เอกสารโบราณในประเทศไทย

Manuscripts of Thailand

Total : 58 pages , Total amount : 1,845 Records , Total amount : 2 Resources.

สวัสดิรักษา
วัดใหม่นครบาล สวัสดิรักษา
RBR003-018สวัสดิรักษา
ตำราโหราศาสตร์

สวัสดิรักษาคำกลอน แต่งโดยสุนทรภู่ ในสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นคำสอนชายไทยชั้นสูง ให้แนวทางประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันและในการรบ ทั้งที่เป็นข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติ ทั้งการปฏิบัติต่อตนเองและการมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แนวทางปฏิบัติทุกประการล้วนมุ่งรักษา “สิริ” อันจะทำให้เกิดสวัสดิมงคลแก่ตนเอง เพื่อให้ประสบแต่สิ่งดีงามและส่งผลสู่เชื้อสายวงศ์ตระกูลอีกด้วย คำสอนนั้นเริ่มตั้งแต่การปฏิบัติตนเมื่อตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งเข้านอนโดยมุ่งหวังให้เกิดสิริมงคลด้วยการปฏิบัติตนในแต่ละวัน ตามลำดับกาลเทศะและเหตุการณ์อย่างเหมาะสม เช่น เมื่อตื่นนอนในตอนเช้า ต้องไม่โกรธ ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้ เสกน้ำด้วยพระธรรมคาถา รำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วจึงล้างหน้าโดยเริ่มกล่าววาจาที่ดีก่อนก็จะบังเกิดความยั่งยืนเพิ่มพูนศักดิ์ศรีอันประเสริฐเพราะยามเช้าราศีสถิตอยู่ที่ใบหน้า เวลากลางวันนั้นราศีสถิตที่ลำตัวให้อาบน้ำและประพรมด้วยน้ำหอมที่อกก็จะมีสุขสำราญไร้โรค ส่วนในเวลาค่ำนั้นราศีสถิตที่เท้าจึงควรล้างเท้าทั้งสองให้สะอาดและห้ามมิให้สตรีข้ามเท้า เวลากินอาหารให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะทำให้มีอำนาจและอายุยืน หากหันหน้าไปทางทิศใต้ จะมีคนรักใคร่ไปมาหาสู่มิได้ขาด ถ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันตกจะมีความสุขและมียศ ความทุกข์จะบรรเทาลง ห้ามหันหน้าไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นทิศที่ร้าย จะทำให้ถึงสิ้นชีวิตหรือทำให้อายุสั้นลง ข้อมูลจากฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=245

สฬากริวิชชาสูตร
วัดใหม่นครบาล สฬากริวิชชาสูตร
RBR003-372สฬากริวิชชาสูตร
ธรรมคดี

หน้าต้น เขียนอักษรธรรมล้านนา ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “(สลากริวิซาสุฑและ)” และอักษรไทย “(เก็บมาจากวัดทุ่งตาล) ข้าพเจ้าได้อ่านทานดูแล้วน่าใช้ได้ พระกิตติปาโล (ปุย) XXXพันธ์” ลานแรก หัวลาน ระบุ “วิชานสูตรแล” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาสังวรรณนาอันแก้ไขยังสฬากริวิชชาสูตรอันมีในทิพมนต์ผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จบรมวลควรแก่กาลเท่านี้ก่อนแล ก็สมเร็จแล้วเดือน ๓ แรม ๗ ค่ำ พร่ำว่าได้วัน ๗ แลนายเหย เสด็จแล้วยามเมื่อจักใกล้ค่ำ ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปรอดไปเถิงบิตตามาดาครูบาอุปัชฌาย์อาจารย์แห่งข้านี้ชู่ผู้ชู่คนแด่เทอะ ส่วนว่าตนตัวข้านี้ขอสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นที่แล้วเข้าสู่เวียงแก้วเวชไชย ขออย่าหื้อมีโรคาพยาธิเยื่องใด ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปได้ขวางหม้า (ควรเป็น หน้า) หับทับอบายภูมิทั้ง ๔ ขออย่าหื้อได้พบได้หันข้าขอหื้อได้พบพระอริยเมตไตยตนจักมาเกิดภายหน้านี้ จุ่งจักมีเที่ยงแท้ดีหลี คันว่ายังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้อย่าหื้อได้ทุกได้ยากลำบากเหมือนชาตินี้เลย ธุวํ ธุวํ นิจฺจํ นิจฺจํ แก่ข้าเทอะ ตนตัวข้าเขียน ชื่อว่า รัสสภิกขุเตา เขียนปางเมื่ออยู่วัดนครบาลแล” (ตัวเอียง เป็นตัวเลขไทย)

