อายุ-จารึกพุทธศตวรรษที่ 23, อายุ-จารึก พ.ศ. 2225, ยุคสมัย-จารึกสมัยอยุธยา, ยุคสมัย-จารึกสมัยอยุธยา-สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, วัตถุ-จารึกบนไม้, ลักษณะ-จารึกบนแผ่นรูปสี่เหลี่ยม, ที่อยู่ปัจจุบัน-จารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์, ศาสนา-จารึกในพระพุทธศาสนา, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ, เรื่อง-การบริจาคและการทำบุญ-สร้างธรรมาสน์,
โพสต์เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2550 11:08:09 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 11:13:09 )
ชื่อจารึก |
จารึกบนแผ่นไม้บุษบกธรรมาสน์ วัดมณีชลขัณฑ์ |
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ |
ลบ. 32 |
อักษรที่มีในจารึก |
ไทยอยุธยา |
ศักราช |
พุทธศักราช 2225 |
ภาษา |
ไทย |
ด้าน/บรรทัด |
จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 11 บรรทัด |
วัตถุจารึก |
ไม้ |
ลักษณะวัตถุ |
แผ่นรูปสี่เหลี่ยม |
ขนาดวัตถุ |
กว้าง 48 ซม. สูง 67 ซม. หนา 14 มม. |
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ |
ในหนังสือ สมเด็จพระนารายณ์และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 : บทวิเคราะห์ทางวิชาการเกี่ยวกับสัมพันธภาพไทย-ฝรั่งเศส รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ กำหนดเป็น “จารึกบนแผ่นไม้บุษบกธรรมาสน์ วัดมณีชลขัณฑ์” |
ปีที่พบจารึก |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
สถานที่พบ |
วัดมณีชลขัณฑ์ ตำบลพรหมมาสตร์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี |
ผู้พบ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน |
ปัจจุบันอยู่ที่ |
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี (สำรวจเมื่อ 17-20 มีนาคม 2560) |
พิมพ์เผยแพร่ |
สมเด็จพระนารายณ์และพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 : บทวิเคราะห์ทางวิชาการเกี่ยวกับสัมพันธภาพไทย-ฝรั่งเศส รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2530), 80-82. |
ประวัติ |
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2525 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ได้ขอรับมอบชิ้นส่วนธรรมาสน์ ที่เก็บรักษาอยู่ในศาลาวัดมณีชลขัณฑ์ มาจัดแสดง ลักษณะของบุษบกเป็นเรือนยอดขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาซ้อนกันเป็นชั้นๆ เรียวเล็กขึ้นไปจนถึงปลายสุดเป็นยอดแหลม ตัวเรือนโปร่งสำหรับภิกษุนั่งแสดงธรรม มีบันไดทางขึ้นข้างบุษบก จุดเด่นคือ ทรวดทรงหรือเส้นโค้งที่สอบเข้าในแนวดิ่ง หรือผายออกอย่างสัมพันธ์กัน ตั้งแต่ฐาน เรือน และหลังคา เส้นอ่อนโค้งในแนวระนาบ ลักษณะเป็นโค้งสำเภาของฐานและหลังคาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะอยุธยาตอนปลาย ฝีมือการสร้างอยู่ในระดับช่างหลวง ส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจของบุษบกนี้ ได้แก่ ฐานสิงห์ มีลักษณะโค้งสำเภา บันไดนาค (ไม่สมบูรณ์) ลำตัวนาคสลักเป็นเกล็ดซ้อนกัน หัวนาคชูคอตั้งขึ้น ปากคาบลูกแก้ว บันแถลง ใช้เป็นส่วนประดับหลังคา นาคปัก เป็นนาค 5 เศียรปักมุมหลังคา กระจัง มีลักษณะเป็นลายคล้ายรูปกลีบบัวที่เรียงต่อกัน พรหมพักตร์ อยู่ใต้บัวกลุ่ม สวมศิราภรณ์และกุณฑลเป็นตุ้มแหลมขนาดใหญ่ ช่างที่สร้างบุษบกนี้มีการสลักตัวเลขบนชิ้นส่วนต่างๆ ของธรรมาสน์แต่ละชิ้น ไว้ภายใน คงเพื่อเป็นที่สังเกตเมื่อจะประกอบส่วนต่างๆ ตัวเลขที่ปรากฏมีรูปแบบที่เทียบเคียงได้กับตัวเลขไทยสมัยพระนารายณ์มหาราช ที่ ลา ลูแบร์ ทูตฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยเมื่อ พ.ศ. 2230 รวบรวมไว้ สอดคล้องกับศักราชที่ปรากฏในจารึกซึ่งระบุ พ.ศ. 2225 ในรัชกาลเดียวกัน จารึกดังกล่าวอยู่บริเวณด้านล่างของแผ่นไม้ปูพื้นที่นั่งสำหรับภิกษุ จารึกนี้นับว่ามีคุณค่ามาก เนื่องจากมีโบราณวัตถุจำนวนน้อยชิ้นที่มีการระบุประวัติการสร้างอย่างชัดเจน นักประวัติศาสตร์ศิลปะสามารถนำรูปแบบลวดลายต่างๆ ที่ปรากฏ ไปเทียบเคียงกับงานศิลปกรรมอื่นๆ ที่ไม่ปรากฏศักราชได้ อนึ่ง ในสมัยอยุธยามีความนิยมในการสร้างบุษบกธรรมาสน์เพื่อถวายวัด เนื่องด้วยความศรัทธาหรือเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้ลดความนิยมลงไป เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลาในการสร้างนาน เพราะต้องใช้ไม้เนื้อดี และช่างต้องมีความประณีตสูง |
เนื้อหาโดยสังเขป |
กล่าวถึงประวัติการสร้างบุษบกธรรมาสน์หลังนี้เมื่อ พ.ศ. 2225 และรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย |
ผู้สร้าง |
ขุนศรีเทพบาลราชรักษาและแม่ออกบัน |
การกำหนดอายุ |
กำหนดอายุจากศักราชที่ปรากฏในจารึก คือ พ.ศ. 2225 ตรงกับสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) |
ข้อมูลอ้างอิง |
เรียบเรียงข้อมูลโดย : พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2547, จาก : |
ภาพประกอบ |
ภาพถ่ายจารึกจากการสำรวจภาคสนาม : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), สำรวจเมื่อ 17-20 มีนาคม 2560 |