จารึก

The Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
  • images

คำอ่าน-แปล

จารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ

จารึก

จารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ

QR-code edit Share on Facebook print

เวลาที่โพส โพสต์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2550 13:59:58 ( อัพเดทเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566 22:31:42 )

ชื่อจารึก

จารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ

ชื่อจารึกแบบอื่นๆ

หลักที่ 12 ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ, ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ พุทธศตวรรษที่ 20, สท. 24

อักษรที่มีในจารึก

ขอมสุโขทัย

ศักราช

พุทธศักราช 1970

ภาษา

บาลี

ด้าน/บรรทัด

จำนวนด้าน 1 ด้าน มี 7 บรรทัด

วัตถุจารึก

หินชนวน

ลักษณะวัตถุ

แผ่นสี่เหลี่ยมสลักรอยพระยุคลบาท

ขนาดวัตถุ

ยาว 360 ซม. กว้าง 217 ซม. หนา 20 ซม.

บัญชี/ทะเบียนวัตถุ

1) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “สท. 24”
2) ในหนังสือ ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 1 กำหนดเป็น “หลักที่ 12 ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ”
3) ในหนังสือ จารึกสมัยสุโขทัย กำหนดเป็น “ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ พุทธศตวรรษที่ 20”

ปีที่พบจารึก

ไม่ปรากฏหลักฐาน

สถานที่พบ

วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ผู้พบ

สันนิษฐานว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาศักดิพลเสพย์ ในรัชกาลที่ 3 ทรงนำมาจากเมืองสุโขทัย

ปัจจุบันอยู่ที่

วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (สำรวจเมื่อ 10 พฤษภาคม 2558)

พิมพ์เผยแพร่

1) ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 1 ([กรุงเทพฯ] : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2521), 140-143.
2) จารึกสมัยสุโขทัย (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2526), 265-268.

ประวัติ

รอยพระพุทธยุคลบาท คือรอยพระพุทธบาททั้งเบื้องขวาเบื้องซ้ายนี้ สลักอยู่ตรงกลางแผ่นหินใหญ่ ยาว 360 ซม. กว้าง 217 ซม. ด้านข้าง 20 ซม. รอบๆ รอยพระพุทธบาทมีรอยสลักเป็นรูปพระมหาสาวก (อสีติมหาสาวก) และจารึกอักษรบอกพระนามพระมหาเถรกำกับไว้ด้วย จารึกอักษรดังกล่าวส่วนมากลบเลือน ที่ด้านข้างแผ่นหินข้างปลายรอยพระพุทธบาท มีคำจารึกภาษาบาลี อักษรขอมสุโขทัย 7 บรรทัด หนังสือ ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 1 ได้กล่าวถึงศิลาจารึกหลักนี้ไว้ดังนี้ “รอยพระพุทธยุคลบาทนี้ ไม่ปรากฏว่าได้มาจากไหน (จากเมืองพิษณุโลก) ก่อนตกมาอยู่ในวังหน้า มีแต่คำเล่ากันต่อๆ มาว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ ได้ทรงนำมาจากสุโขทัยจึงได้ประดิษฐานอยู่ในวังหน้า จนได้ย้ายไปวัดบวรนิเวศ คำจารึกหลักนี้ได้เคยมีนักปราชญ์ฝรั่งเศส ชื่อ ม. บาร์ถ แปลและพิมพ์ในหนังสือสยามอองเซียง”

เนื้อหาโดยสังเขป

“คำจารึกนั้นมีใจความว่า ครั้งแผ่นดินพระธรรมราชา (ที่ 2) (น่าจะเป็นพระมหาธรรมราชาที่ 3 ไสยลือไทย) พระวิทยาวงศ์มหาเถรได้นำแผ่นหินมายังเมืองสุโขทัย ครั้นมาในแผ่นดินพระธรรมราชาที่ 4 พระสิริสุเมธังกรสังฆนายก ผู้เป็นศิษย์ของพระสิริสุเมธังกรสังฆราช ได้สลักรอยพระพุทธบาททั้งคู่ลงบนแผ่นหินนั้น ตามแบบรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสมันตกูฏ ในลังกาทวีป เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 6 ขึ้น 4 ค่ำ พระพุทธศักราช 1970 ข้าพเจ้า (ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์) สงสัยว่า พระสิริสุเมธังกรสังฆนายก หรือพระสิริสุเมธังกรสังฆราชองค์ใดองค์หนึ่งจะเป็นองค์เดียวกันกับพระมหาเมธังกรเถร ซึ่งในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ กล่าวไว้ว่า พระมหาเมธังกรนั้นเป็นชาวเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 1966 ได้ไปถึงลังกาทวีปพร้อมด้วยภิกษุ 32 องค์ และเวลากลับมาจากลังกาแล้ว ได้ตั้งคณะสิงหลภิกาขึ้นในเมืองไทยทั่วไป”

ผู้สร้าง

พระสิริสุเมธังกรสังฆนายก

การกำหนดอายุ

จารึกบรรทัดที่ 2 มีข้อความบอกศักราช คือ “ศุกลปักษ์ จตุตถดิถี” ซึ่งตรงกับ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 1969 แบบปัจจุบัน แต่สมัยสุโขทัยนับปีย่าง จึงเรียก พ.ศ. 1970

ข้อมูลอ้างอิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย : วชรพร อังกูรชัชชัย และดอกรัก พยัคศรี, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., 2546, จาก :
1) ยอร์ช เซเดส์, “หลักที่ 12 ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ,” ใน ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 1 : เป็นจารึกกรุงสุโขทัยที่ได้พบก่อน พ.ศ. 2467 ([กรุงเทพฯ] : คณะกรรมการพิจารณาและจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์, สำนักนายกรัฐมนตรี, 2521), 140-143.
2) ยอร์ช เซเดส์, “ศิลาจารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ พุทธศตวรรษที่ 20,” ใน จารึกสมัยสุโขทัย (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2526), 265-268.

ภาพประกอบ

ภาพสำเนาจารึกจาก : ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ 1 ([กรุงเทพฯ] : สำนักนายกรัฐมนตรี, 2521)