สังรอมธาตุ ผูก 1
หอวัฒนธรรมลาวเวียง วัดโบสถ์ สังรอมธาตุ ผูก 1
RBR004-058สังรอมธาตุ ผูก 1
ธรรมคดี

กล่าวถึง ความเสื่อมของพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากเรื่อง การเสื่อมจากการไม่ปฏิบัติตามสิกขาบทของสามเณร การเสื่อมจากศาสนธรรมในระดับสามัญชน ทั่วไป และปัญจอันตรธาน คือการเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนาไปตามลําดับ เริ่มตั้งแต่การเสื่อม สูญจากการบรรลุธรรม การเสื่อมสูญจากการปฏิบัติธรรม การเสื่อมสูญจากการไม่เล่าเรียนศึกษาหลักธรรม การเสื่อมสูญของเพศนักบวช และการอันตรธานหายไปของพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า เมื่อพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้าเสื่อมสลายไป จึงถือว่าหมดสิ้นพุทธศาสนา รวมระยะเวลา 5,000 ปี

สังรอมธาตุ ผูก 2
หอวัฒนธรรมลาวเวียง วัดโบสถ์ สังรอมธาตุ ผูก 2
RBR004-059สังรอมธาตุ ผูก 2
ธรรมคดี

วรรณกรรมเรื่องสังฮอมธาตุ กล่าวถึง ความเสื่อมของพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากเรื่อง การเสื่อมจากการไม่ปฏิบัติตามสิกขาบทของสามเณร การเสื่อมจากศาสนธรรมในระดับสามัญชน ทั่วไป และปัญจอันตรธาน คือการเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนาไปตามลําดับ เริ่มตั้งแต่การเสื่อม สูญจากการบรรลุธรรม การเสื่อมสูญจากการปฏิบัติธรรม การเสื่อมสูญจากการไม่เล่าเรียนศึกษาหลักธรรม การเสื่อมสูญของเพศนักบวช และการอันตรธานหายไปของพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า เมื่อพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้าเสื่อมสลายไป จึงถือว่าหมดสิ้นพุทธศาสนา รวมระยะเวลา 5,000 ปี

สังรอมธาตุ ผูก 4
หอวัฒนธรรมลาวเวียง วัดโบสถ์ สังรอมธาตุ ผูก 4
RBR004-060สังรอมธาตุ ผูก 4
ธรรมคดี

วรรณกรรมเรื่องสังฮอมธาตุ กล่าวถึง ความเสื่อมของพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากเรื่อง การเสื่อมจากการไม่ปฏิบัติตามสิกขาบทของสามเณร การเสื่อมจากศาสนธรรมในระดับสามัญชน ทั่วไป และปัญจอันตรธาน คือการเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนาไปตามลําดับ เริ่มตั้งแต่การเสื่อม สูญจากการบรรลุธรรม การเสื่อมสูญจากการปฏิบัติธรรม การเสื่อมสูญจากการไม่เล่าเรียนศึกษาหลักธรรม การเสื่อมสูญของเพศนักบวช และการอันตรธานหายไปของพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า เมื่อพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้าเสื่อมสลายไป จึงถือว่าหมดสิ้นพุทธศาสนา รวมระยะเวลา 5,000 ปี