรมวาจาจารย์ หรือคำบอกอนุศาสน์ คือ คำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาที่ให้ปฏิบัติตาม คำว่า บอกอนุศาสน์ ใช้ในความหมายเฉพาะ หมายถึง พระอุปัชฌาย์หรือพระเถระที่พระอุปัชฌาย์มอบหมาย บอกคำสั่งสอนหรือคำชี้แจงให้พระภิกษุที่บวชใหม่ทราบทันที ในตอนท้ายของพิธีอุปสมบท อนุศาสน์ มี 8 ข้อ แบ่งเป็นข้อที่ภิกษุควรประพฤติปฏิบัติ มี 4 ข้อ คือ ออกบิณฑบาต นุ่งห่มผ้าบังสุกุล อยู่โคนต้นไม้ และฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า. ส่วนที่พระภิกษุต้องไม่ประพฤติปฏิบัติ มี 4 ข้อ คือ เสพเมถุน ลักของผู้อื่น ฆ่าสัตว์ และพูดอวดคุณพิเศษที่ไม่มีในตน ทั้ง 8 ข้อนี้เรียกว่า อนุศาสน์ ทะเบียนของหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ คือ (23) สบ. 23.1.4/38 นายทองอ่อน สิทธิไกรพงษ์ได้มอบให้หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติเก็บรักษา ข้อมูลอ้างอิง บอกอนุศาสน์ (10 พฤศจิกายน 2554) จากเว็บไซต์ http://legacy.orst.go.th/?knowledges=บอกอนุศาสน์-๑๐-พฤศจิกายน
บทกลอนคำสอนสำหรับสามเณรในการปฏิบัติตน และการปรนนิบัติพระผู้ใหญ่
สมุดไทยบันทึกพระสูตร คิริมานันทสูตร พระสูตรเพื่อการวิปัสสนาโดยพิจารณาสัญญาต่าง ๆ สิบประการเพื่อให้เข้าใจความจริง
เริ่มด้วยบทไหว้ครู จากนั้นกล่าวถึงโคลงกระทู้ 4 และโคลงกระทู้ 8 เรื่องการสั่งสอน เช่น การประพฤติตามจารีต ทำความดี ละเว้นความชั่ว กตัญญูรู้คุณคน อย่าหูเบา ต้องมีจิตใจหนักแน่น เป็นต้น แทรกด้วยเรื่องโหราศาสตร์เช่น การปลูกเรือน การดูเสา การดูฤกษ์ยาม และตำรายาสำหรับรักษาโรคต่างๆ
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “โคลงฟ้าลั่นกลอง (ทำนายพิรุณศาสตร์แบบอีสาน)”
หน้าต้น จารเป็นอักษรไทย ระบุ “หนังสีือจักกัณวุตติปาปะสูตรว่าเรื่องรักษาศีล” ลานแรก หัวลาน ระบุ “จักกัณ[วุ]ตติปาปสูต ผูกโทน” ท้ายลาน ระบุ “กริยาอันกล่าวยัง จกฺกณวุตฺติปาปสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแแล ฯฯ๛ บริบูรณ์แล้ว ı3ı จุลศักราชได้ ๑๒๖๑ ปีกุน เอกศก เดือน ๖ เหนือ เดือน ๔ ใต้ วันจันทร์แล”, “ผู้ข้าได้สร้างหนังสือจักกณวุตติปาปสูตร นี้ไว้ในศาสนาพระโคตมเจ้า ผู้ข้าขอกุศลส่วนบุญอันเกิดด้วยอันข้าได้สร้างเขียนธรรม จุ่งผู้ข้าชื่อหนานวัฒนะ บิตตามาดาญาติกากับลูกเมียข้า หื้อได้เถิง ๓ ประการ มีนิพพานเป็นยอดแด่ นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ นิจฺจํ ธุวํ ๆ” เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “สร้างพ.ศ. ๒๔๔๒ ปีกุน สมัย ร.๕”
จันทคาดเป็นวรรณกรรมชาดกที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นเรื่องแพร่หลายอยู่ในทุกภาคของประเทศไทยประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากวิทยานิพนธ์ ระดับมหาบัณฑิตเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบวรรณกรรมเรื่องจันทฆาต ฉบับภาคกลาง ฉบับล้านนา ฉบับภาคอีสาน และฉบับภาคใต้” ซึ่งเป็นการนำเรื่อง จันทฆาต ทั้งสี่ภาค สี่สำนวนมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งแต่ละภาคต่างมีลักษณะเฉพาะในความเป็นท้องถิ่นของตัวเอง
