“อนึ่ง บุคคลกระทำอาจิณกรรมแลปัญจานันตริยกรรมก็ดี และหมู่มิจฉาทิฐิภายนอกพระศาสนาก็ดี บุคคลอันประทุษร้ายแก่ท่านผู้เป็นสัปบุรุษอันมากไปด้วยศีลคุณ สมาธิคุณ ปัญญาคุณก็ดี ประทุษร้ายแก่ท่านอันได้ธรรมวิเศษ มีพระโสดาเป็นต้นนั้นก็ดี คนเหล่านี้ครั้นทำลายเบญจขันธ์แล้วก็ไปตกในมหาอเวจีนรก ดุจเทวทัตอันประทุษร้ายแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า และกายพระเทวทัตนั้นสูงได้ 10 โยชน์ เท้าทั้ง 2 อยู่ในแผ่นดินเหล็กเพียงข้อเท้า ศีรษะจมอยู่ในฝาปิดเบื้องบนเพียงหมวกหูทั้ง 2 หลาวเหล็กใหญ่ๆ เท่าลำตาลนั้นตอกไว้ มิอาจไหวตัวได้ตราบเท่าทุกวันนี้ และบุคคลอันกระทำอกุศลกรรม คือ ปัญจานันตริยกรรมและอาจิณกรรม และมิจฉาทิฐิ ดุจพรรณนามาแล้วนั้นก็ดี เมื่อตกในมหาอเวจีนรกแล้วก็มีกรรมสาหัสดุจเทวทัต อนึ่งในคัมภีร์สังยุตว่าคนอันเป็นนักเลงฟ้อนและขับ มีต้นว่านักเลงโขน ละครมอญรำ อันกระทำด้วยกายประโยค และนักเลงอันกล่าวเพลงขับต่างๆ ด้วยถ้อยคำอันเหลาะแหละลวงโลกย์ให้หลงใหลหาประโยชน์มิได้นั้นก็ดี ก็ย่อมไปตกในประเทศข้างหนึ่งอันเป็นอาณาเขตมหาอเวจีนรก ทนทุกข์เวทนามีอาการให้ร้องไห้ร้องครางอยู่นั้นครุวนาดุจขับร้อง และอาการที่เพลิงไหม้ทนมิได้ก็เต้นโลดไปมานั้น มีครุวนาดุจดั่งว่าจะฟ้อนรำ เมื่อตนอยู่ในมนุษย์นั้นย่อมขับฟ้อนล่อลวงโลกย์ให้หลงด้วยอาการฉันใด ก็ให้อยู่ด้วยอาการดังนั้นแลสัตว์ในมหาอเวจีนรกนั้นมีอายุศม์ได้อันตรกัลป์ 1 เป็นกำหนด”
ผู้เขียน : นวพรรณ ภัทรมูล
คำสำคัญ : จารึกเรื่องนิรยกถา จารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ จารึกวัดโพธิ์ นรกในจารึก