วัดสูงเม่น ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่
CMRU-PR-01-A-0001ตำนานพระธาตุช่อแพร
ตำนานปูชนียสถาน - ปูชนียวัตถุ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึงเมืองพล (เมืองแพร่) ได้ประทับ ณ ดอยโกสัยธชัคคะบรรพต และได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้หัวหน้าชาวลัวะนามว่า ขุนลัวะอ้ายก้อม เห็นในขณะที่เขาได้มากราบไหว้พระองค์ที่บนดอยนี้ เนื่องจาสถานที่นี้เป็นที่ร่มรื่น เหมาะสมที่จะตั้งไว้เป็นสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุที่ระลึก โดยเอาเส้นพระเกศาเส้นหนึ่งให้แก่ขุนลัวะอ้ายก้อมไว้ มีรับสั่งให้เอาเส้นพระเกศานี้ไปไว้ในถ้ำที่อยู่ใกล้ ๆ พร้อมทั้งมีรับสั่งอีกว่า เมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ให้เอาพระบรมสารีริกธาตุพระศอกข้างซ้ายมาบรรจุไว้ ณ สถานที่นี้ด้วย ทรงทำนายว่า ต่อไปภายหน้าจะได้ชื่อว่าเมืองแพร่ จะเป็นเมืองใหญ่ซึ่งพระองค์เคยเสด็จประทับนั่ง ณ ใต้ต้นหมากนี้เมื่อทรงทำนายแล้วก็เสด็จจาริกไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ทรงเห็นว่าควรจะเป็นที่ตั้งพระธาตุได้ จากนั้นจึงเสด็จกลับไปยังพระเชตวันอาราม หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 218 ปี (ตรงกับสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช) พระเจ้าอโศกมหาราชและ พระอรหันต์ทั้งปวงได้ร่วมกันอธิษฐานว่าเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่นั้น เคยเสด็จไปยังถิ่นฐานบ้านเมืองหลายแห่ง แล้วทรงหมายสถานที่ที่ควรจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ จึงขออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ได้บรรจุในโกศที่เตรียมไว้นั้นไปสถิตอยู่ใน สถานที่ซึ่งพระองค์ได้ทรงหมายไว้นั้นเถิด หลังจากการอธิษฐานพระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายก็เสด็จออกจากโกศโดยทางอากาศ ไปตั้งอยู่ที่แห่งนั้นๆ ทุกแห่ง ส่วนพระบรม สารีริกธาตุที่เหลืออยู่ พระอรหันต์ทั้งปวงก็อัญเชิญไปบรรจุในพระเจดีย์ 84,000 องค์ แล้วประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้พิทักษ์รักษาตลอดไป จนกว่าจะหมดอายุแห่งพระพุทธศาสนา 5,000 พระวัสสา (ข้อมูลจาก http://thaiculturebuu.wordpress.com/2010/08/20/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AE-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%88/)