จันทคาดเป็นวรรณกรรมชาดกที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นเรื่องแพร่หลายอยู่ในทุกภาคของประเทศไทยประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากวิทยานิพนธ์ ระดับมหาบัณฑิตเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบวรรณกรรมเรื่องจันทฆาต ฉบับภาคกลาง ฉบับล้านนา ฉบับภาคอีสาน และฉบับภาคใต้” ซึ่งเป็นการนำเรื่อง จันทฆาต ทั้งสี่ภาค สี่สำนวนมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งแต่ละภาคต่างมีลักษณะเฉพาะในความเป็นท้องถิ่นของตัวเอง หน้าต้นเขียนไว้ว่า “ณ วัน 6 แรม 1 ค่ำ เดือน 1 ปีระกา หนเบญจศก หน้าปลายเขียนไว้ว่า คุณแดงมีสัทาอุษาหะทรางนังสือใวยพระสาศนา”
ทะเบียนเดิม คือ 68 ตำราหมอดู อักษรมอญเป็นตำราหมอดู อักษรไทยเป็นวรรณคดีเรื่องจันทโครพ
RBR_003_195-201 รวมกันอยู่ใน “เลขที่ 40 จันทคาต ผูก 1-4 อักษรธรรมล้านนา ภาษาบาลี-ไทยล้านนา ฉบับทองทึบ ไม่มีไม้ประกับ 7 ผูก” RBR_198-199 เป็นชุดเดียวกัน หน้าทับต้น เขียนอักษรไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จันทคาดผูก ๒” ลานแรก ด้านซ้ายมือ ระบุ “จันทฆาต ผูกถ้วน ๒” ท้ายลาน ระบุ “กิริยาอันกล่าวแก้ไขยังนางพรหมจารีบ่นั่งแท่นแก้วก็แล้วเท่านี้ก่อนแลท่านเหย || บริบูรณ์เสด็จแล้ววัน ๑ เดือน ๘ แรม ๑๐ ค่ำ ปีชวด โทศก ร้อยสิบ ๙ แล้วข้าก็ยังมีศรัทธาพร้อมกับด้วยปิตตามาดาพี่น้องญาติกาวงศาชู่ผู้ชู่คน ขอหื้อสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นยอด ข้าขอเอาอายุใบลานเป็นที่เพิ่งแด่เทอะ รัสสภิกขุธรรมสอน เขียนปางเมื่อ(อยู่-เขียนด้วยดินสอดำ)วัดนาหนองแล หนังสือเจ้าจันทฆาต มี ๔ ผูกกับกันแล” และหน้าทับปลาย(เศษลานทำมาใช้เป็นหน้าทับ) ระบุ “แต่ไกลดังอั้นเจ้าก็หนีเข้าไปสู่ป่าหาการตนหั้นแล คันว่านางมารอดเรือนแล้วดังอั้นย่าบริสุทธิ์ก็จิ่งกล่าวเซิ่งนางผ้าขาวว่า ตาต ดูรา เจ้าลูกรักแก่แม่ อันว่า ชายผู้มาจอดเรือนรานี้” และ เขียนอักษรไทยและอักษรธรรมล้านนาด้วยดินสอดำ “ภิขุธรรมะเสนาอยู่วัดนาหนองฯ”, “ธมฺมเสนาฯ” และ “กล่าวจันทฆาต ผูกสอง ก็แล้วเท่านี้ก่อนแล”(ตัวเอียง-อักษรธรรมล้านนา)
RBR_003_195-201 รวมกันอยู่ใน “เลขที่ 40 จันทคาต ผูก 1-4 อักษรธรรมล้านนา ภาษาบาลี-ไทยล้านนา ฉบับทองทึบ ไม่มีไม้ประกับ 7 ผูก” RBR_195-197 เป็นชุดเดียวกัน หน้าทับต้น ระบุ “จันทฆาต ผูกถ้วน ๒ แล” ท้ายลาน ระบุ “กิริยาอันกล่าวแก้ไขยังนางพรหมจารีบ่นั่งแท่นแก้วก็แล้วเท่านี้ก่อนแล ※ บริบูรณ์เสด็จแล้วปีชวด ขึ้น ๗ ค่ำ วัน ๕ บ่าย ๓ โมง แล ๚ ยังมีศรัทธาอาวชายธอง ก็พร้อมกับด้วยภริยาผู้ชื่อว่า นางธิดา กับลูกเต้าพี่น้องชู่ผู้ชู่คนแล เจ้ายังอุบายหาได้ยังโปตฏกํยังใบลานมาหื้อตนตัวผู้ข้าชื่อว่า รัสสภิกขุธรรมสอนแล ผู้สร้างกับผู้เขียน ข้าขอหื้อได้บุญเท่ากันแด่เทอะ เขียนบ่ดีสักน้อย รางตัวก็เท่านิ้วก้อย รางตัวก็เท่าแม่มือ พี่ทุองค์ใดก็ดี พี่พระองค์ใดก็ดี หรือครหัสถ์แลนักบวชได้เล่าได้เรียนได้อ่าน อดส่าห์ผ่อหื้อถี่ถี่ คันว่าผ่อบ่ถี่ ก็บ่รู้แล เพราะว่าตัวบ่ดี เจ็บแอวเต็มที นั่งเขียนบ่ได้ นั่งเขียนพร่อง นอนเขียนพร่องแล หน้าทับเค้า เจ้าจันทฆาต ผูกถ้วน ๒ หน้าทับปลาย จันทฆาต มีกับกัน ๔ ผูก ทั้งมวลแล ทุอาวเหย กา ก้า กล้า ขา ข้า ขล้า มา ม้า มล้า อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ก ข ค ฅ ง จ ส ช ซ ญ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ต ถ ท ธ น ป ผ พ ภ ม ย ล ร ว สฺส ห ฬ อํ อฺย ป ฝ ฟ หฺม หฺน หฺย หฺว หฺง หฺล ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๒๐๒ ๑๐๗ ๕๐๐๐ ๓๐๐๐๐๐” (อักษรตัวเอียงสะกดด้วยอักขรวิธีพิเศษ)