จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเชียงมั่น

จารึก

จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเชียงมั่น

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 21:31:55 )

ชื่อจารึก

จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเชียงมั่น

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

ชม. 71, ชม. 71 จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเชียงมั่น, 1 วัดเชียงมั่น

อักษรที่มีในจารึก

ธรรมล้านนา

ศักราช

พุทธศักราช 2008

ภาษา

บาลี, ไทย

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 4 บรรทัด

วัตถุจารึก

สำริด

ลักษณะวัตถุ

ฐานพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร

ขนาดวัตถุ

สูง 176 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “ชม. 71 จารึกฐานพระพุทธรูปวัดเชียงมั่น”
2) ในหนังสือ คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ กำหนดเป็น “1 วัดเชียงมั่น”

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

วัดเชียงมั่น ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้พบ

ไม่ปรากฏหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ที่

ภายในวิหารวัดเชียงมั่น วัดเชียงมั่น ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พิมพ์เผยแพร่

คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519), 55-56.

ประวัติ

จารึกนี้อยู่บนฐานพระพุทธรูปสำริด ปางอุ้มบาตรพระหัตถ์และรัศมีเป็นไม้ จีวรบางส่วนมีการบูรณะด้วยปูน ฐานพระพุทธองค์นี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ข้อความจารึกเริ่มจากฐานด้านขวาพระหัตถ์ของพระพุทธรูป ด้านหน้าและด้านซ้ายตามลำดับ

เนื้อหาโดยสังเขป

ตอนต้นเป็นคาถาย่ออริยสัจ 4 ภาษาบาลี จากนั้นกล่าวถึงรายนามผู้เป็นประธานในการสร้างพระพุทธรูปซึ่งได้แก่ มหาชวปัญญาณ มหาพุทธญาณ มหาสัทธรรมราชมุนี มหาธรรมกิตติ บงหวา [น] ? มหาเถรอารีย และระบุชื่อนางเลาผู้ค้ำชู (ศาสนา?)

ผู้สร้าง

มหาชวปัญญาณ มหาพุทธญาณ มหาสัทธรรมราชมุนี มหาธรรมกิตติ บงหวา [น] ?

การกำหนดอายุ

กำหนดอายุจากศักราชที่ปรากฏในจารึกคือ จุลศักราช 827 ตรงกับ พ.ศ. 2008 ในรัชกาลพระเจ้าติโลกราช แห่งราชวงศ์มังราย (ครองราชย์ พ.ศ. 1984-2030)

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2548, จาก :
ฮันส์ เพนส์, “1 วัดเชียงมั่น,” ใน คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519), 55-56.

ภาพประกอบ

ภาพถ่ายจารึกจาก : คำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2519)